กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--ก.พาณิชย์
นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในภาวะเศรษฐกิจผันผวนเช่นปัจจุบัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาในการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทางออกหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้นั่นคือการนำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ ทว่าจากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา พบว่า สถานประกอบการทั่วประเทศจำนวน 827,051 ราย มีเพียงร้อยละ 3.9 ที่มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง และร้อยละ 1.4 ที่สั่งซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต ขณะที่สถานประกอบการที่ขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต มีเพียงร้อยละ 0.8
“กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้ริเริ่มโครงการ “อี-คอมเมิร์ซ ออนไลน์” (E-Commerce Online) ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ตั้งแต่การเริ่มต้นมีเว็บไซต์ การทำอี-มาร์เก็ตติ้ง (e-Marketing) ให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักและขายสินค้าได้ รวมทั้งเรียนรู้หลักธรรมาภิบาลภาคธุรกิจ ผ่านการเรียนการสอบแบบออนไลน์ หรือ อี-เลิร์นนิ่ง (e-Learning) ซึ่งโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาให้ความสำคัญกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น และนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าการซื้อขายสินค้าออนไลน์ในประเทศไทยให้เติบโตขึ้นด้วย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ตัวเลขมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติเมื่อปี 2548 มีมูลค่า 220,924 ล้านบาท ทว่าส่วนใหญ่เป็นการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอี-อ็อคชั่น (e-Auction) ของกรมบัญชีกลาง ขณะที่มูลค่าการซื้อขายในภาคเอกชนยังไม่มากเท่าที่ควร” นายคณิสสร กล่าว
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กรมฯได้มีการจัดฝึกอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการมาโดยตลอด แม้ว่าจะได้รับความสนใจและการตอบรับจากผู้ประกอบการด้วยดีเสมอมา แต่เนื่องจากเป็นการจัดฝึกอบรมในแบบช่องทางปกติ หรือ แบบห้องเรียน (Class Room) จึงมักจะประสบปัญหาอุปสรรคต่างๆ เช่น การจำกัดเวลาในการอบรมทำให้ผู้บรรยายไม่สามารถสอนเนื้อหาได้ครบถ้วน ระดับการรับรู้ของผู้เรียนไม่เท่ากัน ผู้เรียนไม่สามารถจดจำบทเรียนและฝึกปฏิบัติได้ทันตามที่สอน และไม่กล้าสอบถามเมื่อเกิดปัญหา
ดังนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงได้นำอี-เลิร์นนิ่งเข้ามาประยุกต์ใช้กับการฝึกอบรมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้สามารถเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา โดยผู้เข้าอบรมสามารถทบทวนบทเรียน หรือโต้ตอบกับผู้สอนได้ตลอดเวลา สามารถฝึกปฏิบัติควบคู่กันไป ทำให้เกิดการจดจำ และนำความรู้ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจได้จริง คาดว่าจะมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก โดยระบบอี-เลิร์นนิ่ง นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอบรมแล้ว ยังสามารถใช้ระบบดังกล่าว บันทึกข้อมูลผู้เรียน บันทึกการเข้าเรียน และคะแนนทดสอบของผู้เรียนไว้ได้ อีกทั้งยังมีกระดานข่าว หรือ Webboard เป็นศูนย์กลาง หรือชุมชนระหว่างผู้เรียน และผู้เรียน หรือผู้เรียน และผู้สอนอีกด้วย
ทั้งนี้โครงการ “อี-คอมเมิร์ซ ออนไลน์” เปิดรับสมัครทั้งหมด 4 หลักสูตร ได้แก่ ความรู้เบื้องต้นด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การตลาดด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนาขีดความสามารถผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และธรรมาภิบาลภาคธุรกิจ
สำหรับผู้เรียนที่ลงทะเบียนเรียนหลักสูตรใดก็ตาม ทางกรมฯ มีหลักสูตรพิเศษให้เรียนฟรีอีก 2 หลักสูตร คือ งบการเงินสำหรับผู้บริหาร และการเขียนจดหมายภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ (Business writing) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้เล็งเห็นแล้วว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ และการค้ากับต่างประเทศ
โครงการอี-คอมเมิร์ซ ออนไลน์ เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 ปฐมนิเทศวันที่ 20 กรกฎาคม 2550 ณ เวลา 13.00 น. ณ ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี และเริ่มเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2550 สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ทางเว็บไซต์ www.dbdacademy.com หรือ โทร. 0-2642-7242 ต่อ 152 ,153 ส่งใบสมัครทางโทรสาร เบอร์ 0-2642-7243
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: แด๊ดดี้ โด ร่วมงาน Rainbow Fair 2009
- ธ.ค. ๓๗๕๙ เชิญร่วมงานสัมมนา “Social Network: e-Commerce สายพันธุ์ใหม่ 2009”
- ธ.ค. ๒๕๖๗ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหวังใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลุยต่อ “อี-คอมเมิร์ซ ออนไลน์ รุ่น 3” เร่งสร้างผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซรายใหม่ คาดอีก 3 ปีมีจำนวนเพิ่มเป็น 12,000 ราย