กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--อินโฟเควสท์
บมจ. อาร์ เค มีเดีย โฮลดิ้ง (RK) เผยขายหุ้น 3 บริษัทย่อยเพราะขาดทุนมานาน และในระยะสั้นอาจฟื้นยาก คาดขั้นตอนขายบริษัทย่อยเสร็จสิ้นใน พ.ค.นี้ ส่วนการเปลี่ยนชื่อเป็น"บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น"ล้างภาพวิทยุภูธร มุ่งไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง ทำธุรกิจสื่อและนิวมีเดีย โดยขณะนี้ได้เจรจากับพันธมิตร 2 ราย รายหนึ่งตกลงเข้าไปเทคโอเวอร์แล้ว ส่วนอีกรายกำลังทำ Due Diligence คาดทั้งสองรายจะสรุปเรียบร้อยได้ภายใน เม.ย.นี้ และยังเดินหน้าหาพันธมิตรเสริมธุรกิจสื่อด้านอื่นทดแทนวิทยุ อาจเป็นการเทคโอเวอร์หรือร่วมทุน
นายกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RK เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การขายหุ้น บ.ย่อย 3 แห่งให้นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้เป็นตัวที่ทำให้เราขาดทุนมา 2 ปีติดต่อกัน และในระยะยสั้นเรามองว่าไม่น่าจะฟื้นอีกทั้งไม่มีความชัดเจนเรื่องของวิทยุชุมชน
"อีกทั้งคุณกิตติภัทร์มีความสายสัมพันธ์กับผู้บริหารของบริษัท ซึ่งแม้จะรู้ดีว่าธุรกิจดังกล่าวขาดทุนมานาน แต่ก็ยินดีที่จะซื้อ เพราะมีความเข้าใจธุรกิจ และอยู่กับธุรกิจนี้มานาน ซึ่งถ้าอยู่กับเราต่อไปเราคงจะปิด..ส่วนราคาที่ขาย 23 ล้านบาท ต่ำกว่า Book Value เล็กน้อย แต่ว่าการที่ขาดทุนไปเรื่อยๆ Book Value ก็จะต่ำกว่านี้อีก เพราะฉะนั้นในแง่ของโฮลดิ้ง เราก็ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัท ถ้าเกิดเราฟื้นมันไม่ได้เราก็ต้องทิ้ง ไม่งั้นจะเป็นภาระไปเรื่อยๆ"นายกิตติวัฒน์ กล่าว
บริษัทจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น 27 เม.ย.และจะเซ็นสัญญาโอนหุ้นกันประมาณเดือน พ.ค.
เช้านี้ RK แจ้งการจำหน่ายหุ้นบริษัท อาร์ เค มีเดีย จำกัด (RKM) จำนวน 829,994 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 100 บาท ชำระเต็มมูลค่าแล้ว หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของ RKM, จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ไอ. ที. เวิลด์ มีเดีย จำกัด (ITW) จำนวน 869,994 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 100 บาท ชำระเต็มมูลค่าแล้ว หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของ ITW
และจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท เอส ไอ ดอทคอม (ประเทศไทย) จำกัด (SI) จำนวน 14,997 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ชำระเต็มมูลค่าแล้ว หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.50 ของ SI
นายกิตติวัฒน์ กล่าวว่า การเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น (ADAMAS) เป็นการรีแบรนดิ้ง เนื่องจากต้องการล้างภาพของธุรกิจเก่าและชื่อเดิมออกไปให้หมด
"เพราะว่าภาพของอาร์ เคฯ คุยกับใครเค้าก็บอกว่าคือวิทยุภูธร เราไม่อยากจะติดกับภาพเหล่านี้ก็ต้องเกิดการรีแบรนด์ให้เข้าสู่ยุคใหม่มากขึ้น"นายกิตติวัฒน์ กล่าว
บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น ในยุคใหม่ จะมุ่ง Lifestyle Marketing โดยตัวอาดามัสจะยังคงทำหน้าที่เป็นโฮลดิ้ง ส่วนการดำเนินธุรกิจจากนี้ไปจะใช้บริษัท อาร์ แอนด์ ที มีเดีย(R&T) ซึ่งต่อไปจะเปลี่ยนเป็นบริษัท อาดามัส มีเดีย จำกัด เป็นแกน ธุรกิจหลักจะเน้นไปที่ธุรกิจอีเว้นท์ คอนเสิร์ต การประกวดมิสยูลีก มีรายการทีวี นอกจากนี้ยังมีบริษัทลูกอื่นๆ ที่ทำธุรกิจนิวมีเดีย เว็ปไซต์ SMS ไอที ผลิตคอนเทนท์
"จากนี้ไปรายได้ของบริษัทจะมาจากธุรกิจที่กล่าวมาทดแทนรายได้จากธุรกิจวิทยุที่จากนี้จะเหลือเป็น 0%"นายกิตติวัฒน์ กล่าว
นายกิตติวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทกำลังมองหาพันธมิตรเข้ามาเสริมศักยภาพ โดยขณะนี้ได้ทำการเทคโอเวอร์กิจการบริษัท สมาย แทรคทีฟ เรียบร้อยแล้ว และอีกรายเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านซอฟท์แวร์ คือ เอเชียบิซ โซลูชั่น ซึ่งบอร์ดอนุมัติแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการทำ Due Diligence คาดว่าเดือน เม.ย.นี้น่าจะจบ
และยังมองหาพันธมิตรเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะเป็นการเข้าไปเทคโอเวอร์หรือร่วมทุนกัน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนจากเงินเพิ่มทุน ซึ่งยังเหลืออีกประมาณ 60 ล้านบาท เงินที่ได้จากการขายหุ้น 3 บริษัทย่อยจำนวน 23 ล้านบาท นอกจากนี้เงินบาทส่วนอาจจะ
มาจากรายได้จากคอนเสิร์ต"เรน"ซึ่งขณะนี้สามารถถึงจุดคุ้มทุน(Break Event)ที่ 70 ล้านบาทแล้ว
"ส่วนจะต้องมีการกู้เงินสถาบันการเงินหรือไม่ขึ้นอยู่กับขนาดของดีล ถ้าดีลใหญ่ และดีจริงๆ ก็อาจจะต้องกู้"นายกิตติวัฒน์ กล่าว
นายกิตติวัฒน์ กล่าวว่า ที่บริษัทเคยคาดว่ารายได้ปี 50 จะอยู่ที่ 200 ล้านนั้น คาดว่าทำได้แน่นอนด้วยโครงสร้างรายได้ใหม่