รณรงค์เลิกหลอดไส้ ใช้หลอดตะเกียบลดภาวะโลกร้อน

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--กทม.
กรุงเทพมหานครร่วมกับกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รณรงค์เลิกใช้หลอดไส้ใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5 นำร่องตลาดประชานิเวศน์ 1 ตั้งเป้าเป็นตลาดปลอดหลอดไส้แห่งแรก พร้อมต่อยอดสู่ตลาดในกำกับกทม. คาดแล้วเสร็จ พ.ค. นี้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “ชาวกทม. เลิกหลอดไส้ ใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5” ร่วมกับนายไกรสีห์ กรรณสูต ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่บริเวณ ชั้น 1 ศูนย์สรรพสินค้า Gold market ตลาดประชานิเวศน์ 1 ว่า กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนทั่วกรุงเทพฯ ร่วมมือกันประหยัดพลังงานลดปัญหาภาวะโลกร้อน โดยในเบื้องต้นกรุงเทพมหานครได้รับมอบ หลอดตะเกียบซึ่งเป็นหลอดประหยัดพลังงาน จำนวน 10,000 หลอด และในอนาคตจะมอบให้กรุงเทพมหานครอีกรวมเป็นทั้งสิ้น 50,000 หลอด เพื่อนำไปเปลี่ยนในสถานที่สาธารณะ โดยจะนำร่องที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 ซึ่งเป็นตลาดที่มีการใช้หลอดไส้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายให้เป็นตลาดปลอดหลอดไส้แห่งแรก ทั้งนี้การเปลี่ยนหลอดไฟที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 ในวันนี้สามารถประหยัดพลังงานในตลาดได้มากถึง 12,000 วัตต์ จากเดิมที่ใช้อยู่ 26,000 วัตต์ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 210,941 บาทต่อปี นอกจากจะเป็นการช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและประหยัดพลังงานแล้ว ยังจะส่งผลในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนด้วย และหลังจากนี้กทม. จะรณรงค์เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดตะเกียบในตลาดสดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกทม. อาทิ ตลาดเทวราช ตลาดรัชดาภิเษก ตลาดอรุณอัมรินทร์ ตลาดบางกะปิ ตลาดราษฎร์บูรณะ ตลาดหนองจอก ตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก ตลาดธนบุรี (สนามหลวง 2) คาดว่าจะสามารถเปลี่ยนได้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. นี้
อนึ่ง กรุงเทพมหานครได้ร่วมกับ 35 องค์กร อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย องค์กรเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม และเครือข่ายภาคประชาชน ฯลฯ ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในปฏิญญากรุงเทพมหานครว่าด้วยความร่วมมือลดปัญหาภาวะโลกร้อน เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 50 และจะร่วมกันรณรงค์ ส่งเสริม และทำกิจกรรมเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่องต่อไป