ไทยธนาคารชี้แจงเรื่องเงินกองทุน

อังคาร ๑๓ มีนาคม ๒๐๐๗ ๑๑:๒๗
กรุงเทพฯ--13 มี.ค.--ไทยธนาคาร
นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ไทยธนาคารได้มีแผนการเพิ่มทุน 2 ขั้นตอน โดยในขั้นแรกจะเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนของไทยธนาคารให้กับกองทุนทีพีจี นิวบริดจ์ (TPG Newbridge) จำนวนประมาณ 556 ล้านหุ้นและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนรายอื่น ๆ อีกจำนวน 175 ล้านหุ้น ซึ่งข้อเสนอการเพิ่มทุนในขั้นแรกนี้ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว และในขั้นตอนที่สองฝ่ายจัดการของธนาคารจะเสนอแผนในการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่
ฝ่ายจัดการของธนาคารจะเสนอแผนเพิ่มทุนดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเงินกองทุนเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจตามแผนงานที่ได้วางไว้ ซึ่งแผนเพิ่มทุนนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนจากแผนเพิ่มทุนเดิม เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้รับผลกระทบจากรายการพิเศษหลายประการ ทำให้ธนาคารมีสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำกว่าเกณฑ์ของ ธปท. แต่ธนาคารมิได้มีเงินกองทุนติดลบตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และหากธนาคารไม่ได้รับผลกระทบจากรายการพิเศษดังกล่าว ธนาคารจะมีสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 11-12
ทั้งนี้ ผลกระทบจากรายการพิเศษที่จำเป็นต้องรับรู้ทันที ได้แก่ ผลขาดทุนจากการได้รับเงินชดเชยจากการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (CAP) ซึ่งน้อยกว่าที่ได้บันทึกไว้รวมประมาณ 3,729 ล้านบาทและภาระจากการทยอยตั้งสำรองตามเกณฑ์ IAS39 ทำให้สัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารลดลงไปอยู่ที่ระดับร้อยละ 7 — 8 อย่างไรก็ตาม เพื่อรองรับการเข้าถือหุ้นของนักลงทุน ซึ่งจำเป็นต้องมีการตั้งสำรองให้ครบถ้วน ธนาคารจึงได้ตั้งสำรองตามเกณฑ์ IAS39 จำนวน 1,900 ล้านบาทในครั้งเดียว และตั้งค่าเผื่อการซื้อคืนใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) จากกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวนประมาณ 1,146 ล้านบาท ซึ่งผลกระทบดังกล่าวทำให้ปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 6.14 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดที่ร้อยละ 8.5 ฝ่ายจัดการของธนาคารจึงได้เสนอปรับแผนเพิ่มทุนเพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าว
นายพีรศิลป์กล่าวเสริมว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานปกติของธนาคารในปีที่ผ่านมามีกำไรเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 97 ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการขยายธุรกิจของธนาคาร ดังนั้น การเพิ่มทุนดังกล่าวจะมีผลดีต่อธนาคารในด้านความแข็งแกร่งของเงินกองทุน โดยจะมีเงินกองทุนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 13-14 ซึ่งสามารถรองรับการขยายตัวของธนาคารในระยะต่อไป อีกทั้งเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคาร โดยการให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารเพื่อโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนการลงทุนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO