เรื่องย่อ พลอย

กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--ไฟวสตาร์
อย่าทำเรื่องรัก ให้เป็นเรื่องยาก ในชีวิตคู่ หรือชีวิตรักของคุณ
ไฟว์สตาร์ และ Fortissimo films ภูมิใจเสนอ
โดย เป็นเอก รัตนเรือง
จากตลก 69 นานถึง 7 ปี กับการกลับมาบนแผ่นฟิล์ม ของสุดยอดนักแสดงไทย หมิว ลลิตา ปัญโญภาส ครั้งแรกของนักธุรกิจ หนุ่มใหญ่ พรวุฒิ สารสิน กับการมาเป็นนักแสดง ในฐานะดารานำ
อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และ พรทิพย์ ปาปะนัย ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า “ ทำรัก ดีกว่า ทะเลาะกัน ” และขอแนะนำ ทักษกร ประดับพงษา โปรดิวเซอร์หนุ่มหล่อจากวงการโฆษณา และ อภิญญา สกุลเจริญสุข ที่เกิดมาเพื่อบท “ พลอย ” สาวน้อย หัวฟู ตาโตหน้าใส ที่จะมาปลดล็อกชีวิตคู่ จะรัก หรือ จะเลิก 7 มิถุนานี้รู้กัน …!??
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ แนท-นันทรัตน์ 081-8246242, เอ๋-สุดารัตน์ 081-5949888, มนท์-มณฑารพ 089-4143225, อีฟ-ศรินธร 089-799-5222
เกี่ยวกับผู้กำกับ : เป็นเอก รัตนเรือง
เป็นเอก รัตนเรือง เกิด เมื่อปี 1962 เติบโตที่กรุงเทพมหานคร เขาใช้เวลาช่วงปี ค.ศ. 1977-1985 อยู่ในมหานครนิวยอร์ค โดยศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะที่ Pratta Insitute และเมื่อจบการศึกษาแล้วได้เข้าทำงานที่ บริษัท Designframe Incoporate ในตำแหน่ง กราฟฟิค ดีไซเนอร์
เป็นเอก กลับมาเมืองไทยในปีค.ศ.1986 และเข้าทำงานโฆษณากับบริษัท Synergie Communication ในตำแหน่ง อาร์ต ไดเร็คเตอร์ เป็นเวลา 1 ปี จากนั้นย้ายไปอยู่บริษัท Leo Burnett เป็นเวลา 4 ปี ก่อนจะออกมากำกับภาพยนตร์โฆษณาให้กับ บริษัท เดอะ ฟิล์ม แฟ็คตอรี่ จนถึงปัจจุบัน
เป็นเอก เขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่อง “ฝัน บ้า คาราโอเกะ” เป็นเรื่องแรกในปีค.ศ.1997 และเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับเกียรติไปฉายรอบปฐมฤกษ์ที่เทศกาลภาพยนตร์กรุงเบอร์ลิน ในปีเดียวกันนั้นเอง ภาพยนตร์เรื่อง“ฝัน บ้า คาราโอเกะ” ได้รับเชิญไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ต่าง ๆ ทั่วโลกอีกหลายเทศกาล อาทิ Montreal World Film Festival, Sao Paulo Film Festival, Hawaii International Film Festival, Thessaloniki Film Festival เป็นต้น และได้รับรางวัล Special Jury Prize ที่เทศกาลภาพยนตร์ Festival des 3 Continents ที่ประเทศฝรั่งเศส
เรื่องตลก 69 เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สอง ของเขา ต่อด้วยมนต์รักทรานซิสเตอร์ เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล นักแสดนำ ทาดาโนบุ อาซาโน่ ชนะรางวัลดารานำฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิซ ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา คำพิพากษาของมหาสมุทร ซึ่งแสดงนำโดยอาซาโน่ ได้รับเชิญไปเข้าร่วมสายประกวดในงานเทศกาลภาพยนตร์กรุงเบอร์ลิน ซึ่งนับเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกในรอบ 30 ปี ที่เข้าฉายประกวดในสายหลักของเทศกาลเบอร์ลิน และในปี 1970 ผลงานเรื่อง ล่าสุดเรื่อง ของเขาคือเรื่อง พลอย ที่กำลังจะเข้าฉายในเดือน มิถุนายนนี้
เรื่องย่อ พลอย
วิทย์ ( พรวุฒิ สารสิน ) และ แดง ( ลลิตา ปัญโญภาส ) ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในต่างแดนนานถึง 7 ปี ทั้งคู่ต้องกลับมาประเทศไทย เพื่อมางานศพญาติผู้ใหญ่ และใช้โรงแรมเป็นที่พักในช่วงเวลาที่ทั้งคู่ เหน็ดเหนื่อยและเพลียจากการเดินทาง เวลาตีห้าเศษ วิทย์ลงมาหาบุหรี่ ที่ลอบบี้ทำให้เขาได้พบกับพลอย สาวน้อยหัวฟู ตาโต น่ารัก ดูแตกต่างจากวัยรุ่นทั่วไป ที่รอแม่มารับในอีกสามสี่ชั่วโมง เขาหยิบยื่นน้ำใจแก่สาวน้อยวัยทีน ให้ขึ้นมาพักผ่อนที่ห้องพัก
แดง เปิดรับพลอยเข้ามาในห้องด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย แดงตั้งคำถามมากมายกับวิทย์ แต่กลับไม่ได้คำตอบที่อยากได้ยิน เป็นเรื่องที่แดงทนไม่ได้ และที่โรงแรมแห่งนั้น ในอีกมุมตุ้ม ( พรทิพย์ ปาปะนัย ) แม่บ้านประจำโรงแรม และบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ( อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ) ความรักของทั้งคู่กำลังเบ่งบาน วิธีการแสดงออกของความรัก ไม่มีการใช้คำพูด มีแต่การใช้ภาษาร่างกายถ่ายทอดอารมณ์รักให้แก่กัน ดูแตกต่างกันเหลือเกิน กับคู่ของวิทย์และแดง ที่มีแต่การตั้งคำถาม ถามถึงคำตอบที่ไม่อยากได้ยิน
ในสถานการณ์ที่มีสาวน้อยแปลกหน้ามาร่วมห้องด้วย อารมณ์ชั่ววูบ แดง ผลุนผลันออกจากโรงแรมไป และเธอได้พบกับ หมู (ทักษกร ประดับพงษา) แดงดื่มกับหมูจนเมา อะไรจะเกิดขึ้นกับแดงหนุ่มใหญ่อย่างวิทย์ และสาวน้อยน่ารักแบบ พลอย ความสัมพันธ์จะจบลงแบบไหน
ในที่สุดแล้ว วิทย์และแดงจะเลิกกัน หรือ กลับมารักกันเหมือนเดิม แม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่ พลอย ก็ได้เข้ามาเป็นคนที่เข้ามาปลดล็อกชีวิตคู่ ของวิทย์และแดง ไปแล้ว
ภาพยนตร์รัก เซอร์ไพรส์วงการ เมื่อ พรวุฒิ สารสิน ประกบหมิว ลลิตา อนันดา
ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น และ Fortissimo Films ภูมิใจเสนอ ภาพยนตร์รัก ที่จะมาปลดล็อกชีวิตคู่ โดย เป็นเอก รัตนเรือง ที่มีโปรแกรมเข้าฉายรับฤดูฝนที่จะถึงนี้ จะรักจะเลิก 7 มิถุนานี้รู้กัน
เชื่อเถอะ อย่าทำเรื่องรักให้เป็นเรื่องยาก
พลอย เป็นภาพยนตร์รัก ที่จะมาปลดล็อกชีวิตคู่ เป็นผลงานกำกับเรื่องล่าสุดของ เป็นเอก รัตนเรือง โดย ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ซึ่งมี พรวุฒิ สารสิน นักธุรกิจ ผู้บริหารบริษัทไทยน้ำทิพย์ มารับบทดารานำฝ่ายชาย ประกบการแสดง คู่กับ ดาราสุดยอดฝีมือ ลลิตา ปัญโญภาส ร่วมด้วย พระเอกมาดเซ็กซี่ขวัญใจสาวๆ อนันดา เอเวอร์ ริ่งแฮม ที่จะมาประกบคู่ กับ พรทิพย์ ปาปะนัย ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า การทำรักดีกว่าทะเลาะกัน อนันดา เคยร่วมงานกับเป็นเอก ในหนังสั้น ที่เป็นเอก กำกับ ให้กับเทศกาลภาพนตร์จอนจู อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ที่เกาหลี เรื่อง Twelve Twenty .ส่วน พรทิพย์ ปาปะนัย เป็นนักแสดงที่เคยร่วมงานกับเป็นเอก รัตนเรืองมาแล้วจาก มนต์รักทรานซิสเตอร์ ร่วมด้วย สาวน้อย ผมฟูตาโต หน้าใสวัย 16 ที่มีบุคลิกแตกต่างจากเด็กวัยรุ่นทั่วไป ผู้มาพร้อมกับความสามารถที่เกินวัย อภิญญา สกุลเจริญสุข หรือ น้องสายป่าน ผู้ที่มารับบท พลอย นอกจากนี้ยังมี ทักษกร ประดับพงษา โปรดิวเซอร์จากบริษัท โปรดักชั่นเฮ้าส์ ชื่อดังของไทย ที่ก้าวเข้ามาสู่การเป็นนักแสดงครั้งแรกในชีวิต
พลอย อำนวยการสร้าง โดยเจริญ เอี่ยมพึ่งพร อำนวยการผลิต โดยบริษัทไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด เขียนบท และ กำกับภาพยนตร์โดย เป็นเอก รัตนเรือง ดูแลการผลิตโดย เรวัตน์ วรรัตน์ กำกับภาพโดย ชาญกิจ ชำนิวิกัยพงศ์ ผู้ลำดับภาพ โดย ม.ร.ว.ปัทมนัดดา ยุคล ออกแบบงานสร้าง โดยศักดิ์ศิริ จันทรังษี ออกแบบงานศิลป์โดย พิพัฒน์ เพิ่มพูล คัดเลือกนักแสดง โดย สุขุมาภรณ์ สุทธศรศิลป์ เพลงประกอบภาพยนตร์ โดย จ๊อบ บรรจบ สินธุ
เกี่ยวกับงานสร้าง
พลอย เป็นผลงานภาพยนตร์รัก ที่จะมาปลดล็อกชีวิตคู่ ที่กำลังเกิดอารมณ์ที่ไม่เข้าใจ ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันทำให้มีปัญหา ของการใช้ชีวิตคู่ หรืออาจจะเรียกได้ว่ากำลังทำเรื่องรักให้เป็นเรื่องยาก ผลงานกำกับและเขียนบท โดย เป็นเอก รัตนเรือง
พลอย นำเสนอเรื่องราวความรัก ที่ใช้เวลาเดินทางมาสู่ปีที่ 7 ของ วิทย์ ( พรวุฒิ สารสิน ) และ แดง ( ลลิตา ปัญโญภาส ) โดยมีเด็กสาวผมฟู ตาโต หน้าใส ที่ดูแตกต่างจากเด็กวัยรุ่นทั่วไป ชื่อ พลอย (อภิญญา สกุลเจริญสุข) เข้ามาเป็นปลดล็อกความรู้สึกของทั้งคู่ให้ คลี่คลายออกมา ว่าในที่สุดแล้ว ทั้งคู่ยังต้องการกันอยู่ หรือหน่ายแหนงจนจนอยากเลิกราต่อกัน
เหตุการณ์ต่างๆที่เกิด ในพลอย เป็นเหตุการณ์ที่คนที่ผ่านชีวิตคู่ มาแล้วอาจจะเคยประสบกับตัวเองหรือรู้สึกคุ้นเคย กับบทพูดที่แทงใจดำ จนผู้ชมรู้สึกได้
เจริญ เอี่ยมพึ่งพร กรรมการบริหารบริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ในฐานะผู้อำนวยการสร้างกล่าวถึง ที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ ระยะหลังมานี้ เป็นเอก เขาจะมีงานภาพยนตร์ ที่มีสเกลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ร่วมทุนกับต่างชาติ มีคนเขียนบทให้ มีดาราจากต่างประเทศมาร่วมแสดงอย่างเรื่อง รักน้อยนิดมหาศาล หรือ คำพิพากษาของมหาสมุทร มีทีมโปรดักชั่นที่ใหญ่ขึ้น พอมาวันนี้ ทางไฟว์สตาร์ อยากจะเห็น เป็นเอก เขากลับมากับภาพยนตร์ ที่เขาเขียน บทเองอย่าง ฝันบ้า คาราโอเกะ เรื่องตลก 69 หรือ หนังตลาด อย่างมนต์รักทรานซิสเตอร์ และเขาก็มีบทพลอยมาให้เรา หนังอย่างพลอยจะเป็นหนังที่มีความเป็นตัวของเป็นเอกเอง ที่เราอยากได้ และก็มีคนชื่นชอบ ”
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเอก รัตนเรือง เขียนบทขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลจากญาติใกล้ตัว “ แรงบันดาลใจของผมคือมีญาติเป็นผู้หญิงเขาเป็นลูกลุงอยู่ต่างประเทศ เขาทำร้านอาหารวันหนึ่งญาติผู้ใหญ่ของผมเสีย ก็กลับมา ก็ไปอยู่โรงแรม เขาไม่อยู่เมืองไทยมานานไม่มีบ้านอยู่มา 25 ปีแล้ว ผมไปเจอที่งานศพและมันเป็นเรื่องน่าแปลกสำหรับผม แรงบันดาลใจมาจากแค่นั้น คนไทยที่ต้องไปอาศัยโรงแรมอยู่และจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา ”
เป็นเอก รัตนเรือง กล่าวถึง ผลงานภาพยนตร์ เรื่องล่าสุดของเขาว่า ภาพยนตร์ทุกเรื่องของเขาที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น มนต์รักทรานซิสเตอร์ เรื่องตลก 69 ล้วนแล้วแต่เป็นหนังรัก และ พลอย ก็เป็น ภาพยนตร์ รัก อีกเรื่องของเขา เขาอยากจะเสนอเรื่องราวของชีวิตคู่ที่อยู่กันมานาน “ชีวิตคู่ส่วนใหญ่ มันจะต้องมีทั้งเรื่องสุข เรื่องทุกข์ ทะเลาะกันดีต่อกัน เรื่องราวในพลอย เกิดขึ้นด้วยการที่มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตของคู่สามีภรรยาคู่นี้ ในเวลา ตีห้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ฟิวส์กำลังจะขาด มันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายนะแต่ในณะเดียวกันมันก็ดีเพราะ 7 ปี กับความในใจที่สะสมมามันได้ถูกพูดออกมาหมด มันเหมือนได้เปิดใจ มันก็เหมือนร่างกายเราได้ถูกล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปจนสะอาดซึ่งเหตุการณ์นี้มันอาจจะทำให้เขาเห็นคุณค่ากันมากขึ้น หรือ อาจจะทำให้รูปแบบของความรักเปลี่ยนไปก็ได้ มันเหมือนปลดล็อกให้คนได้คิด ”
พลอยเปิดกล้องถ่ายทำเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยใช้เวลาถ่ายทำประมาณเดือนเศษ โดยใช้โลเกชั่น ในกรุงเทพฯและส่วนใหญ่จะอยู่ในย่าน สุขุมวิท ไม่ว่าจะเป็นฉากร้านอาหารและ ย่านพุทธมณฑล และในสตูดิโอบางส่วน พลอยเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ไปถ่ายทำที่สนามบินสนามบินสุวรรณภูมิ ทีมงานสร้าง ของภาพยนตร์เรื่องนี้ล้วนแล้วแต่เคยร่วมงานกับเป็นเอกมาแล้ว ทั้งในงานทางด้านโฆษณา และภาพยนตร์ ในส่วนของการกำกับภาพ เป็นหน้าที่ ชาญกิจ ชำนิวิกัยพงศ์ ผู้กำกับภาพที่ร่วมงาน กับ เป็นเอกมานาน จนรู้ใจ ศักดิ์ศิริ จันทรังษี หรือ ตั้ม รับหน้าที่ โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ ซึ่งร่วมงานมากับเขา ตั้งแต่เรื่องตลก 69 มนต์รักทรานซิสเตอร์ รักน้อยนิดมหาศาล คำพิพากษาของ มหาสมุทร “ทำงานเรื่องนี้ ไม่ยุ่งยาก “ เขากล่าว “ วิธีการเตรียมงาน โครงสร้าง มีโมเดล คล้ายๆกับตอนที่ทำเรื่อง ตลก 69 มันเหมือนโจทย์เดิม แต่มีอะไรที่แตกต่าง พี่ต้อมเขาเก๋าขึ้น ฉากที่ใช้เยอะก็เป็นฉากโรงแรม เหมือนกบตอนที่เราทำ ห้อง 609 เรื่องนี้ห้องของโรงแรม เราเซ็ทฉากขึ้นใช้ดาดฟ้าของโรงแรม ย่านสุขมวิท มาเซ็ทฉากห้องพัก เราก็ทำได้สมจริง ทุกอย่างพยายามทำให้ดูเหมือน แบบตรงไปตรงมา “
วิสาข์ คงคา คอสตูม ดีไซเนอร์ ร่วมงานกับเป็นเอก รัตนเรือง มาตั้งแต่เรื่องตลก 69 มนต์รักทรานซิสเตอร์ รักน้อยนิดมหาศาล คำพิพากษาของ มหาสมุทร และรวมทั้งหนังสั้น และ ภาพยนตร์ โฆษณาที่เป็นเอก กำกับ “เสื้อผ้าของนักแสดงในเรื่องนี้ ไม่ค่อยมีอะไรยุ่งยาก เพราะทำงานกับพี่ต้อมมานาน เลยค่อนข้างจะรู้ ก็เลยง่ายในการคิด ดูเหมือนจะเป็นอะไรก็ได้ แต่ก็จะมีจุดนิดหนึ่งที่ดูแตกต่าง โจทย์ ของเสื้อผ้าในเรื่องนี้ มีทั้งเรื่องของวัย และบุคลิกของตัวแสดง ลุคผม เสื้อผ้า ให้ไปในทางเดีวกัน อย่างหมิว ในบทเป็นดาราเก่า ก็ต้องให้เขาดูดีในอีกแบบหนึ่ง แต่ต้องไม่ใช่อย่างที่เห็นในละครหรือในโฆษณา อย่างคุณพรวุฒิ ตอนแรกที่ได้โจทย์ ไม่ใช่เขา พอมาเป็นเขา ก็ต้องมีการปรับเขาให้เข้ากับหนัง เขาเป็นคนที่มีบุคลิกดีอยู่แล้ว เราเพียงแต่สวมความสบายให้เขา เปลี่ยนจากสิ่งที่เราคิดตอนแรกไม่มากนัก”
“ในส่วนของบทพลอย ที่เป็นวัยรุ่น เขาเป็นเด็กที่เป็นตัวของตัวเอง และโตกว่าอายุและโดยส่วนตัวแล้วสายป่านก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เราก็ใช้วิธีหยิบโน่น หยิบนี่ มาใส่ให้ เขาชอบฟังเพลง ก็มีหูฟังเพลงให้ ทำให้เขาดูแตกต่างจากเด็กวัยรุ่นทั่วไป และเขาเป็นเด็กหน้าใสๆ และทรงผมที่ไม่เหมือนใครเลยทำให้ น้องเขาเหมือนตุ๊กตา แต่งตัวให้เขาแล้ว ก็รู้สึกว่าเข้ากับบุคลิคในเรื่องดี ”
ในส่วนของ การแต่งหน้า และผม ในเรื่อง เป็นหน้าที่ ของ เบส พัทธ์ธีรา พุฒิสุรเศรษฐ์ ที่ทำงานอยู่ในแวดวง ภาพยนตร์ มามากมาย อาทิ เรื่องเด็กระเบิด เรื่องเจนนี่ 18/80 โคลนนิ่ง ปาฏิหาริย์โอมสมหวัง จากนั้น มีโอกาสมาร่วมงานกับ บริษัท เดอะฟิล์ม แฟคตอรี่ และร่วมงานกับ เป็นเอก รัตนเรือง มาในภาพยนตร์เรื่องตลก 69 และฝันบ้าคาราโอเกะ และงานโฆษณาอื่นๆ
ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เธอ คือเรื่อง เปนชู้กับผี ที่เธอสามารถคว้ารางวัลแต่งหน้ายอดเยี่ยมมาครอง จากงานสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ อวอร์ด
เธอเล่าถึงการทำงานเรื่องพลอยให้ฟังว่า “ พี่ต้อมให้โจทย์มาว่า ให้แต่งหน้านักแสดง แล้วดูเหมือนไม่แต่ง คือแบบไม่ให้เห็นแป้ง ซึ่งเมื่อ 8 ปีมาแล้ว จาก ตลก69 เบสเคยได้โจทย์แบบนี้มาแล้ว จากพี่ต้อม พอเราได้มาทำเรื่อง “พลอย”กับพี่ต้อมอีก ก็เหมือนเรารู้อะไรเยอะๆแล้วทำให้เครียดกับโจทย์เพราะมันรู้สึกยาก แต่พอได้มีการเทสต์ฟิล์มสักครั้งสองครั้ง และได้มาคุยกับหมิวปรึกษากัน หมิวก็ให้ข้อคิดและแนะนำซึ่งกันและกันจน พี่ต้อม โอเค”
“สิ่งสำคัญในการแต่งหน้าให้นักแสดงในเรื่อง คือ ต้องดูการจัดแสง และมุมกล้องที่เขาใช้ พี่ต้อมเป็นคนทำงานด้วยแล้วสบายใจแล้ว หนังเรื่องนี้บอกเลยว่าเข้มข้น ถ้าคิดว่าเรื่อง”พลอย” เป็นอาหารสักจานก็คงเป็นสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา เพราะรู้สึกว่าเรื่องมันยุ่งวุ่นวาย มีทั้งเผ็ด ทั้งร้อน ทั้งหวาน อยากบอกคนดูว่า ถ้าคุณได้มาดูเรื่องนี้คุณจะรู้ว่าวิวัฒนาการหนังไทยเปลี่ยนไปแล้ว ”
การคัดเลือกนักแสดง
เป็นเอก กล่าวถึงการคัดเลือกนักแสดง ในภาพยนตร์ เรื่องพลอย ว่า
“หมิว ลลิตา ปัญโญภาส เราเคยร่วมงานกันมาใน ภาพยนตร์ เรื่อง ตลก 69 หมิวตอนนี้ ไม่ใช่หมิวที่เล่น 69 แล้ว เขาก็ผ่านชีวิตแบบในสคริปต์นี้แล้วเหมือนกัน มีลูก 2 คน มีสามีหน้าตาดี เจ็ดแปดปีที่ผมไม่ได้ร่วมงานกัน ผมก็สนใจที่จะเห็นส่วนนั้นที่มีอยู่ ตอนถ่าย 69 กับหมิว บอกว่าเสียเพื่อนไป สามสี่คน เพราะหลุดจากตัวละครไม่ได้เป็นพวกเพื่อนเกลียดตอนนี้เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้าเป็นสมัย 69 ถ้าเขาจะต้องเหนื่อยเขาต้องวิ่งให้เหนื่อยก่อนจริงๆ เพื่อจะมายืนหน้ากล้องแต่ตอนนี้เขาจะเป็นอีกแบบแล้ว เขาก็ผ่านชีวิตแบบในสคริปนี้แล้วเหมือนกัน และหมิวก็แสดงความสามารถ ท้าทายผมตลอดเวลา ทำให้เราทำงานกันสนุกมาก ”
ส่วนนักแสดงนำฝ่ายชาย เขาได้ พรวุฒิ สารสิน นักธุรกิจ หนุ่มใหญ่ ผู้บริหารของบริษัท ไทยน้ำทิพย์ วัยใกล้เคียงกับบท วิทย์ ในเรื่อง “ คุณพรวุฒิ เจอกันโดยอุบัติเหตุ ที่เมืองนอก เกือบ 20 ปี เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนผม โชคดีที่ เขาเป็นคนดูหนังฟังเพลงพอสมควร ดูเหมือนเขาจะเป็นแฟนหนังของผมหน่อยๆ เขาดูหนังเราหลายๆ เรื่อง เขาชอบมนต์รักทรานซิสเตอร์มาก เขาชอบเรื่องตลก 69 เป็นคนที่มีอายุมากแล้ว แต่ไม่ยอมแก่ เรื่องชีวิตรักไม่ต้องพูดถึงทำคนบาดเจ็บและตัวเองก็บาดเจ็บสาหัสเต็มไปหมด ติดต่อเขาผ่านโมเดลลิ่ง ตอนแรก คิดว่าติดต่อไปเขาคงไม่เล่น เขาเป็นนักธุรกิจระดับนั้นก็ติดต่อไปไม่รู้ว่าเป็นหนังผมด้วยหรือเปล่าเขาจึงอยากลอง ก็มหัศจรรย์ที่เขาเล่นได้ แต่ผมก็ไม่แปลกใจเพราะมั่นใจว่าบทนี้เล่นได้ทุกคน ตอนทำงานอย่างคุณใหญ่ชอบเขาชอบซ้อมเยอะๆ จนกว่าเราจะพอใจ บางครั้งผมบอกว่าซ้อมแต่ถ่ายเลยโดยไม่บอกเขา”
ในส่วนของนักแสดงอีกคู่ที่มีส่วนสำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แก่ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และพรทิพย์ ปานะนัย (การ์ตูน) ที่มารับบท นัท บาร์เทนเดอร์หนุ่ม และ ตุ้มแม่บ้านประจำโรงแรม ที่มีฉากเลิฟซีนที่ เขาตั้งใจ ให้เห็นถึง อารมณ์ ที่แตกต่าง ระหว่าง คู่ที่แต่งงานมาแล้ว กว่า 7 ปี กับคู่ที่กำลังเริ่มรักกัน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่พึงพอใจว่า“กับอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เคยร่วมงานกัน มาแล้วจากตอนที่ผมทำหนังสั้น เรื่อง Twelve Twenty .ให้กับเทศกาลหนังสั้น จอนจู อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ที่เกาหลี ”
“เรา สื่อสารกันได้ด้วยดีเขาเหมาะกับหนังประเภทโป๊ เปลือย เขาเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ และเขาก็ทำได้ดีในเรื่องนี้”
พรทิพย์ ปานะนัย (การ์ตูน) นักแสดงสาวที่เคยร่วมงานกับเขามาแล้ว ในภาพยนตร์ เรื่องตลก 69 “การ์ตูนเขาเล่นเก่ง เขาไม่ได้เล่นเป็นแบบหนังไทย ผมชอบหน้าตา ชอบผิวของเขา ชอบมากเลย เขาสวยรูปร่างดี พอติดต่อไปเขาก็รับเล่นเลย ผมถามว่ารู้ไหมว่าต้องโดนอะไรบ้าง ผมก็บอกว่าส่งบทให้อ่านเลยครับ ถ้าอ่านบทแล้วจะเล่นโอเคไม่ใช่แบบว่า หนังพี่ต้อมยังไงก็เล่นไม่เอา ต้องไม่หลอกเขามาตอนเข้าฉากเลิฟซีน” กับการถ่ายทำ ฉากความรัก ของ อนันดา และ พรทิพย์นั้น เป็นงานแปลกใหม่ ที่เขายอมรับว่า รู้สึกเบื่อเหมือนกันในขณะที่ถ่ายทำ “การถ่ายทำในฉากการเมคเลิฟ ของ ตุ้มกับนัท ผมยอมรับว่า อึดอัด และเป็นงานที่น่าเบื่อ กับการที่ต้องคอยกำกับ คนที่ร่วมรักกันเป็นวันๆ พอเริ่มถ่ายก็มีความรู้สึก อยากจะถ่ายให้มันเสร็จ ให้มันจบเร็วๆ ”
ทักษกร ประดับพงษา ( ปั๊ม ) ผู้ที่รับบท คุณหมู “ปั๊มเขาเป็นโปรดิวเซอร์อยู่บริษัทโปรดักชั่น เฮ้าส์ ของเพื่อนผม ผมไม่เคยเจอเขามาก่อน ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นคนแบบนั้น ถ้ารู้ก็จะเขียนบทให้อีกสองวันเลย เขาเอ็นจอยมาก และทำได้ดีมาก”
ในส่วนของนักแสดงที่มีบทสำคัญไม่แพ้นักแสดงคนอื่นๆ และเป็นตัวต้นเหตุ ที่ก่อให้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายในภาพยนตร์ เรื่องนี้ ได้แก่ สาวน้อย อภิญญา สกุลเจริญสุข หรือ สายป่าน ผู้ที่มารับบท พลอย
“ผมชอบตัวที่เล่นเป็นพลอยที่สุด เหมือนฟ้าประทานมาจริงๆ ที่ให้เขาได้เล่นเป็นพลอย ตอนเขียนบทเรื่องพลอย เหมือนมันมี สายป่านเขาอยู่ในอากาศ ความเป็นพลอย มันอยู่ในตัวของเขาอยู่แล้วก็เลยเขียนออกมาแล้วก็เจอน้องเขา ผมทำหนังมา10 ปี ตอนเห็นเทคแรกที่เขาแสดง สายป่านซึ่งเป็นเด็กอายุ 16 แต่เขามีสมาธิเหมือนคนที่เล่นหนังมาแล้ว 30 เรื่อง ประหลาดมากทั้งที่ไม่เคยเล่นเลย หนังของผมก็รู้กันอยู่บทพูดยาวเหยียดเลยไม่ได้เล่นเป็นคัทๆ เล่นเป็นซีน แต่เขาไม่มีปัญหาในการจำเลย จำได้หมด พอเล่นไปดูไม่ดีก็ไม่เอาเปลี่ยน บทพูดแรกไม่เอา เอาอันใหม่ พอสั่งแอ็คชั่นปุ๊บทำได้หมด คือไม่มีผลอะไรกับเขาเลย เป็นสิ่งที่อธิบายไม่ได้คล้ายๆ สิ่งที่ มาริลิน มอนโร เป็น คล้ายๆว่า กล้องชอบเขา เขาก็ชอบกล้อง เป็นเคมีพิเศษ ที่เขามีกับกล้อง ดูก็เป็นเด็กธรรมดาดูไม่สวยมากแต่พออยู่ในเลนล์ก็สวยขึ้นมาทันที เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ ”
ในภาพยนตร์ เรื่องนี้ นอกจากการถ่ายภาพ ที่สวยงาม แล้ว ยังมีเพลงประกอบเพราะๆ ของ จ๊อบ บรรจบ สินธุ และเพลงเสน่หา ที่มาเพิ่มอารมณ์ ให้ภาพยนตร์ เรื่องนี้น่าดูมากขึ้นอีกด้วย
เกี่ยวกับนักแสดง
ลลิตา ปัญโญภาส ผู้รับบท แดง อดีตดาราดัง ที่ติดเหล้า แต่งงานมาแล้ว 7 ปี กับวิทย์
ลลิตา ปัญโญภาส ชื่อเล่น หมิว เกิดวันที่ 5 ต.ค 1971 ปัจจุบันเธอสมรสแล้วกับ ร.ต.ต นรบดี ศศิประภา และมีบุตรชายที่น่ารักด้วยกัน 2 คน คือ อีตัน และแพลงตอน
เธอเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่เด็กจากละครเรื่อง สะใภ้สลัม จากนั้นก็มีละครเรื่องปริศนา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอก้าวมาเป็นดาราชั้นแนวหน้าของวงการบันเทิง และหลังจากนั้น ก็มีผลงานสู่วงการละครอย่างต่อเนื่อง อาทิในฝัน,ยามเมื่อลมพัดหวน,พริกขี้หนูกับหมูแฮม และทรายสีเพลิง ซึ่งเป็นผลงานที่หมิวเปลี่ยนบทบาทจากนางเอกมาเป็นนางร้ายแสนสวยซึ่งเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญที่ทำให้เธอได้รับรางวัลต่างๆ เช่น รางวัล VOTE AWARDจากคลื่นวิทยุที่มีผู้ฟังมากที่สุดในประเทศไทย และ รางวัลโทรทัศน์ทองคำจากเรื่องนี้อีกด้วย
หลังจากนั้นเธอก็ห่างหายจากวงการเพื่อศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษและสมรส เธอกลับเข้าสู่วงการอีกครั้งโดยเริ่มแสดงละครเรื่องรักเล่ห์เพทุบาย,เจ้ากรรมนายเวร จากนั้นก็มีละครเรื่องกุหลาบสีดำ ที่เธอรับบทนักโทษที่ต้องอยู่ในเรือนจำจริงๆ และล่าสุดกับ วีรกรรมทำเพื่อเธอ นอกจากนี้หมิวยังได้รับรางวัลอื่นๆด้วย เช่น DIAMOND STAR#3 จากผู้ชมรายการสมาคมชมดาว ,รางวัลจากสมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ สาขานักแสดงต่อต้านยาเสพย์ติดดีเด่น และรางวัลล่าสุดกับรางวัล Seventeen Star Icon จากนิตยสาร Seventeen .
สำหรับงานในวงการภาพยนตร์ เธอเริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก คือ เรื่องแรงเทียน และได้รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำหญิงยอด
เยี่ยมจากเรื่องนี้ด้วย ต่อมาก็มีเรื่อง เพราะว่าฉันรักเธอ, ด้วย.......รักและคิดถึง,ธันย่า แม่มดยอดยุ่ง,ฯลฯ และเรื่องล่าสุดกับ เรื่องตลก 69 ผลงานของ เป็นเอก รัตนเรือง ในเรื่องนี้เธอได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, รางวัลจากชมรมวิจารณ์บันเทิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และรางวัลจากสมาคมภาพยนตร์แห่งชาติสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และ รางวัลจากสมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ สาขานักแสดงต่อต้านยาเสพย์ติดดีเด่น
พลอย เป็นการร่วมงานอีกครั้งกับเป็นเอก ของหมิว ลลิตา ปัญโญภาส กับบทบาท สำคัญ ในชีวิตการแสดงภาพยนตร์ ของเธอ ในบทแดง อดีตดาราที่ติดเหล้า และระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา
“แดง คือผู้หญิงที่มีความเป็นคนมากๆ มันมีตัวตนจริงๆ มันก็เป็นชีวิตคนปกติของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่บังเอิญที่ผู้หญิงคนนี้เป็นคนคิดมาก เก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาเป็นเรื่องราวได้หมด เป็นมาดามหน่อยๆ และเคยเป็นนักแสดงมาก่อน ออกจากวงการไปทำกิจการร้านอาหารที่ต่างประเทศ แต่ก็จะเป็นคนที่ห่วงภาพลักษณ์ มีฟอร์ม ระวังตัวเอง ”
“มาร่วมงานกับพี่ต้อมครั้งนี้เพราะทุกอย่างมันลงตัว เรื่องของเวลา จังหวะต่างๆ พี่ต้อมพูดมาว่าตอนที่เขียนบทเรื่องนี้คิดถึงเราอยู่ อยากให้เรามาเล่นก็ดีใจที่พี่ต้อมให้เกียรติ ที่เขียนบทและยังนึกถึงเราอยู่”
“คือแดงเป็นผู้หญิงน่าเซ็งคนหนึ่งในสายตาผู้ชาย คือน่าเบื่อ อะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็จะเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งจริงๆ มันอาจจะไม่มีความหมาย ไม่มีอะไรเลย หรืออาจจะมีก็ได้ เหตุการณ์แบบนี้มันก็สามารถเกิดขึ้นได้กับคู่สามี-ภรรยา ซึ่งมันก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจ อย่างเวลาที่อยู่ด้วยกันก็มัวแต่ทะเลาะกันอยู่ได้ และในที่สุดมันก็ไม่ได้มีอะไรเลย และมันก็น่าเสียดายเวลาที่มีมาทั้งหมด บางทีอยู่ด้วยกันมานานก็มาทะเลาะกัน ทำไมไม่เอาเวลาตรงนั้นมาทำให้มีความสุข เข้าใจกัน จะดีกว่า ซึ่งมันก็สะท้อนมุมมองของสามี-ภรรยา อย่างตอนนี้หมิวก็มีครอบครัวแล้วก็พอจะมีประสบการณ์ส่วนนี้อยู่ มันก็เป็นกระจกที่สะท้อนให้เห็นอะไรหลายๆ อย่างสำหรับครอบครัวดี คือถ้ามีปัญหากันอยู่ลองมาดูหนังเรื่องนี้ก็อาจจะได้แง่คิดอะไรดีๆ ขึ้นบางทีการที่คน2 คนมาอยู่ด้วยกัน มันก็ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง เรื่องบางเรื่องมันไม่ต้องเก็บมาคิดมาก ปล่อยไปบ้างก็ได้ มันก็จะเป็นการใช้ชีวิตที่สนุกกว่า”
พรวุฒิ สารสิน ผู้รับบทวิทย์ หนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการร้านอาหาร ในต่างแดน
พรวุฒิ สารสิน หรือ คุณใหญ่ ที่บุคคลในแวดวงสังคม รู้จักกันดีในฐานะรองประธาน กรรมการ ไทยน้ำทิพย์ จำกัด เกิด เมื่อ วันที่ 23 เมษายน 2502 จบการศึกษาระดับ ปริญญาตรีที่ BOSTON UNIVERSITY ปี 2525 ระดับปริญญาโท ที่ PEPPERDINE UNIVERSITY ปี 2528 เขาก้าวเข้ามาหาประสบการณ์ในวงการบันเทิงในฐานะนักแสดงผลงานภาพยนตร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกและน่าจะเป็นเรื่องเดียวในชีวิตของเขา
พรวุฒิ สารสิน เปิดใจถึงการก้าวเข้ามาหาประสบการณ์ ในวงการบันเทิงว่า “จนถึงวันนี้ก็ยังแปลกใจตัวเองอยู่ว่า ก้าวเข้ามาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างไร มานั่งคิดดูแล้ว เป็นช่วงที่มีเวลาว่างพอดีและคิวการถ่ายทำก็ไม่ได้มากวนกับการทำงานของผม อีกส่วนหนึ่งคือ ผมเองก็ติดตามงานของคุณเป็นเอกมานาน ทั้งงานโฆษณา และงานภาพยนตร์ของเขา รู้สึกชอบงานของเขา งานของคุณเป็นเอกน่าสนใจ เขามีมุมมองที่แปลก พอเขาส่งบทมาให้อ่าน อ่านบทแล้ว ก็ชอบ เพราะบทแปลกดี ก่อนจะตัดสินใจรับแสดง ก็ยอมรับว่าคิดนานมากก่อนตัดสินใจ ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำก็มีการซ้อม มีการเวิร์ค ช็อปกันก่อน ส่วนตัวแล้วผมไม่ได้มีพื้นฐานการแสดงมาก่อนเลย ยอมรับครับว่าสนุกมาก ในการเป็นนักแสดง แต่บางครั้งก็รู้สึกเกรงใจทีมงานที่เรามาทำให้เขาเสียเวลา ”
เขากล่าวต่อมาถึงการร่วมงานกับหมิว ลลิตาว่า “กับการร่วมงานกับคุณหมิว ก็ดีครับ คุณหมิวน่ารักมาก ช่วยในเรื่องของการแสดงให้ผมได้เยอะมากแล้วก็เทค บ่อยมาก โดยเฉพาะการใช้คำพูดต่างๆให้ได้อย่างที่ผู้กำกับต้องการ ใหม่ๆนี่ กว่าจะผ่านแต่ละซีนได้ ก็ถ่ายกันเป็นสิบเทคขึ้น ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากการเข้ามาแสดงหนังเรื่องนี้ เพียงแต่ ทำให้ดีที่สุด และก็ทำตามที่ผู้กำกับเขาต้องการเท่านั้น”
อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ผู้รับบท นัท บาร์เทนเดอร์หนุ่ม
อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ชื่อเล่น อนันดา เป็นลูกครึ่งออสเตรเลีย-ลาว เกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค 1981 เริ่มเข้าสู่วงการนักแสดงครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี ในภาพยนตร์เรื่อง อันดากับฟ้าใส ซึ่งสร้างชื่อให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ ด้วยการร่วมงานกับนักแสดงชั้นนำของเมืองไทยอย่าง พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง และ สินจัย เปล่งพานิช ผลงานภาพยนตร์ เรื่องต่อมาคือ คนสั่งผี ตามมาด้วย ภาพยนตร์เรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทำรายได้สูงมากเป็นประวัติการณ์ นอกจากการแสดงภาพยนตร์แล้ว เขายังฝากผลงานในละคร โทรทัศน์ อีกหลายเรื่อง อาทิ ทะเลฤาอิ่ม ในฝัน มหัศจรรย์แห่งรัก และคนเริงเมือง เขาก็ยังมีอีกหนึ่งอาชีพที่เขาสามารถทำได้ดีมากก็คือ การเป็นนายแบบ กระทั่งทุกวันนี้เขาได้ลองงานใหม่ที่เขารู้สึกสนุกกับการงานแบบนี้ คือการแสดงมิวสิควีดีโอให้กับนักร้อง ที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น มิวสิควีดีโอเพลง อยู่อย่างเหงาๆ กว่าจะบอกรัก ของบอยพีชเมกเกอร์ และเพลงรักแท้แค่ครั้งเดียว ของอินคา
อนันดา เคยร่วมงาน กับเป็นเอก มาแล้ว จากหนังสั้น เรื่อง Twelve Twenty . ภาพยนตร์ที่ ทางเทศกาลหนังสั้น จอนจู อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล ของประเทศเกาหลี ให้ทุนในการถ่ายทำ
ในเรื่องพลอยอนันดา รับบทนัท บาร์เทนเดอร์หนุ่ม ที่มีบทพูดเพียงประโยคเดียวในเรื่องคือ “ เด็กมันติดยา ครับพี่”
“ ที่รับงานเรื่องนี้ ก็มาจากที่ชอบบท ของเรื่องนี้ ตรงที่บางทีเหมือนจะไม่มีอะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่มันไปได้ไกลมาก และทำให้เกิดเรื่องราวถึงไหนไม่รู้ เสน่ห์ พลอยเป็นภาพยนตร์รักสไตล์พี่ต้อม องค์ประกอบหลัก เป็นดราม่า หนังรัก หนังลึกลับในบางส่วน และก็เป็นหนัง อีโรติก หน่อยๆ”
“การทำงานกับพี่ต้อม ดีมากครับพี่ต้อมใจเย็นมากตอนถ่ายทำ เค้าจะไม่ทำให้เรารู้สึกต้องรีบทำ แม้ว่า เวลาจะเป็นปัจจัยหลักตอนทำหนัง ก็ตาม ”
“กับการรับบท ที่หลายคนมองว่า ทำไมผมกล้าเล่น คือผมไม่ได้ห่วงภาพพจน์อะไรอยู่แล้ว เราไม่ได้ซีเรียสตรงนั้น เพราะเราไม่ได้สร้างภาพมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว และไม่ได้ส่งผลอะไรมากมายต่ออิมเมจของเรา งานที่เรารับไม่ได้ส่งผลให้คนเข้าหาเรายากขึ้นมันไม่ใช่ หลักๆรับเพราะว่าบทมันดี หมายหถึงบททั้งเรื่อง ทั้งเรื่องพูดอยู่ประโยคเดียว “เด็กมันติดยาครับพี่”
การแสดงในเรื่องนี้ตอนแรกคิดว่าง่าย ไปๆมาๆ ยาก มันสื่อสารยากกว่าคนธรรมดาที่สื่อสารด้วยการพูด มันแปลก มันก็ไม่เชิงว่ายาก เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ บทของผม สื่อสารด้วยร่างกาย ความรู้สึก คงต้องรอดู ไม่รู้ว่าคนดูคิดยังไงกับเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นยังไง แต่ผมว่ารวมๆ มันส่งผลต่อกันมาก ผมชอบไอเดีย ของพี่ต้อม คือมันไม่เยอะ สิ่งที่พวกคุณต้องทำมันไม่เยอะมาก ทุกอย่างมันเป็นอารมณ์เงียบๆ แต่อิมแพคที่มีต่อคนมีมาก ”
“กับฉากอีโรติกในเรื่องตอนถ่ายยอมรับว่า เบื่อกันมาก…ถ่ายไปสักพัก คนเรามันจะทำรัก จะมีอะไรให้ทำมากกว่านี้ ในห้องนั้นมีแต่คน ครีเอทีฟ ตากล้อง ช่างไฟ เต็มไปหมด ไม่มีใครสามารถเมคเลิฟได้ 12 ชั่วโมงหรอกครับ มันทั้งทรมาน และอึดอัด แต่มันก็ท้าทายมาก ”
“กับการ์ตูน เคยร่วมงานกันมาแล้ว ในเรื่อง ปืนใหญ่ โจรสลัด เรื่องนั้นเขา รับบทเป็นแม่ ในบทตอนที่ผมเป็นเด็ก แต่เรื่องนี้รับบทเป็น คู่รักกัน การ์ตูน (พรทิพย์ ปาปะนัย ) เขาโอ เค มาก ผมว่าพี่ต้อมเขาเลือกคนเก่ง เขารู้ว่าใครมีอะไรที่แตกต่าง การ์ตูน เขาไม่เหมือนคนอื่น เป็นธรรมชาติมาก ”
พรทิพย์ ปาปะนัย ผู้รับบท ตุ้ม แม่บ้าน ประจำโรงแรม
พรทิพย์ หรือ การ์ตูนน้อยคมเข้มกับรูปร่างสูงยาวเข่าดีผู้มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จังหวัดกระบี่อายุ 25 ปีอยู่ในวงการบันเทิงมา5ปีผ่าน ประสบการณ์
เดินแบบถ่ายแบบมามากมายก่อนจะได้มาร่วมงานภาพยนตร์ของพี่ต้อม เป็นเอก เรื่องมนต์รักทรานซิสเตอร์ ผลงานแรกๆ คือ งานโฆษณา
เบียร์ไฮเนเก้น แต่ที่ทำให้เป็นที่รู้จัก เป็นภาพยนตร์เรื่องมนต์รักทรานซิสเตอร์ ตามมาด้วยผลงานเรื่อง แม่นาคพระโขนง เรื่องปืนใหญ่
โจรสลัด เรื่องล่าสุด พลอย ในบทของ ตุ้ม
“การ์ตูนเคยร่วมงานกับพี่ต้อมมาแล้วในเรื่อง มนต์รักทรานซิสเตอร์ และพอติดต่อมาให้เล่นพลอย พี่เขาถามมาก่อนว่า การ์ตูนสนใจไหม แต่ว่ามีฉากหวือหวานะ ตอนนั้นก็ไม่คิดอะไรตอบตกลงเลย เพราะคิดว่ายังไงหนังพี่ต้อมก็คงไม่เป็นไรเพราะยังไงมันก็ต้องมาในสไตล์พี่ต้อม คือ ดูไม่น่าเกลียดอะไร แต่ก็มีถามเหมือนกันว่ามันจะแค่ไหน คือทางทีมงานเขาก็บอกว่ามีการถอดส่วนบนนะ และก็เล่าเรื่องย่อให้ฟัง แรกๆก็อึ้งไปเลย จะไหวไหมเนี่ย ก็นั่งชั่งใจคิดอยู่นานเหมือนกัน ปรึกษาคุณแม่ด้วยว่าจะเอาไงดี เล่นดีไหม? คุณแม่ก็ถามว่าเราเต็มใจเล่นไหม กล้ารึเปล่า และเราไว้ใจเขาแค่ไหน ถ้าอยากจะเล่น ก็ลองเพราะถ้าเป็นหนังของพี่ต้อมเขาก็คงจะไม่ทำให้เราออกมาดูแย่หรือน่าเกลียดอะไร คือความรู้สึกไว้ใจพี่ต้อมมันมีอยู่แล้วนะ แต่ความรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ มันก็มีอยู่นะ เพราะบทมันก็ค่อนข้างจะเสี่ยงในหลายๆด้านเหมือนกัน ถึงเราจะไม่ใช่ดาราดังอะไร แต่เราก็มีสังคมอยู่บ้างเหมือนกัน แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าหนังพี่ต้อมนะ ภาพที่ออกมาคงไม่ได้ออกมาแย่ๆ จนดูน่าเกลียด ก็ตอบตกลง ”
ทักษกร ประดับพงษา รับบทเป็นหมู ในภาพยนตร์เรื่องพลอย
หนุ่มใหญ่คนนี้ เกิด เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2513 จบการศึกษาจาก คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ เริ่มชีวิตการทำงาน เกี่ยวกับวิทยุที่บริษัท มีเดียพลัส จากนั้นจึง พลิกตัวเองไปเป็น สจ๊วตของบริษัท การบินไทย อยู่นานเกือบ 10ปี ปัจจุบันเขามีตำแหน่งเป็น เอ็กเซ็กคคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ ของบริษัทโฆษณา Triton ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์ เรื่องแรกในชีวิตของเขา
“ชื่อของผู้กำกับ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้ามาเป็นนักแสดงในเรื่องนี้ ประกอบกับบทก็ท้ายทายความสามารถเราด้วย ผมรับบทเป็นหมู ในบทจะเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่มีอยู่ในโลกนี้ ก็ไม่ใช่คนดี แต่ก็ไม่ใช่คนเลว เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะโอกาสมันพาไป หมูไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำเลว ก็แค่ชวนแดงไปกินข้าวในใจคิดว่ามาก็ดี ถ้าไม่มาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอมาแล้วมันก็เหมือนกับว่ามีโอกาส ประกอบกับตัวแดงเองก็มีปัญหาอยู่ ทุกอย่างมันก็พาไปสู่ในทางเลวร้าย มันคือนิสัย หรือ สันดานดิบของผู้ชาย แต่ละคนจะแสดงออกมาหรือไม่นั้น มันมีเรื่องของการควบคุมอารมณ์ การระงับใจ การมีคุณธรรม จิตสามัญสำนึกถึงผิด ชอบ ชั่ว ดี ผมว่าคนประเภทนี้มันมีจริงในสังคมเราอยู่แล้ว พี่ต้อมบอกว่าบทนี้เป็นผู้ชายธรรมดาๆ ไม่ต้องแสดงออกให้เห็นว่าเป็นผู้ร้าย หรือ ตั้งใจที่จะร้าย หรือ ดูเป็นคนที่วางแผนเพื่อจะทำเรื่องร้ายๆ อะไร”
“ผมมองว่า หนังเรื่องนี้กำลังจะบอกว่า ถ้าคนเราเมื่ออยู่ด้วยกัน และขาดการพูดคุยกัน การสื่อสารกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากเรื่องเล็กๆ มันสามารถที่จะเกิดเป็นเรื่องใหญ่ได้ ชีวิตคู่ที่อยู่ด้วยกันมันสำคัญเรื่องการพูดคุย คือเคลียร์ความรู้สึกกัน อย่างในเรื่องพลอย จริงๆ มันไม่มีอะไรเลย แต่ไม่ได้คุยกันให้เข้าใจจากเรื่องเล็กๆ มันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ มันเป็นเรื่องที่นำเสนอถึงความคิดภายในของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นวิทย์ หรือ แดง เองที่จริงแล้วมันไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเลย แต่พวกเขาคิดกันไปต่างๆ นาๆ เองและก็จินตนาการกันไป คือถ้าทั้ง 2 คนหันหน้าคุยกันดีๆ คุยกันด้วยความรู้สึกที่เปิด แบบมีสติ เรื่องราวต่างๆ มันก็จะไม่เกิดขึ้น..”
อภิญญา สกุลเจริญสุข ผู้ที่เกิดมาเพื่อรับบท พลอย
สาวน้อยที่เข้ามา ปลดล็อกชีวิตคู่ ของ วิทย์ และแดง
สาวน้อยตากลม หน้าใส ผมฟู ที่ไม่เหมือนใคร สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข เกิด วันที่ 27 พฤษภาคม 2533 ปัจจุบัน ศึกษาอยู่ ที่ โรงเรียนนานาชาติ Inter Kids เกรด 10
เริ่มเข้าวงการปี 2548 จากผลงานโฆษณา ผ่านโมเดลลิ่งที่จัดหางาน ด้วยวัย 16 ปี กับความสดใสน่ารัก จึงถูกชักชวนให้มาคัดเลือกกับบทบาท พลอย ตัวเอกในภาพยนตร์ เรื่องล่าสุดของพี่ต้อม เป็นเอก ในที่สุดเธอก็คว้าบทนี้ไปครอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นงานแสดงเรื่องแรกในชีวิตของเธอ
สาวน้อยมหัศจรรย์ ที่ผู้กำกับสุดเซอร์ออกปากว่า เธอมหัศจรรย์ กว่าเด็กธรรมดา กับฝีมือการแสดงที่ต้องยอมรับว่ามีความอดทนและสมาธิสูง
สายป่าน กับบทที่ได้รับ “พลอย เป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มีจริต ห้าวๆ ง่ายๆ ไม่เรื่องมาก พลอยไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ อยู่กับยายมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะพ่อแม่เลิกกัน แม่ไปมีครอบครัวใหม่อยู่ต่างประเทศ ในเรื่องพลอยจะเป็นเหมือนสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นกับชีวิตคู่ของ วิทย์และแดง โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว”
“การเตรียมตัวสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ อย่างแรกเลยเรื่องทรงผม ต้องดัดผม หัวฟู ออกมาดูแปลกตาดี รู้สึกหน้าตัวเองเปลี่ยนไป ต่อมาก็ มีการเวิร์คช็อป ร่วมกับพี่ๆนักแสดง ซ้อมบท และก็ทำตัวเองให้ดูโต คือ อายุ 19 ที่จริง ป่านอายุ 16 ” “สำหรับป่าน ไม่รู้สึกว่าฉากไหนยาก อย่างที่บอกว่าพลอยเป็นตัวที่มีคาแรกเตอร์ค่อนข้างตรงกับตัวเองเลย แรกๆก็จะคุยกับพี่ต้อม พี่เขาก็จะบอกว่าอยากให้เราทำแบบไหน พี่ต้อมมักจะบอกว่าไม่ต้องรีบ บางช่วงป่านอาจจะพูดเร็วเพราะความเคยชิน คือเราทำได้อย่างที่พี่ต้อมต้องการมันก็แค่นั้น”
ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
แนท-นันทรัตน์ 081-8246242,
เอ๋-สุดารัตน์ 081-5949888,
มนท์-มณฑารพ 089-4143225,
อีฟ-ศรินธร 089-799-5222
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net