ธนาคารทหารไทยแจ้งผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2550

พฤหัส ๑๙ กรกฎาคม ๒๐๐๗ ๑๘:๐๙
กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--ธนาคารทหารไทย
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2550 (ก่อนการตรวจสอบ) โดยธนาคารมีรายได้รวม 22,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.50% เมื่อเทียบกับ 19,660 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2549
รายได้หลักของธนาคารเพิ่มขึ้น โดยรายได้จากดอกเบี้ยรับสุทธิและเงินปันผล เท่ากับ 8,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7,820 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 51.70% เป็น 4,200 ล้านบาทในงวดนี้ เมื่อเทียบกับ 2,700 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเป็นผลเนื่องมาจาก การจำหน่ายหุ้นกู้ที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากธุรกิจเพื่อรายย่อยและรายได้จากการปริวรรตเงินตรา โดยอัตราส่วนระหว่างรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและรายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเป็น 18.50% เมื่อเทียบกับ 14% ในงวดเดียวกันของปี 2549
อัตราดอกเบี้ยรับสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้นจาก 2.12% ในไตรมาสแรกของปี 2550 เป็น 2.33% ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เนื่องจากธนาคารได้ดำเนินการตามกลยุทธ์ในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยรับสุทธิด้วยการลดการให้เงินกู้ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ และลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยด้วยการลดเงินฝากประจำที่มีต้นทุนดอกเบี้ยสูง รวมทั้งเร่งเพิ่มเงินฝากออมทรัพย์ที่มีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำกว่า
ธนาคารมีความก้าวหน้าในการจำหน่ายทรัพย์ NPA ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา โดยสามารถจำหน่ายทรัพย์ได้รวม 4,600 ล้านบาท ทำให้ ณ วันสิ้นงวดครึ่งปี 2550 ธนาคารมี NPA ลดลงเหลือ 26,330 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 29,810 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2549
ณ สิ้นงวดครึ่งปีแรก 2550 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ 66,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,660 ล้านบาท จากปลายปี 2549 เนื่องจากธนาคารหลังจากได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารได้จัดชั้นสินเชื่อจำนวน 11,000 ล้านบาทไปเป็นสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) ซึ่งสินเชื่อบางส่วนยังมีการชำระดอกเบี้ยให้ธนาคารตามปกติ การจัดชั้นสินเชื่อดังกล่าวเป็นผลจากการทบทวนมาตรฐานการจัดชั้นสินเชื่อภายในที่เข้มงวดขึ้นอย่างต่อเนื่องของธนาคาร และการเพิ่มขึ้นของ NPLs จากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่อำนวย ในขณะเดียวกันธนาคารก็มีความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างหนี้และขายสินเชื่อด้อยคุณภาพ จำนวนกว่า 6,300 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรก ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้ ธนาคารจึงตั้งสำรองจำนวน 8,200 ล้านบาท ทำให้แม้ว่าธนาคารจะมีผลกำไรที่ดีจากการดำเนินงาน แต่ก็ต้องรายงานผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 5,910 ล้านบาท ในงวดครึ่งปีแรก 2550 อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่สูงกว่า 10%
ความเปลี่ยนแปลงในด้านกฏเกณฑ์ต่างๆ เช่น เกณฑ์การตั้งสำรองของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อรองรับการปฏิบัติตาม IAS 39 และผลประกอบการขาดทุนของธนาคาร ธนาคารจึงพิจารณาทบทวนมูลค่ายุติธรรมของค่าความนิยม (Goodwill) ซึ่งเกิดจากการรวมกิจการกับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ ในปี 2547 (มูลค่า ณ เดือนมิถุนายน 2550 เท่ากับ 12,237 ล้านบาท) ซึ่งธนาคารได้ทยอยตัดจำหน่ายภายใน 20 ปีนับจากการควบรวม ธนาคารได้จัดจ้างที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเป็นผู้ประเมินมูลค่ายุติธรรมของค่าความนิยม และหากพบการด้อยค่าของค่าความนิยม ธนาคารจะแสดงผลขาดทุนจากการด้อยค่าในงบตรวจสอบสำหรับงวดบัญชีสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2550 นี้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากงบการเงินก่อนการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามผลขาดทุนจากการด้อยค่าจะไม่กระทบกระแสเงินสดของธนาคาร และระดับความเพียงพอของเงินกองทุนของธนาคารแต่อย่างใด
ณ วันสิ้นงวด 30 มิถุนายน 2550 ธนาคารมีสินทรัพย์สุทธิ 658,580 ล้านบาท มีเงินให้สินเชื่อ505,170 ล้านบาท สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวม 66,436 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 61,771 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2549
นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมกรรมการ ธนาคารทหารไทย กล่าวถึงผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2550 ว่า “แม้ว่าธนาคารจะมีการตั้งสำรองสูงในงวดนี้ ธนาคารก็ยังคงมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ผลการดำเนินงานในงวดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่เราต้องเผชิญในการปรับปรุงคุณภาพสินเชื่อของธนาคาร ในขณะเดียวกันธนาคารก็ก้าวหน้าในการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่จะลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยโดยปรับโครงสร้างเงินฝาก และเพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารสามารถหาเงินฝากทั้งเงินฝากประจำและออมทรัพย์ที่มีต้นทุนต่ำเข้ามาได้มากตั้งแต่ปลายปี 2549 เพื่อทดแทนเงินฝากประจำที่มีต้นทุนดอกเบี้ยสูง ธนาคารได้สามารถปรับสัดส่วนเงินฝากประเภทออมทรัพย์ขึ้นจาก 25.8% ณ สิ้นปี 2549 เป็น 38.2% ณ สิ้นไตรมาส 2 ในขณะเดียวกันธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยรับสุทธิเพิ่มจาก 1.99% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2549 เป็น 2.33% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของธนาคารที่จะปรับสัดส่วนสินเชื่อและผลตอบแทน ทั้งนี้ธนาคารเชื่อมั่นว่า ธนาคารได้ดำเนินงานตามแผนการที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสมเพื่อการสร้างความเติบโตของรายได้หลักและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร และในขณะเดียวกัน เราก็ยังคงมุ่งมั่นในการเสริมสร้างระดับความเพียงพอของเงินกองทุนให้แข็งแกร่งขึ้นและคาดว่าจะเกิดผลสำเร็จในเร็วๆ นี้”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
โทร. 02 242 3255/ 02 2423260 / 085 813 3020

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก