กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--ยธ.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการ
เมื่อวันพุธที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๐ เวลา ๑๐.๓๐ น. ฯพณฯ นายฮัน แท-กิว (H.E. Mr. Han Tae-kyu) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ณ ห้องรับรองชั้น ๓๘ อาคารกระทรวงยุติธรรม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
ฯพณฯ นายฮัน แท-กิว (H.E. Mr. Han Tae — kyu) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
๑. เรื่องของการโอนตัวนักโทษ ซึ่งทางสาธารณรัฐเกาหลีต้องการที่จะจัดทำสนธิสัญญาการโอนตัวนักโทษกับประเทศไทย เพื่อให้นักโทษจากประเทศสาธารณรัฐเกาหลีได้กลับประเทศ เนื่องจากเป็นห่วงในความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังที่อาจจะมีปัญหาในเรื่องของภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร และเรื่องของความเป็นอยู่ที่ไม่ชินกับประเทศไทย
๒. เรื่องการขออภัยโทษ โดยทางสาธารณรัฐเกาหลีอยากให้ประเทศไทยมีการอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องขังสูงอายุ ๒ คน ซึ่งมีอายุ ๗๐ และอายุ ๖๖ ซึ่งต้องโทษคดียาเสพติด
๓. เรื่องของประชาชนของสาธารณรัฐเกาหลี ที่อพยพหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย อยากให้ประเทศไทยดำเนินการส่งตัวกลับ หรือถ้าต้องติดคุกก็อยากให้ปล่อยตัวเนื่องจากคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นอาชญากรและกระทำผิดในประเทศไทยและสาเหตุที่หลบหนี เข้ามาคือต้องการสันติภาพ และหลบหนีเข้าประเทศไทยเพื่อเป็นทางผ่านไปยังโลกที่ ๓ ต่อไป
อยากขอร้องให้ประเทศไทยให้ความดูแลและคุ้มครองคนเหล่านี้ และให้คำนึงถึงเรื่องมนุษยธรรมด้วย ซึ่งทางท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็รับปากที่จะพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ทางประเทศไทยที่มีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติร่วมเป็น ICJ (International Commission of Jusists) ที่คอยดูแลในเรื่องนี้อยู่ และยังของให้กระทรวงยุติธรรมประสานงานกับ ศ.ดร.วิทวัต มันตาภรณ์ ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนใน K.L. ในเรื่องดังกล่าวนี้และก็ได้ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในเรื่องที่จะให้ความช่วยเหลือและเรื่องการดูแลผู้ต้องขังของสาธารณรัฐเกาหลีในขณะที่ต้องโทษอยู่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ทางกระทรวงยุติธรรมยินดีในการ ให้ความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว ซึ่งในเรื่องของผู้ต้องขังเราก็ได้ดูแลเป็นอย่างดีถึงแม้ว่าจะเป็น ชาวต่างชาติ โดยเรื่องของการโอนตัวนักโทษเราจะประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบและกรมราชทัณฑ์ให้รีบดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ส่วนในเรื่องของการขอพระราชทานอภัยโทษนั้นทางประเทศไทยก็ได้มีการอภัยโทษอยู่แล้วเนื่องในโอกาสที่สำคัญต่าง ๆ แต่ถ้าผู้ต้องขัง คนใดอยากขอพระราชทานอภัยโทษก็สามารถเขียนคำร้องได้ และเรื่องของการอพยพหลบหนี เข้ามาในประเทศทางกระทรวงยุติธรรมก็จะประสานให้ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเป็นผู้รับผิดชอบดูแล โดยส่วนใหญ่ทางประเทศไทยก็จะส่งกลับไปยังประเทศนั้น แต่ถ้าหาก เกี่ยวข้องกับคดีเราก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป