เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ฟ้องกรมวิชาการเกษตรเพื่อประโยชน์สูงสุดของเกษตรกร

พุธ ๐๖ มิถุนายน ๒๐๐๗ ๑๐:๕๖
กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์
นายสิทธิโชค เดชภิบาล ทนายความผู้รับผิดชอบคดีกล้ายาง เปิดเผยว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อนุญาตให้บริษัทฯ ส่งมอบต้นยางชำถุงจำนวน 16.14 ล้านต้นแก่เกษตรกร เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของเกษตรกรที่เตรียมพื้นที่สำหรับการปลูกยางและรอกล้ายางชำถุงอยู่ ขณะที่กล้ายางชำถุงของบริษัทก็มีความพร้อมและรอการส่งมอบแล้ว แต่กรมวิชาการเกษตรกลับทำการยกเลิกโครงการฯ ก่อนครบกำหนดขยายระยะเวลาส่งมอบ ทำให้ความเสียหายตกอยู่กับเกษตรกร ซึ่งไม่เป็นการยุติธรรม
“การยื่นฟ้องกรมวิชาการเกษตรในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อรักษาสิทธิในการส่งมอบยางพาราชำถุงจำนวน 16.14 ล้านต้นให้ทันตามกำหนดที่กรมฯได้ขยายเวลาไว้ให้ ตามหนังสือเลขที่ 0911/5330 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2549 เพื่อไม่ให้เกษตรกรกว่า 20,000 รายในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งผมถือว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบต่อองค์กร จึงต้องตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็มียางชำถุงครบตามจำนวน 16.14 ล้านต้น พร้อมส่งมอบภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ตามที่กรมฯ ยืดระยะเวลาให้ ซึ่งถือเป็นช่วงที่ฝนตกชุกเหมาะสมกับการปลูกยางพารา โดยหากช้าไปกว่านี้เกษตรกรอาจได้รับกล้ายางชำถุงในปลายฤดูฝน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะประสบภาวะแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ ” นายสิทธิโชค กล่าว
อนึ่ง รัฐบาลได้จัดให้มี โครงการปลูกยางพาราเพื่อยกระดับรายได้และความมั่นคงให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ปลูกยางใหม่ระยะที่ 1 โดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นคู่สัญญาและได้เลือกให้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด (ซีพีเอส.) เป็นผู้รับผิดชอบในการผลิตต้นยางชำถุงจำนวน 90 ล้านต้นเพื่อใช้ในโครงการฯ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 จากนั้นคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายก็ร่วมมือกันด้วยดีมาตลอดระยะเวลาการส่งมอบในปี 2547-2548-2549
หากแต่ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดความแปรปรวนทางธรรมชาติ ได้แก่ ภัยแล้ง พายุ และน้ำท่วม โดยเฉพาะในปี 2549 มีพายุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายให้กับโรงเรือนเพาะชำ ส่งผลกระทบต่อการผลิตต้นยางชำถุงของบริษัทฯ รวมทั้งเกษตรกรเองก็เกิดปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูกและที่อยู่อาศัย จึงไม่สามารถมารับต้นยางชำถุงได้ เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นเหตุสุดวิสัย จึงทำให้บริษัทฯไม่สามารถส่งมอบต้นยางชำถุงได้ครบ 90 ล้านต้นตามจำนวนที่ระบุในสัญญา
ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ส่งหนังสือลงวันที่ 29 สิงหาคม 2549 เลขที่ CPS 053/2549 ถึงกรมวิชาการเกษตร เพื่อขออนุญาตขยายเวลาส่งมอบในส่วนที่เหลืออันเนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งทางกรมวิชาการเกษตรได้มีหนังสือถึงบริษัทฯ ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2549 ให้บริษัทฯส่งมอบส่วนที่เหลือจำนวน 16.14 ล้านต้น ได้ในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2550 เป็นระยะเวลา 2 เดือน
จากหนังสือดังกล่าว บริษัทฯจึงได้ดำเนินการผลิตต้นยางชำถุงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2549 เพื่อให้ได้จำนวนครบ 16.14 ล้านต้น และสามารถส่งมอบถึงมือเกษตรกรได้ทันในเวลาที่กำหนด โดยได้มีหนังสือประสานงานกับกรมวิชาการเกษตรมาโดยตลอด แต่ก่อนถึงกำหนดส่งมอบเพียง 10 วัน กรมวิชาการเกษตรก็มีหนังสือลงวันที่ 20 เมษายน 2550 บอกยกเลิกโครงการฯดังกล่าว ทั้งที่ยังไม่หมดเวลาตามที่ได้ขยายไว้ให้กับ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO