ครม.ไฟเขียวใช้แผนใหม่ประเมินลดใช้พลังงานในส่วนราชการ

ศุกร์ ๓๐ มีนาคม ๒๐๐๗ ๑๒:๐๔
กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--สนพ.
ครม.ไฟเขียวใช้แผนใหม่คำนวณหาค่ามาตรฐานการใช้พลังงานในส่วนราชการ มั่นใจทำให้ทราบความต้องการใช้พลังงานที่แท้จริงของแต่ละหน่วยงานซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงแผนการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าวิธีเดิม
ดร.ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 มี.ค.50 ได้มีมติอนุมัติให้นำ “ค่ามาตรฐานการจัดการใช้พลังงานในส่วนราชการ” มาใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินผลด้านการประหยัดพลังงานของส่วนราชการตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นไป โดยมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ร่วมกันพิจารณาและกำหนดปัจจัยต่างๆ ที่เป็นตัวแปรให้เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับของส่วนราชการ และให้ทางสำนักงบประมาณนำค่ามาตรฐานการจัดการใช้พลังงานส่วนราชการไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในส่วนที่เป็นค่าไฟฟ้าและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งนี้มาตราการดังกล่าวจะเริ่มใช้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เป็นต้นไป
สำหรับในปีงบประมาณ 2550 นี้ มติคณะรัฐมนตรียังคงกำหนดเป้าหมายลดใช้พลังงานของส่วนราชการไว้ที่ระดับ 10-15% เช่นเดียวกับปี 2546 ไปก่อน และได้มอบหมายให้ สนพ.ทำความเข้าใจกับส่วนราชการเรื่องเกณฑ์การพิจารณาใหม่เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการใช้งานต่อไป อีกทั้งมอบหมายให้กระทรวงการคลังกำหนดให้ทุกส่วนราชการจัดซื้ออุปกรณ์และครุภัณฑ์โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานหรือเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ดำเนินการให้หน่วยงานราชการ ลดใช้พลังงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2543 โดยช่วงแรกเน้นการกำกับดูแลการประหยัดพลังงานในหน่วยงานส่วนกลาง ต่อมาได้มีการออกมาตรการประหยัดพลังงานให้ครอบคลุมส่วนภูมิภาคและหน่วยงานในสังกัดอย่างทั่วถึง ประกอบกับการอำนวยความสะดวกในการรายงานผลด้วยระบบอินเตอร์เน็ต www.e-report.energy.go.th พร้อมทั้งให้บริการตอบข้อซักถามทางโทรศัพท์ ทำให้หน่วยงานราชการตระหนักและ หันมาให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น
ซึ่งจากการติดตามข้อมูลพบว่าหน่วยงานราชการหลายแห่งได้พยายามลด การใช้พลังงานตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดไว้คือ 10-15% แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรเนื่องจากหน่วยงานแต่ละแห่งมีภาระกิจหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป อาทิ ปริมาณงาน-กิจกรรม ที่เพิ่มขึ้นตามการการขยายตัวทางเศรษฐกิจทำให้ต้องรับบุคคลากรเพิ่ม เป็นต้น ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเป็นผลให้หน่วยงานต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“เราเชื่อว่าการนำวิธีการประเมินผลการใช้พลังงานแบบใหม่มาใช้แทนวิธีการเดิมนั้น จะทำให้หน่วยงานราชการต่างๆ เกิดความเสมอภาคในการคำนวณหาค่ามาตรฐานการลดใช้พลังงาน ทั้งยังทำให้ทราบถึงผลการใช้พลังงานของแต่ละหน่วยงานว่าสามารถปฏิบัติได้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ และมั่นใจว่าวีธีการใหม่นี้จะนำไปสู่การปรับปรุงแผนการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น”ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๖ เอ็ม บี เค เปิดโลกนวัตกรรมยานยนต์แห่งสายน้ำสุดล้ำสมัย มหกรรมเรือยิ่งใหญ่แห่งปีกับงาน Riverdale Marina Boat Fair # 3 วันที่ 5-9 มี.ค.
๑๖:๓๑ พาส่องเทรนด์การท่องเที่ยว 'Conscious travel' นักท่องเที่ยวไทยพักผ่อนในโรงแรมนานขึ้น พร้อมมองหาประสบการณ์สุดพิเศษ
๑๖:๒๘ อาการสั่น. สัญญาณเตือนโรคร้ายทางสมอง
๑๖:๓๙ เปิดมุมมองการประเมินคุณภาพภายนอกปี 2567 - 2571 ในรูปแบบ การประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
๑๖:๔๒ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมมือ ฟลิปส์ อินโนเวทีฟ พัฒนาแพลตฟอร์ม 'Flips IP' เปลี่ยนทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล
๑๖:๐๐ Jelly Bunny ส่งต่อความสดใสไปกับคอลเลกชั่น Lost in the Sunshine ต้อนรับฤดูกาลแฟชั่นสปริง - ซัมเมอร์ 2025
๑๖:๕๐ SAPPE โชว์ผลประกอบการปี 67 ทำ All Time High ยอดขายแตะ 6,775 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,252 ล้านบาท
๑๖:๓๑ SCN ออกหุ้นกู้ 2 ชุด กำหนดดอกเบี้ยคงที่ 7.00-7.25% เปิดขาย 26-27 ก.พ. นี้ ผ่านบล.ยูโอบี และบล.เคพีเอ็ม รับแผนเร่งเกมเดินหน้าขยายและต่อยอดธุรกิจปี
๑๖:๔๖ ลดยกเกาะรับซัมเมอร์ !! โฮมโปร-เมกาโฮม เสิร์ฟดีลคุ้ม 5 สาขาเกาะภูเก็ต ครบเรื่องบ้าน-งานช่าง แจกทั้งส่วนลด รับคืนสูงสุด 8,900 บาท เริ่ม 22 ก.พ. 68 นี้ 9
๑๖:๑๘ เมย์แบงก์ เกาะกระแส AI จัดสัมมนาการลงทุนพิเศษ AI on the Rise เจาะลึกตลาดหุ้นสหรัฐฯ กับนักวิเคราะห์ดังระดับโลกจากวอลล์สตรีท