กรมส่งเสริมสหกรณ์ แนะ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย ใส่ใจอาชีพ หมดหนี้แน่นอน

อังคาร ๑๔ สิงหาคม ๒๐๐๗ ๑๒:๒๓
กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์ย้ำ เกษตรกรต้องเชื่อมั่นและเข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ อย่าปิดกั้นตัวเองและพร้อมเข้าถึงแก่นของการเกษตร เพื่อผลแห่งความสำเร็จในอนาคต
นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวถึงโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมสหกรณ์ว่า “โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนเป็นโครงการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรนำที่ดินของตน (กสน.3)มายื่นเป็นหลักประกันสินเชื่อกับ ธกส. เพื่อกู้เงินอย่างถูกต้องตามระบบและนำไปประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม โดยโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการที่ทำให้เกษตรกรนำเงินที่ได้มาไปลงทุนประกอบอาชีพต่างๆ ซึ่งประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ตั้งไว้”
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ปัจจัยที่ทำให้การประกอบอาชีพประสบผลสำเร็จเริ่มตั้งแต่การฝึกอบรมผู้แทนสหกรณ์ภาคการเกษตร การให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการเลือกประกอบอาชีพ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด การฝึกอบรมเกษตรกรให้มีความรู้และเข้าใจระบบกลไกของตลาดตลอดจนเทคนิควิธีการต่างๆ ในการประกอบอาชีพ การฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกร ทั้งการให้งบประมาณถ่ายทอดเทคโนโลยีและงบประมาณสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่างๆการประชาสัมพันธ์ประชุมชี้แจง ติดตาม กำกับ แนะนำการดำเนินงานตามโครงการ ทั้งนี้เกษตรกรต้องควบคุมการใช้จ่าย โดยไม่นำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือนำไปใช้จ่ายในทางที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อีกทั้งเกษตรกรต้องเปิดใจและพร้อมที่จะรับความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมหรือถ่ายทอดและพยายามทำความเข้าใจวัตถุประสงค์หลักของโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนที่ตนเข้าร่วม และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือเกษตรกรจะต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
เกี่ยวกับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2546 โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์ 4 ประการ คือ 1.ให้เร่งรัดการออกเอกสารสิทธิสัญญา หนังสืออนุญาตต่างๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ที่จะนำมาแปลงเป็นทุน รวมทั้งการตรวจสอบรับรองความถูกต้องของเอกสารดังกล่าว 2.เปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองเอกสารสิทธิ์ สัญญาและหนังสืออนุญาตสามารถใช้เอกสารเหล่านั้นเข้าถึงแหล่งทุนได้โดยเน้นผู้ครอบครองรายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก 3.ให้มีการปรับระบบข้อมูลสินทรัพย์และการประเมินสินทรัพย์ที่ถูกต้อง โปร่งใสมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 4.ให้มีการจัดที่ดินและสินทรัพย์อื่นให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๙ ผู้ถือหุ้น READY อนุมัติปันผล อัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น ปักธงปี 68 รายได้โต 10% เติบโตตามเทรนด์การตลาดยุคดิจิทัล
๑๗:๐๗ JMART เตรียมเงินพร้อมคืนหุ้นกู้ 1,500 ล้านบาท ตอกย้ำเสถียรภาพการเงินปิดจ๊อบหุ้นกู้ 856.6 ล้านบาท ขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่น
๑๗:๓๗ Lorde เซอร์ไพรส์! ส่งเพลงใหม่ในรอบ 4 ปี What Was That พร้อมเอ็มวีแนว Vlog สุดเท่ ซีนยิ่งใหญ่แฟนเพลงรวมตัวกว่า 8,000
๑๗:๐๔ Kenny G คัมแบ็ค!! ชวนแฟน ร่วมดื่มด่ำสุนทรียภาพดนตรีแจซระดับโลกอีกครั้ง ใน Kenny G Live in Bangkok 2025 เปิดแสดง 4 กรกฎาคม
๑๗:๒๓ เปิดประตูสู่อนาคตไอที รำไพพรรณี MOU นครระยองวิทยาคมฯ สร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่
๑๗:๐๘ JGAB 2025 เวทีอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียนระดับโลก ดันไทยสู่ศูนย์กลางการค้าและนวัตกรรมเครื่องประดับอย่างยั่งยืน
๑๗:๐๒ อ.อ.ป. ร่วมยินดี อคส. ครบรอบ 70 ปี
๑๗:๓๗ กองทรัสต์อัลไล เดินหน้าขยายพอร์ต เตรียมลงทุน! 2 โครงการใหม่ ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ และ วิลเลจ ฮับ สายไหม โครงการคอมมูนิตี้มอลล์บนทำเลศักยภาพ
๑๗:๓๕ Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) รวมพลังคนกรุง สู้วิกฤตโลกร้อน
๑๗:๓๑ Sherwood Corporation จับมือ Conquest Crop Protection Pty Ltd ขยายช่องทางสู่ตลาดเคมีเกษตรในออสเตรเลีย