CIG โชว์ผลงานเฉียบ Q2/50 กำไรโต 397.55 % แผนปรับต้นทุนตามวัตถุดิบ-บุก ตปท.ได้ผล

อังคาร ๑๔ สิงหาคม ๒๐๐๗ ๑๑:๒๗
กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--ซี.ไอ.กรุ๊ป
CIG โชว์ผลงานเฉียบขาดอีกครั้ง ในไตรมาส 2/50 กำไรสุทธิ 40.242 ลบ. เพิ่มขึ้น 32.154 ลบ.หรือ 397.55%จากไตรมาส 2/49 และมากกว่าไตรมาสแรก 17.408 ลบ.หรือ 76.24 % “อารีย์ พุ่มเสนาะ” ระบุผลจากการขยายตลาดส่งออกดันยอดขายขยายตัว ประกอบกับมีการเปลี่ยนนโยบายด้านราคา มาเป็นปรับราคาต้นทุนตามความเคลื่อนไหวของวัตถุดิบที่ผันผวน ส่งผลให้สัดส่วนของต้นทุนขายต่อรายได้ปรับตัวลดลง จึงหนุนกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดดได้สำเร็จ ส่วนแนวโน้มครึ่งหลังอนาคตใสปิ๊ง หลังได้เซ็นสัญญาผลิตสินค้าให้กับลูกค้ารายใหม่ ที่เป็นผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเครื่องปรับอากาศระดับโลก ตั้งแต่ไตรมาส 3/50 มั่นใจสิ้นปีรายได้ทะลุ 2,000 ลบ.ได้แบบไร้ปัญหา
นายอารีย์ พุ่มเสนาะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CIG) เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2550 ว่า บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 40.242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.154 ล้านบาท หรือ397.55% เมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2549 ที่มีกำไรสุทธิ 8.088 ล้านบาท และสูงกว่าไตรมาส 1/2550 ที่มีกำไรสุทธิ 22.834 ล้านบาท แบบก้าวกระโดด โดยเหตุผลที่ทำให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในครั้งนี้ มาจาก 4 ปัจจัยหลักคือ 1.สามารถปรับราคาขายสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงตามราคาวัตถุดิบที่เคลื่อนไหวผันผวนได้ 2.ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถบริหารและจัดการระบบภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมกว่าเดิม 3.สามารถดูแลเรื่องการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการติดตามหนี้สินที่ได้ใช้นโยบายให้เคร่งครัดมากขึ้น ทำให้ควบคุมหนี้สินไม่ให้กลายเป็นหนี้สูญและอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้เช่นเดียวกัน และ 4.บริษัทใช้นโยบายเชิงรุกในการขยายธุรกิจ สามารถผลักดันให้ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ขยายตัวไปได้พร้อมๆ กันจึงผลักดันให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน
"การปรับตัวของบริษัทฯให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แท้จริงของธุรกิจ ทั้งการปรับราคาขายสินค้า การควบคุมระบบจัดการภายใน การบริหารหนี้ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย รวมทั้งการใช้นโยบายเชิงรุกขยายตลาดพร้อมกันทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ผลประกอบการของ CIG โดดเด่นมาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเพียงไตรมาสเดียวก็มีกำไรสุทธิมากกว่าที่ทำได้ในปี 2549 ทั้งปี ส่วนไตรมาส 2/50 เรายังคงยึดนโยบายดังกล่าว และสามารถขายสินค้าในราคาที่ดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมาจึงทำให้กำไรสุทธิของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อีกครั้ง "
นายอารีย์ กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังว่ารายได้และกำไรของบริษัทฯ ยังมีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก นอกเหนือจากความสำเร็จที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ดังกล่าวแล้ว ยังจะมีคำสั่งซื้อของลูกค้ารายใหม่ ที่เป็นผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเครื่องปรับอากาศระดับโลกเข้ามาตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/50 เป็นต้นไป ซึ่งจะหนุนให้รายได้รวมของCIG ปีนี้ทะยานขึ้นสู่ระดับ 2,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ จากรายได้ 1,039.48 ล้านบาท ในปี 2549 โดยรายได้ 70% จะมาจากตลาดในประเทศ และ 30% จะมาจากตลาดต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น และบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกถึง 30% แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน เนื่องจากมีการสั่งซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศ และมีการส่งออกในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับการนำเข้า ดังนั้นรายการดังกล่าวจึงเป็นการลดความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ในระดับหนึ่ง (Natural Hedge) จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
จุฬารัตน์ เจริญภักดี 089-4888337

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ