ชาวบ้านมาบตาพุดยื่นหนังสือขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ

จันทร์ ๐๙ เมษายน ๒๐๐๗ ๑๘:๒๐
กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--สช.
วันนี้ (9 เมษายน 2550) ที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ที่ได้รับผลกระทบจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง มายื่นหนังสือต่อนายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เพื่อขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550
นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวว่า พวกเรามายื่นหนังสือต่อเลขาธิการ สช. เพราะเราเห็นว่าเป็นกลไกใหม่ที่น่าจะช่วยแก้ปัญหาให้กับคนมาบตาพุดได้ ทุกวันนี้ในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง มีนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมผาแดง นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก และนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ซึ่งก่อมลพิษทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางสังคม เช่น ตรวจพบสารอินทรีย์ระเหย ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง เป็นสาเหตุให้คนมาบตาพุดเกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตสูงขึ้น มีการตรวจพบโลหะหนักเกินค่ามาตรฐานในแหล่งน้ำ ทั้งน้ำใต้ดินและผิวดิน มีการกัดเซาะชายฝั่ง มีผู้ป่วยโรคทางจิตมากขึ้น และมีสถิติการฆ่าตัวตายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อสุขภาวะของคนในพื้นที่มาบตาพุดและคนระยองมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน และปัจจุบันนี้กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ ในขณะที่ปัญหาเดิมยังไม่ได้รับการเยียวยาและแก้ไข แต่ภาครัฐยังซ้ำเติมชาวบ้านด้วยการผลักดันให้มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดและขยายออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอีก ทั้งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าก๊าซ และการขยายอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 3 อีก ดังนั้นพวกเราต้องปกป้องสุขภาวะของพวกเรา โดยการขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ ดังนี้
1. อ้างสิทธิในมาตรา 5 ชาวมาบตาพุดและชาวระยองมีสิทธิในการดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ
2. อ้างสิทธิในมาตรา 10 ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมดเร่งดำเนินการ ชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการทำอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด
3. อ้างสิทธิในมาตรา 11 ขอให้ก่อนที่รัฐบาลจะตัดสินใจขยายอุตสาหกรรมระยะต่อไป จะต้องประเมินผลกระทบทางสุขภาพจากนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ จ.ระยอง
4. ขอให้มีการจัดสมัชชาสุขภาพ ตามมาตรา 40 เพื่อนำไปสู่การใช้ความรู้และปัญญาในการแก้ไขปัญหาและความขัดแย้ง รวมถึงการพัฒนาศักยภาพชุมชนให้มีส่วนร่วมกำหนดนโยบายสาธารณะในพื้นที่และนำไปสู่การสร้างความเป็นธรรมทางด้านสุขภาพของคนมาบตาพุดและคนระยอง
“เราหวังว่า พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ แม้จะเป็นกฎหมายที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อไม่นานมานี้ แต่เราเห็นว่าเป็นกลไกที่ดี น่าจะเป็นความหวังของพวกเรา ในการแก้ปัญหาต่างๆ ของพวกเราได้ ขณะนี้ปัญหาด้านสุขภาพ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อมมีมากอยู่แล้วและยังไม่ได้รับการแก้ไข รัฐยังมีนโยบายจะขยายพื้นที่อุตสาหกรรมออกไปอีก ทุกวันนี้โรงงานล้นจนเราเองไม่รู้จะอยู่กันอย่างไรแล้ว” นายสุทธิกล่าว
ด้านนายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวขอบคุณชาวบ้านที่สนใจนำ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติมาใช้ในกรณีมาบตาพุด พร้อมทั้งบอกว่า กฎหมายนี้ไม่ได้มีอำนาจสั่งการ ไม่ได้มีอำนาจอนุมัติ อนุญาตใดๆ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ให้ทุกฝ่ายร่วมกันใช้กระบวนการทางปัญญา โดย สช.มีหน้าที่ในการประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาปรึกษา และหาแนวทางการทำงานร่วมกัน ทั้งหน่วยงานที่กำลังจะทำการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ เคยทำการประเมินผลกระทบกรณีมาบตาพุด และเคยทำการประเมินผลกระทบกรณีนิคมอุตสาหกรรม มาพูดคุยกันเพื่อวางกรอบการทำงานและตั้งทีมทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาของคนมาบตาพุดและคนระยอง และจะสนับสนุนให้เกิดการจัดสมัชชาสุขภาพในพื้นที่จังหวัดระยองเพื่อให้เกิดการพูดคุยกัน ร่วมกันออกแบบการอยู่ด้วยกันของคนในพื้นที่ ซึ่งอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงในทันที แต่ปัญหาค่อยๆ คลี่คลายไปได้
“แม้กฎหมายนี้จะเป็นกฎหมายใหม่ เพิ่งประกาศใช้ได้ไม่นาน และขณะนี้ยังไม่มีคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) แต่เมื่อปัญหาของชาวบ้านเกิดขึ้นแล้ว และรอไม่ได้ เราทุกคนต้องทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างสุขภาวะของคนมาบตาพุด” นายแพทย์อำพลกล่าว
รศ.ดร.เรณู เวชรัชต์พิมล อาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ ม.ศิลปากร ได้รายงานผลการศึกษาพบว่าสารพันธุกรรม (DNA) ของคนมาบตาพุดที่ตรวจพบจากเนื้อเยื่อในกระพุ่งแก้มถูกทำลายในปริมาณมากกว่า 100 เซลล์ ในขณะนี้ที่คนปกติในจังหวัดอื่นๆ จะพบความผิดปกติอยู่ในระดับ 0-5 เซลล์เท่านั้น ซึ่งใช้วิธีการตรวจโดยใช้มาตรฐานจากต่างประเทศที่ตรวจผู้ที่ทำงานในโรงงานที่มีภาวะเสี่ยงอันตราย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
โทร.02-590-2304 โทรสาร 02-590-2311
www.nationalhealth.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version