บิ๊กซี โชว์กำไรปี 49 ตามเป้า เน้นกลยุทธ์ “ช้อปบิ๊กซี รวยขึ้นทุกวัน”

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บิ๊กซีโชว์กำไรเพิ่ม 12.8% เตรียมอัดงบ 4,500 ล้านบาท เปิด 4 สาขาใหม่ เอาใจผู้บริโภคต่างจังหวัดได้ซื้อสินค้าดีราคาประหยัด ตอกย้ำกลยุทธ์การตลาด “ช้อปบิ๊กซี รวยขึ้นทุกวัน” พร้อมเน้นโครงการเพื่อเยาวชนและสังคมมากขึ้น
นางสาวรำภา คำหอมรื่น รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2549 ว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวยจากหลายปัจจัยและส่งผลให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจและระมัดระวังในการใช้จ่ายก็ตาม โดยบิ๊กซีมียอดขายรวม 58,032.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จาก 53,194.5 ล้านบาทในปี 2548 ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 2,123.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.8 % จาก 1,882.8 ล้านบาทในปี 2548 และมีกำไรต่อหุ้น 2.65 บาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีกำไรต่อหุ้น 2.35 บาท
ในปีที่ผ่านมา บิ๊กซีมีการเปิดสาขาใหม่รวม 4 สาขา ได้แก่ สาขาแพร่ สาขาราชบุรี สาขาลำลูกกา ปทุมธานี และสาขาปราจีนบุรี และดำเนินการพัฒนาปรับปรุงสาขาเดิมรวม 11 สาขา ซึ่งช่วยขยายฐานลูกค้าและทำให้ ผู้บริโภคมีความพึงพอใจเข้ามาซื้อสินค้าที่บิ๊กซีเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของยอดขายและกำไรอย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงสภาพเศรษฐกิจหดตัว
“แม้ว่าตลาดโดยรวมจะชะลอตัวและสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง แต่บิ๊กซีก็สามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลยุทธ์ในด้านราคาที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่ผู้บริโภคต้องการสินค้าราคาประหยัดและการมุ่งเน้นด้านการให้บริการที่ประทับใจเพื่อสร้างลอยัลตี้ของลูกค้าซึ่งช่วยสร้างยอดขายและรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบิ๊กซีก็ดำเนินการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยได้ปรับปรุงระบบการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพส่งผลให้บิ๊กซีมีต้นทุนการดำเนินงานลดลง 5% รวมถึงการพัฒนาฐานข้อมูลและระบบไอทีเพื่อควบคุมระบบสินค้าคงคลัง” นางสาวรำภากล่าว
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ในปี 2550 ว่า บิ๊กซีมีแผนจะขยายสาขาใหม่ในปีนี้รวม 4 สาขา ได้แก่ สาขาลำพูน สาขาหางดง เชียงใหม่ สาขาสมุย สุราษฎร์ธานี และสาขาชลบุรี ซึ่งจะทำให้บิ๊กซีมีสาขาเพิ่มขึ้นจาก 49 สาขาเป็น 53 สาขาภายในสิ้นปีนี้ โดยบิ๊กซียังคงเน้นนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนชุมชนเพื่อสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่น ทั้งการคืนภาษีสู่ท้องถิ่นในทุกสาขาที่เปิดให้บริการการจ้างคนท้องถิ่นเป็นพนักงาน และการสนับสนุนการจัดกิจกรรมระดับจังหวัดและชุมชนในท้องถิ่น
นอกจากนี้ บิ๊กซียังมีโครงการปรับปรุงรูปลักษณ์ใหม่ของสาขาเดิมให้ทันสมัยและสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทั้งในส่วนของซูเปอร์เซ็นเตอร์และทาวน์เซ็นเตอร์หรือพื้นที่ให้เช่าต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาอีกจำนวน 6 สาขา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการของบิ๊กซีแก่ลูกค้าทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น โดยบิ๊กซีได้เตรียมงบลงทุนรวม 4,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการขยายสาขาใหม่รวม 3,000 ล้านบาท และการปรับปรุงสาขาปัจจุบันอีก 1,500 ล้านบาท
นางสาวจริยา กล่าวต่อไปว่า แผนการตลาดในปีนี้ บิ๊กซียังคงเน้นกลยุทธ์ด้านราคาซึ่งเป็นจุดแข็งของบิ๊กซี และการจัดโปรโมชั่นตามแนวคิด “ช้อปบิ๊กซี รวยขึ้นทุกวัน” ที่จะให้ทั้งความสนุกสนานและประสบการณ์ใหม่ๆ กับลูกค้า อีกทั้งยังจะต้องช่วยให้ลูกค้าประหยัดเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้าที่มาซื้อสินค้าที่บิ๊กซีจะต้องการสินค้าที่มีคุณภาพและคุ้มราคา เช่น การจัดกิจกรรมซื้อ 1 แถม 1 การแจกคูปองส่วนลด การจัดกิจกรรมชิงรางวัล รวมถึงบิ๊กซียังให้ความสำคัญกับการยกระดับการให้บริการ โดยเฉพาะการให้บริการแก่ลูกค้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคมีความสะดวกและพึงพอใจ เพื่อเป็นการสร้างลอยัลตี้ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่บิ๊กซีอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในการจัดโปรโมชั่นในปีนี้ บิ๊กซีจะเน้นการจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นสำหรับสินค้าเป็นหมวดหมู่มากขึ้น โดยจะเน้นสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าจากที่แต่ก่อนจะจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นสำหรับสินค้าทั้งหมด เช่น การจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นสำหรับสินค้าหมวดเสื้อผ้า การจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นสำหรับสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าเฉพาะหมวด พร้อมทั้งการจัดทำสื่อโฆษณาสนับสนุนที่จะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าที่บิ๊กซีมากขึ้น
ล่าสุด บิ๊กซีเตรียมเปิดตัวกิจกรรมการตลาดช่วงฤดูร้อน โดยนางสาวจริยาเปิดเผยว่า บิ๊กซีจะจัดโปรโมชั่น “รวยรับร้อน กับ เงิน เงิน เงิน” ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ — 29 มีนาคม 2550 โดยเมื่อซื้อสินค้าที่บิ๊กซี ครบทุก 400 บาท รับโชค 2 ชั้น โชคชั้นที่ 1 รับทันทีคูปองชิงโชคบัตรกำนัล บิ๊กซี 1 ใบ ลุ้นรางวัลบัตรกำนัลบิ๊กซีมูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท ทุกสัปดาห์ๆ ละ 50 รางวัล รวม 4 สัปดาห์ 200 รางวัล รวมมูลค่า 1 ล้านบาท โชคชั้นที่ 2 ลุ้นรับบัตรชมละครเพลง “เงิน เงิน เงิน เดอะมิวสิคัล” มูลค่าตั้งแต่ 1,000 — 2,500 บาทจำนวน 2 ที่นั่ง ทุกสัปดาห์ๆละ 20 รางวัล รวม 4 สัปดาห์ 80 รางวัล มูลค่ารวม 240,000 บาท เพียงส่ง SMS จากระบบ AIS DTAC หรือ TRUE MOVE เพื่อสะสมยอดทุกครั้งที่ช้อปปิ้งที่บิ๊กซี โดยพิมพ์ BIGC (วรรค) จำนวนเงินที่ช้อปปิ้งที่บิ๊กซีแล้วส่งมาที่หมายเลข 4219333 (ค่าบริการครั้งละ 3 บาท) ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต้องมียอดใช้จ่ายสะสมขั้นต่ำ 2,000 บาทขึ้นไป พิเศษ ซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิตกรุงศรี จีอี หรือบัตรบิ๊กซี ครบทุก 400 บาทรับคูปองเพิ่มอีก 1 ใบ
สำหรับการดำเนินงานเพื่อสังคมนั้น นางสาวจริยากล่าวว่า โดยภาพรวม บริษัทฯ ยังคงสร้างสรรค์สังคมไทยอย่างต่อเนื่องร่วมกับ “มูลนิธิบิ๊กซี” โดยจะเน้นกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือเยาวชนผู้ด้อยโอกาสในด้าน การศึกษา อาทิ การจัดสร้างอาคารเรียนเพื่อมอบให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน การมอบสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนโดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้กับโรงเรียนในพื้นที่ที่บิ๊กซีไปเปิดสาขา เป็นต้น ส่วนโครงการเพื่อสังคมในปี 2550 บิ๊กซีและมูลนิธิฯ จะจัดทำโครงการ “เด็กไทย ขยันอ่าน” เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยเห็นความสำคัญของการอ่าน โดยจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพื่อสนับสนุนเยาวชนให้รักการอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ: BIGC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ภายใต้ชื่อ “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่หลากหลายในราคาสมเหตุสมผลภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภค ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการจำนวน 49 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.bigc.co.th
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ:
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ หรือ วราพร สมบูรณ์วรรณะ
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0 2252 9871