สุวิทย์ ยอดมณี รมว.กก. มอบนโยบายประหยัดพลังงานต้านภัยโลกร้อน และการตลาดเพื่อการท่องเที่ยว

ศุกร์ ๒๔ สิงหาคม ๒๐๐๗ ๑๒:๐๖
กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--ททท.
ร้อยโท สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 14/2550 โดยมี นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ ปลัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2550
ในการประชุมดังกล่าว ร้อยโท สุวิทย์ ยอดมณี รมว.กก. ได้มอบนโยบายในการบริหารการจัดการพลังงานต้านภัยโลกร้อน และการตลาดเพื่อการท่องเที่ยว ดังนี้
1. นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับนโยบายประหยัดพลังงานต้านภัยโลกร้อน โดยมอบให้ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างทุกคน ทุกระดับ ในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ดังนี้
1.1 ร่วมกันประหยัดการใช้พลังงานทุกประเภทอย่างระมัดระวัง อาทิ การใช้เครื่องปรับอากาศ กำหนดให้ตั้งอุณหภูมิ ไว้ที่ 25 -26 องศาเซลเซียสเท่านั้น
1.2 การจัดซื้อจัดจ้างทุกประเภท จะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(Environment Friendly) อาทิ การใช้บริการโรงแรม หรือที่พักต่างๆ จะต้องไม่สร้างขยะเพิ่ม หรือทำให้โลกร้อนเพิ่ม
1.3 ให้คณะผู้บริหารทุกคน เป็นตัวอย่างที่ดีในการรณรงค์และควบคุมการประหยัดพลังงาน ต้านภัยโลกร้อน
2. นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เกี่ยวกับการตลาดเพื่อการท่องเที่ยว ให้แก่หน่วยงานทางด้านท่องเที่ยวและกีฬา ในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ดังนี้
2.1 เน้นการท่องเที่ยววิถีไทย
2.2 เน้นการท่องเที่ยวในโครงการพระราชดำริต่างๆ
2.3 เน้นไทยเที่ยวไทย
2.4 เน้นชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว
2.5 เน้นนโยบายนักท่องเที่ยวคุณภาพ
นอกจากนี้ ร้อยโท สุวิทย์ ยอดมณี ได้เปิดเผยถึงการประเมินผลผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ว่า ตนเองในฐานะประธานบอร์ด กกท. ยอมรับ ความผิดพลาดที่ตั้งกฎเกณฑ์ประเมินผู้ว่า กกท. ไว้สูงเกินไป และใช้งานผู้ว่า กกท. มากเกินไป ในกรณีเร่งด่วนต่างๆ จำนวนถึง 21 ข้อสั่งการ โดยไม่ขอกล่าวว่าเป็นความผิดของใคร แต่ตนเองขอยอมรับผิดแทน และขอให้ทุกคนมองโลกในแง่ดี ว่า สภาวการณ์ ต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไป จากเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ถือว่า เป็นบทเรียน ในการประเมินผลในครั้งต่อไปด้วย
สำหรับ การเสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คนต่อจาก นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ ที่จะเกษียณอายุในวันที่ 30 กันยายน 2550 นี้ จะใช้หลักเกณฑ์เลือกคนในกระทรวงฯ เป็นประเด็นหลัก จะใช้หลักการประเมินผลที่มีความถูกต้อง เป็นธรรม สร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้บริหาร พิจารณาความสามารถที่จะขึ้นเป็นปลัดกระทรวงฯ ได้ และสอดรับกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เกี่ยวกับ การที่ผู้จะขึ้นเป็นปลัดกระทรวงฯ ได้ จะต้องมีอายุราชการเหลืออย่างน้อย 2 ปี ขึ้นไปด้วย ซึ่งผู้มีสิทธิที่จะขึ้นเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีจำนวน 5 คน ที่เป็นข้าราชการ ระดับ 10 ดังนี้ 1. นายภิรมย์ สิมะเสถียร รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อายุ 59 ปี 2. นายทินกร นำบุญจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากีฬาและนันทนาการ อายุ 57 ปี 3. นายสมบัติ คุรุพันธุ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อายุ 56 ปี 4. นางขนิษฐา มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว อายุ 55 ปี และ 5. นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อายุ 52 ปี ทั้งนี้ จะพิจารณาเสนอ ครม. เห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใน 1 สัปดาห์ นับจากนี้ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ