รี้ด เทรดเด็กซ์ จัดโรดโชว์ บุกอีสเทิร์นซีบอร์ด กระตุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็คทรอนิกส์ ตื่นตัว

ศุกร์ ๒๕ พฤษภาคม ๒๐๐๗ ๑๓:๔๔
กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--รี้ด เทรดเด็กซ์
นายชัยณรงค์ ลิมป์กิตติสิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อร่วมผลักดันการเติบโตและเสริมศักยภาพการผลิตอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็คทรอนิกส์ บริษัทฯ เตรียมจัดงาน BIG JUNE EVENT “มหกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็คทรอนิกส์” 1 ปีมีครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 21-24 มิถุนายน 2550 ณ ไบเทค บางนาโดยภายในงาน การจัดงานเป็นคลัสเตอร์โชว์ที่ครบวงจรและเป็นเพียงหนึ่งเดียวในภูมิภาค ที่รวมเอาอุตสาหกรรมการผลิตที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกันประกอบด้วย เทคโนโลยีเพื่อการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็คทรอนิกส์ แม่พิมพ์ พลาสติก และแขนกลเพื่อการผลิตอัจฉริยะ โดยมีบริษัทเข้าร่วมแสดงนวัตกรรมทั่วโลกมากกว่า400 บริษัท คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 45,000คน เงินสะพัดกว่า 1 พันล้านบาท
ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นนักอุตสาหกรรมไทยทั่วภูมิภาคให้ตื่นตัวกับสภาวะการแข่งขันในปัจจุบัน บริษัทฯเตรียมจัดโรดโชว์ 3 ภาคใหญ่ที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรม ได้แก่ ชลบุรี อยุธยา และลำพูน โดยรูปแบบจัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ อุปกรณ์ เครื่องจักร สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพด้านอุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แม่พิมพ์ พลาสติก โดยบริษัทชั้นนำในวงการกว่า 50 บริษัท อาทิ บริษัทยามาเซน ผู้นำเข้าเครื่องจักร และอุปกรณ์ การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ และบริษัทมิตราคมผู้นำเข้าเครื่องจักร และอุปกรณ์ Machine Tool อาทิ เครื่องเจียรนัยOkamoto จากญี่ปุ่น เครื่องเชื่อมเลเซอร์ ยี่ห้อ OR จากเยอรมัน เป็นต้น
โดยวัตถุประสงค์ที่เน้น 3 จังหวัดนี้ เนื่องจากเป็นที่ทราบว่าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของประเทศในปี 2548 มากถึง 300,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานมากกว่า 300,000 คน และมีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนมูลค่ากว่า 130,000 ล้านบาท รวมทั้งในปี 2549 ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วน มากถึง 360,000 ล้านบาท โดยในปี 2549 ที่ผ่านมา มีการผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 1,188,044 คัน แบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 682,161 คัน ส่งออก 538,966 คัน รถจักรยานยนต์ 2,084,001 คัน จำหน่ายในประเทศ 2,061,610 คัน ส่งออก 107,562 คัน และมีมูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์มากถึง 250,000 ล้านบาท ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อป้อนให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ (first-tier) ทั้งสิ้น 648 ราย ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อป้อนให้กับโรงงานผลิตชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่กว่า (second-tier, third-tier) จำนวน 1,641 ราย
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีอัตราการเติบโตสูงอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2002-2005) คือเติบโตขึ้นถึง 40 % หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,330 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของปี 2006 เทียบจากปี 2000 เป็นปีฐาน เพิ่มขึ้นกว่า 200% โดยสินค้าที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากคือ Hard Disk Drive เพิ่มขึ้นกว่า 400 % , คอมพิวเตอร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 180 % และ Integrated Circuit เพิ่มขึ้นกว่า 97% ตามลำดับเนื่องจากภาวะตลาดอิเล็กทรอนิกส์โลกขยายตัว สินค้าหลักที่ดึงให้ความต้องการอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น คือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และคอมพิวเตอร์ซึ่งขยายตัวถึง 31% และ 13% ตามลำดับ โดยในปีนี้การส่งออกในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีการคาดการณ์การเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 15 ของ GDP หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับอัตราการเติบโตของปี 2006 ที่ 14 %
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์แนวโน้มขยายตัวสูงในจ.อยุธยามีการลงทุนจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กว่า 100 โรงงาน เป็นจำนวนเงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 5.2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ฐานการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญได้แก่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่ ในจังหวัดลำพูนมีการลงทุนของโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2549 ที่ผ่านมาจ.ลำพูนมียอดการลงทุนของอุตสาหกรรมทั้งสิ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากกว่า 800 โรงงาน โดยการผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มีการลงทุนขยายตัวย่างต่อเนื่องปัจจุบันมีโครงการลงทุนกว่า 100 โครงการ และมีกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เยอรมัน และสหรัฐฯมีแผนการจะขยายการลงทุนข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และต้องการตั้งโรงงานผลิตในพื้นที่ภาคเหนือ
“ดังนั้นแม้ว่าจากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน อุตสาหกรรมต่างๆ อาจจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งตัว ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น รวมถึงแรงกดดันจากประเทศคู่แข่งขันอย่างจีน และเวียดนาม บริษัทฯ มองว่า ในภาวะการณ์แบบนี้ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และอิลเคทรอนิกส์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ผู้ผลิตต่างต้องใช้โอกาสนี้ในการสร้างแบรนด์ สร้างฐานผลิตเพิ่ม เพราะช่วงนี้เป็นช่วงการลงทุนถูก นักอุตสาหกรรมจะใช้โอกาสนี้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรที่มีกำลังผลิตสูง
เพื่อร่วมผลักดันการเติบโตและเสริมศักยภาพการผลิตอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็คทรอนิกส์ บริษัทฯ เตรียมจัดงาน BIG JUNE EVENT “มหกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็คทรอนิกส์” 1 ปีมีครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 21-24 มิถุนายน 2550 ณ ไบเทค บางนาโดยภายในงาน การจัดงานเป็นคลัสเตอร์โชว์ที่ครบวงจรและเป็นเพียงหนึ่งเดียวในภูมิภาค ที่รวมเอาอุตสาหกรรมการผลิตที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกันประกอบด้วย เทคโนโลยีเพื่อการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
อิเล็คทรอนิกส์ แม่พิมพ์ พลาสติก และแขนกลเพื่อการผลิตอัจฉริยะ โดยมีบริษัทเข้าร่วมแสดงนวัตกรรมทั่วโลกมากกว่า400 บริษัท คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 45,000คน เงินสะพัดกว่า 1 พันล้านบาท
ดังนั้น เพื่อกระตุ้นนักอุตสาหกรรมตื่นตัวในการพัฒนาศักยภาพการผลิต บริษัทฯจะไปโรดโชว์ 3ภาคใหญ่ ได้แก่ อีสเทินร์นซีบอร์ด จ.ชลบุรี ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ณ โรงแรมดุสิตธานี บรรยายพิเศษโดยนายนิพนธ์ ศิริพูล General Director, Manufacturing บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เกี่ยวกับ Manufacturing and Technology Roadmap for Automotive Manufacturing Excellence มาตราฐานชิ้นส่วนยานยนต์ และ ความเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตยานยนต์(OEM)และผู้ผลิตชิ้นส่วนยนานยนต์ และ ปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางการปรับตัวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน” โดย นายณรงค์ศักดิ์ โอติลัทธ์ Director Manager บริษัท Thai Summit Eastern Seaboard Auto Parts Industry จำกัด จ.อยุธยา ในวันที่ 6 มิถุนายน ณ โรงแรมอู่ทอง โปรแกรมอยู่ระหว่างเรียนเชิญ และ จ.ลำพูน จะเป็นรูปแบบ Factory Visit ระหว่างวันที่ 4-15 มิถุนายนนี้ โดยคาดว่าการจัด Road Show ในแต่ละจังหวัดนั้น จะมีนักอุตสาหกรรมเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 400 คน” นายชัยณรงค์กล่าว
“สำหรับปี 2550 นอกจากแผนการจัดงานแสดงสินค้าระดับภูมิภาค ประจำปีแล้ว บริษัทมีนโยบายในการขยายตลาดใหม่ในเวียดนาม โดยโชว์ที่บริษัทฯ บุกตลาดเวียดนามนั้น คือ งานเมทัลเล็กซ์ มหกรรมเครื่องจักรละเทคโนโลยีโลหะการที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จัดเป็นปีที่ 22ที่กรุงเทพ ไปจัดที่ เวียดนาม ฮานอย ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและนิทรรศการ วาเฟค VEFAC (Vietnam Exhibition Fair Center) คาดว่าจะมีผู้ประกอบการแบรนด์เนมเข้าร่วมงานมากกว่า 155 บริษัท อาทิ ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ไทย อังกฤษ และ เยอรมัน
สำหรับปี 2550 บริษัทมีแผนการจัดงานทั้งสิ้น 9 งาน ซึ่งแต่ละงานมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับผู้แสดงสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ BIG JUNE EVENT จัดระหว่างวันที่ 21-24 มิถุนายนนี้ ณ ไบเทค งานเมทัลเล็กซ์ เวียดนาม งานแสดงเครื่องจักรและเทคโนโลยีโลหะการ ณ ระหว่างวันที่ 11 — 13 ตุลาคม ณ ฮานอย ประเทศเวียดนาม งานเมทัลเล็กซ์ 2007 มหกรรมเครื่องจักรโลหะการที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 15 -18 พฤศจิกายน ณ ศูนย์แสดงสินค้านิทรรศการไบเทค บางนา และ งานเวิล์ดไดแดค เอเชีย งานแสดงอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนนานาชาติ ระหว่างวันที่ 27 — 29 พฤศจิกายน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในปี 2550 บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโต 15 — 20เปอร์เซ็นต์” นายชัยณรงค์ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ