พาโนราม่า ทุ่มงบกว่า 70 ล้าน ผลิตสารคดีคุณภาพรวดเดียว 7 เรื่อง

กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--พาโนราม่า เวิลด์ไวด์
“พาโนราม่า เวิลด์ไวด์” มือหนึ่งแห่งวงการสารคดีเมืองไทย งัดกลยุทธ์เน้นพัฒนาคนและอุปกรณ์ให้ทันสมัยตลอดเวลา เพื่อสร้างสรรค์งานคุณภาพ รองรับแผนทำตลาดบุกต่างประเทศ วาดฝันติด 1 ใน 3 อันดับของผู้ผลิตสารคดีระดับเอเชีย ล่าสุด ทุ่มงบกว่า 70 ล้าน ผุดสุดยอดสารคดีคุณภาพทั้งหมดจำนวน 7 เรื่อง หวังปลุกกระแสค่านิยมคนไทยให้หันกลับมาดูสารคดีคุณภาพ โดยฝีมือคนไทย ตั้งเป้าปีนี้โกยรายได้เฉียด 100 ล้าน เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ทาวน์ อิน ทาวน์-นายชนินทร์ ชมะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด เปิดเผยถึงแผนดำเนินธุรกิจในปี 50 ว่า บริษัทฯ มีนโยบายผลิตสารคดีคุณภาพ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดทางด้านการผลิตสารคดีในประเทศไทย โดยใช้กลยุทธ์เน้นพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องให้ได้ระดับมาตรฐานสากล เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยสร้างสรรค์งานให้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
รวมทั้งใช้กลยุทธ์เน้นลงทุนเพิ่มเติมทางด้านอุปกรณ์การถ่ายทำให้มีความทันสมัยตลอดเวลา เพื่อช่วยสร้างสรรค์งานถ่ายภาพสารคดีให้มีคุณภาพ ถือเป็นการรองรับแผนรุกตลาดต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วโลก โดยคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้านับจากนี้ จะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 3 อันดับของผู้ผลิตสารคดีระดับภูมิภาคเอเชีย จากปัจจุบันอันดับ 1 คือ ญี่ปุ่น อันดับ 2 คือ จีน และอันดับ 3 คือ เกาหลี
ล่าสุด บริษัทฯ ตั้งเป้าปีนี้จะใช้งบประมาณกว่า 70 ล้านบาท เพื่อผลิตสารคดีจำนวน 7 เรื่อง แต่จะออกอากาศในปีนี้เพียง 3 เรื่อง ถือเป็นเม็ดเงินที่ค่อนข้างสูงสำหรับธุรกิจผู้ผลิตสารคดี เพื่อสร้างมาตรฐานให้สารคดีทุกเรื่องที่บริษัทฯ ผลิตมีคุณภาพได้มาตรฐานสูงสุด ถือเป็นการรองรับแผนรุกตลาดต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วโลก
“โดยแต่ละเรื่องจะมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีการใช้เวลาศึกษาค้นคว้าและกระบวนการถ่ายทำที่ละเอียด เพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งระยะเวลาในการถ่ายทำแต่ละเรื่องมากกว่า 2 ปี มาจากวิธีการเลือกเรื่องที่จะทำการผลิตสารคดีคุณภาพ เน้นพัฒนาความคิดของคนทุกระดับเป็นอันดับแรก อาทิ สารคดีพาโนราม่าสเปเชี่ยล ชุดแผ่นดินสุวรรณภูมิเรื่องจริงหรือตำนาน, สารคดีพาโนราม่าสเปเชี่ยล ชุด Wild Thailand ชีวิตสัตว์, สารคดีพาโนราม่าสเปเชี่ยล ชุดตามรอยพระพุทธเจ้า(ภาค2) ฯลฯ” นายชนินทร์ กล่าว
สำหรับรายได้ในปีนี้คาดว่าจะอยูที่ 99 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 88 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการผลิตสารคดีคุณภาพป้อนให้กับผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ได้แก่ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9) เคเบิ้ลทีวีช่องอีดีเอ็น (EDN) ฯลฯ ตามด้วยรายได้จากการขายสารคดีที่ออกอากาศตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ผ่านวีซีดีและดีวีดี
“เราใช้ความเป็นผู้ผลิตสารคดีคุณภาพเข้ามาเดิมพัน เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงค่านิยมของผู้บริโภคให้หันกลับมาดูสารคดีไทย เชื่อเถอะเราจะทำถึงมันจะต้องใช้เวลาสักเท่าไรเราก็จะทำ ที่สำคัญเรามั่นใจอีกว่าเราจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการผลิตสารคดีคุณภาพ ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 แห่งเอเซียให้ได้ภายใน 5 ปี เพราะนอกจากบริษัทฯ จะมีทีมงานมืออาชีพที่มีศักยภาพ ประสบการณ์การทำงานสูง และยังมีความละเอียดใส่ใจในการผลิตทุกขั้นตอนแล้ว ปีนี้บริษัทฯ ยังเดินเครื่องเต็มสูบ ลุยตลาดต่างประเทศทั้งโซน เอเซีย, ยุโรปฯลฯ ในฐานะผู้ผลิตสารคดีไทยให้ทั่วโลกได้รับรู้” นายชนินทร์ กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจผู้ผลิตสารคดีในปีนี้มองว่า จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียและยุโรปพบว่า ผู้บริโภคยังมีความต้องการเรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และอารยธรรมที่ถูกต้องของประเทศไทย ทำให้บริษัทฯ ในฐานะผู้มีความพร้อมทุกด้านในการผลิตสารคดี เพื่อนำเสนอทุกแง่มุมทุกเรื่องราวอย่างละเอียดถูกต้อง และมีคุณภาพสมบูรณ์มากที่สุด มั่นใจจะนำคอนเทนต์ (Content) เหล่านี้ออกขายสู่ตลาดโลก เพื่อนำเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเต็ม 100%
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แนท 081-4143322