แกรมมี่ผนึกกำลัง 5 กลุ่มพันธมิตรธุรกิจดิจิทัล ดันเพลงปี 50 เข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว

พุธ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๗ ๑๕:๕๕
กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--GMM Grammy
นายสุวัฒน์ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทจีเอ็มเอ็ม ดิจิทัล โดเมน จำกัด หรือ GMMD ได้แถลงถึงทิศทางและภาพรวมปีนี้ว่า จะเป็นจุดเปลี่ยนของแกรมมี่สู่ยุคธุรกิจดิจิทัลอย่างแท้จริง ด้วยปัจจัยและกลยุทธ์สำคัญ 3 ประการคือ 1.เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้การจัดเก็บรายได้ของสินค้าและบริการที่ถูกกฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจมิวสิค ดิจิทัลของเอเชียและไทยมีแนวโน้มที่ดีชัดเจนและมีสัญญาณว่าจะก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว 2.โอกาสทางการตลาดที่จะสร้างรายได้จากสินค้าและบริการที่ถูกกฎหมายมีมากอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นโอกาสที่สอดคล้องกับจุดแข็งของแกรมมี่ 3.การใช้กลยุทธ์ร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้นำของธุรกิจดิจิทัล โดย GMMD จะเน้นการเป็นผู้บริหารคอนเทนต์หรือทำในสิ่งที่ตนถนัด
ดิจิทัล มิวสิค มาแรงทั้งไทยและทั่วเอเชีย
นายสุวัฒน์ให้ภาพเทรนด์ของดิจิทัล มิวสิคไทยว่านับจากปี 50 นี้จะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการจัดเก็บรายได้จากสินค้าและบริการที่ถูกหมายหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรายได้มาจาก 2 กลุ่มหลักคือ โมบายซึ่งจะยังคงมีส่วนแบ่งประมาณ 90% และที่เหลือเป็นอินเตอร์เน็ต ในส่วนของโมบายสะท้อนได้จากการเติบโตของจำนวนเลขหมายที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือปี 50 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 15% หรือ 40 กว่าล้านเลขหมายจาก 35ล้านในปี 49 ส่วนของอินเตอร์เน็ต ปี 50 คาดการณ์ว่าจะมียอดผู้ใช้ประมาณ10 ล้านคน โตกว่าปี 49 ประมาณ 10%
เทรนด์ดังกล่าวนี้สอดคล้องกับเทรนด์ของเอเชียจากข้อมูลของไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์ที่ได้เคยกล่าวไว้ว่า ปี 2005 ตลาดเอเชียที่มีมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ จะเติบโตไปเป็น 5.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2010 หรือเติบโตในอัตราเฉลี่ย 23% ต่อปี โดย 4.8 พันล้านมาจากโมบาย และอีก 1 พันล้านมาจากอินเตอร์เน็ต ด้วยปัจจัย 4 ประการคือ การมีคอนเทนต์ใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การมีอุปกรณ์และบริการเกิดใหม่ การขยายตัวของบอร์ดแบนด์ และกลยุทธ์ราคาที่ดึงดูดมากขึ้น
โอกาสทางการตลาดขึ้นอยู่กับการสร้างพฤติกรรมให้สำเร็จ
นายสุวัฒน์กล่าวต่อว่าถึงเทรนด์จะดี แต่โอกาสทางการตลาดของการจัดเก็บรายได้ของสินค้าและบริการที่ถูกกฎหมายก็ต้องเป็นรูปธรรมด้วย ไม่ใช่ทำตามกระแส ซึ่งเมื่อได้ศึกษาและทดลองมาหลายโครงการ ตนพบว่าปัจจุบันโอกาสทางการตลาดสูงมากคือ
ด้านโมบาย โอกาสทางการตลาดแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ 1.กลุ่มที่ใช้บริการของ GMMD สม่ำเสมออยู่แล้วซึ่งมีอยู่ประมาณ 5 ล้านเลขหมาย จากจำนวนผู้สามารถใช้บริการเสริมได้ 12 ล้านเลขหมายของเครื่อง 35 ล้านเลขหมาย กลุ่มนี้สามารถกระตุ้นให้ใช้เพิ่มขึ้นได้ 2.กลุ่มที่ยังไม่เคยใช้บริการของ GMMD อีก 7 ล้านเลขหมาย ต้องสร้างการทดลองใช้ และ 3.กลุ่มในอนาคตซึ่งจะโตขึ้นเรื่อยๆ คือ ผู้ใช้โทรศัพท์ที่จะอัพเกรดเครื่องมาใช้บริการเสริมได้หรืออีกมากกว่า 23 ล้านเลขหมาย
นอกจากนั้นปีนี้ปัจจัยสนับสนุนอีกประการคือ ปีนี้เป็นปีที่บรรดาโอเปอร์เรเตอร์ของโมบายถือว่าเป็น turning point ที่จะผลักดันให้เข้าสู่ยุค non voice อย่างแท้จริง ซึ่งคอนเทนท์เพลงเป็นส่วนสำคัญของ non voice และแกรมมี่มีคอนเทนท์เพลงมากที่สุด จึงมีโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ยุค non voice นี้
กลยุทธ์ของ GMMD ในส่วนโมบายคือ 1.กลุ่มที่ใช้บริการ GMMD สม่ำเสมออยู่แล้ว กระตุ้นให้ใช้เพิ่มขึ้นด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนท์และบริการเสริมใหม่ๆให้หลากหลายมากขึ้น 2.กลุ่มผู้ที่เครื่องสามารถใช้บริการเสริมได้ แต่ยังไม่เคยลองบริการของ GMMD สร้างการทดลองด้วยการออกแคมเปญร่วมกับโอเปอร์เรเตอร์ ใช้กลยุทธ์ราคาหลายระดับเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นตามกำลังซื้อของตัวเอง สร้างบริการให้ใช้ง่าย ( friendly) 3.สำหรับกลุ่มที่เริ่มจะอัพเกรดเครื่องมาใช้บริการเสริมได้ GMMD จะใช้กลยุทธ์ bundling เพื่อเพิ่มช่องทางบริการดาวน์โหลด โดยร่วมกับกลุ่ม distributor เช่น ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ และกลุ่มผู้ขายมือถือ
ด้านอินเตอร์เน็ต ทั้งราคาคอมพิวเตอร์และชั่วโมงอินเตอร์เน็ตที่ถูกลง และการที่คนรุ่นใหม่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นมากขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดดิจิทัล มิวสิคเติบโตขึ้น นอกจากนั้นยังพบว่าคนไทยนิยมเว็บบันเทิงมากที่สุด ซึ่งเว็บเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือเว็บ GMEMBER ของแกรมมี่ ดังนั้นการที่แกรมมี่มีคอนเทนต์และทาเลนต์ของเพลงมากที่สุดในตลาด ซึ่งปัจจุบันก็มีส่วนแบ่งในตลาดดิจิทัล มิวสิคสูงที่สุดด้วย กลยุทธ์ในส่วนของอินเตอร์เน็ตมีทั้งการทำการตลาดกับเจ้าตลาดด้านPCเช่น HP ทำการ bundle โปรแกรม IKEY เวอร์ชันที่สามารถดาวน์โหลดและร้องคาราโอเกะให้บริการ Singing online เป็นรายแรก ซึ่งใช้ง่ายและสะดวก
จากปัจจัยดังกล่าว ภารกิจหลักของ GMMD ในปีนี้จึงเป็นการสร้างพฤติกรรมบริโภคดิจิทัล มิวสิคให้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ สไตล์คนไทย ร่วมมือ 5 กลุ่มพันธมิตรผู้นำด้านดิจิทัล เพิ่มช่องทางกับสร้างบริการใหม่ หวังตลาดและรายได้เติบโตดี
นายสุวัฒน์อธิบายต่อว่า กลยุทธ์หลักเพื่อให้เกิดพฤติกรรมบริโภคดิจิทัล มิวสิคมี 2 ด้าน คือให้บริการหรือสร้างโพรดักส์ที่เน้น Customer Centric ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง และร่วมมือกับพันธมิตรหรือ Strategic Partner เพื่อช่วยกันสร้างไลฟ สไตล์นี้ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
“ปีนี้ GMMD จะเสนอสินค้าและบริการที่ตอบสนองทั้งลูกค้าและคู่ค้าอย่างตรงจุดดังที่กล่าวมาแล้ว ด้วยกลยุทธ์คุณภาพ (quality) ซึ่งเป็นจุดยืนของทุกธุรกิจแกรมมี่ การขายเป็นแพ็คเก็จรวม (bundling) ราคาหลายทางเลือก (price) และนวัตกรรมของบริการใหม่ (innovative) ใช้ความเป็นสื่อดิจิทัลเต็มความสามารถ ซึ่งก็สอดคล้องกับทิศทางของธุรกิจนี้ในระดับสากล โดยเราจะทยอยเปิดตัวบริการใหม่ในปีนี้อย่างต่อเนื่อง” นายสุวัฒน์สรุป
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญก็คือการเน้นบทบาทผู้บริหารคอนเทนต์ ไม่ลงทุนในฮาร์ดแวร์ที่ไม่ถนัดอันเป็นการลดความเสี่ยงของธุรกิจ และสรรหาพันธมิตรซึ่งเป็นผู้นำใน 5 กลุ่มสำคัญของธุรกิจดิจิทัล เพื่อร่วมกันกระตุ้นตลาดหรือสร้างพฤติกรรมให้เกิดโดยการเพิ่มช่องทางเข้าถึงผู้บริโภค พันธมิตรทั้ง 5 กลุ่มมีดังต่อไปนี้
1.กลุ่ม operator ได้แก่ AIS DTAC TRUE เพื่อเพิ่มการใช้บริการเสริมของโมบาย เน้นการทำแคมเปญด้วยกลยุทธหลายทางเลือก และบริการให้ลูกค้าได้โหลดฟรีเพื่อให้เกิดการทดลองใช้
2.กลุ่ม website ท็อปไฟว์เว็บบันเทิงได้แก่ sanook.com, pantip.com ,krapook.com, thai2hand.com จะเพิ่มเติมอีกในอนาคต เพิ่มช่องทางการขายคอนเทนต์ โดยการทำตลาดร่วมกัน ทั้งโปรโมรชั่นพิเศษหรือนำคอนเทนต์ของแกรมมี่ไปดิสเพลย์อยู่ในเว็บต่างๆเหล่านี้ เป็นเสมือนการวาง outlet ในที่ซึ่ง traffic ดี แล้วจัดแบ่งรายได้ร่วมกัน
3.กลุ่ม device หรือเครื่องมือ ได้แก่ HP, Nokia, Samart, IMobile,Ipod ซึ่งล้วนมียอดจำหน่ายสูงและลูกค้ามักหมุนเวียนเข้าช็อปหรือศูนย์เป็นประจำเพื่อติดตามสินค้าใหม่ๆหรืออุปกรณ์เสริม GMMD จะนำคอนเทนต์ไป bundling เข้ากับกลุ่มนี้เพื่อขยายช่องทางการขาย
4.กลุ่มapplication หรือ platform คือเจ้าของเทคโนโลยีหรือเจ้าของตัวแทนแพลตฟอร์มตัวแทนหลักในประเทศไทย ได้แก่บริษัทเตียวฮง ไพศาล เพื่อสร้างบริการใหม่ๆ ดังเช่น karaoke online และ Music Game ซึ่งใกล้จะเปิดตัวในเร็ววันนี้
5.กลุ่ม distributor คือ Samart mobile Shop ของกลุ่มสามารถ ซึ่งเป็นเครือข่ายจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ จะทำให้การบริการดาวน์โหลดเพลงลงบนอุปกรณ์ต่างๆ
“ จากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ GMMD เชื่อว่าจะสร้างรายได้ปี 50 ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เราได้ทำสัญญากับคู่ค้าไปแล้วประมาณ 50% ของยอดรายได้”นายสุวัฒน์สรุป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version