เฮย์กรุ๊ปเผย อำนาจซื้อของผู้บริหารไทยติด 1 ใน 10 ของโลก

อังคาร ๑๗ กรกฎาคม ๒๐๐๗ ๑๐:๒๔
กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--ScottAsia Communications
ผลสำรวจระดับเงินเดือนของผู้บริหารระดับสูงจาก 47 ประเทศทั่วโลกไทยติดหนึ่งในสิบรั้งอันดับ 8 ผลสำรวจรวบรวมจากตัวเลขมูลค่าอำนาจซื้อของผู้บริหารทั่วโลก และพิจารณาจากค่าครองชีพและอัตราการเสียภาษี
เฮย์ กรุ๊ป เผยผลสำรวจพร้อมกันทั่วโลกในวันนี้ว่า ผู้บริหารระดับสูงของไทยมีรายได้ส่วนบุคคลหลังหักภาษีแล้ว (Disposable Income) มากกว่าประเทศอื่นๆ แต่น้อยกว่า ซาอุดิอาระเบีย (อันดับที่ 1) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฮ่องกง รัสเซีย ตุรกี เม็กซิโก และยูเครน ตามลำดับ โดยสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 9 รองจากไทย
จากผลสำรวจของเฮย์ กรุ๊ป เผยให้เห็นความจริงที่น่าสนใจว่า ประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตจะมีการจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้บริหารในอัตราที่สูง แต่ในขณะเดียวกัน ประเทศที่เศรษฐกิจมั่นคงแล้ว อาทิ ฟินแลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ สหราชอาณาจักร และแคนาดา อัตราการจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้บริหารกลับอยู่ในอันดับที่ 40 ขึ้นไปทั้งสิ้น ส่วนผู้บริหารระดับสูงในสหรัฐอเมริกา (อันดับที่ 24) ออสเตรเลีย (อันดับที่ 26) และญี่ปุ่น (อันดับที่ 27) จัดว่ามีรายได้ส่วนบุคคลในอันดับกลางๆ
ผลสำรวจนี้รวบรวมข้อมูลที่สอดคล้องกันทั่วโลกจากระบบ PayNet ของเฮย์กรุ๊ป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอำนาจซื้อ (Purchasing Power) ที่แท้จริงในการใช้จ่ายของพนักงานระดับผู้บริหาร โดยที่ระบบ PayNet ช่วยให้สามารถทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบค่าตอบแทนและผลประโยชน์ของผู้บริหารกว่า 47 ประเทศทั่วโลกที่เฮย์ กรุ๊ปดำเนินการอยู่ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
เฮย์ กรุ๊ปให้ความเห็นว่า การที่รายได้ของผู้บริหารระดับสูงของไทยสูงติดอันดับที่ 8 นั้นสอดคล้องกับฐานะของประเทศไทยที่เป็นตลาดเกิดใหม่และมีอัตราการเติบโตสูง “การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดเกิดใหม่ เช่นประเทศไทย ทำให้เกิดความต้องการตัวผู้บริหารระดับสูงที่มีความสามารถอย่างไม่เคยมีมาก่อน” นายอโณทัย อดุลพันธ์ ผู้จัดการทั่วไปของเฮย์ กรุ๊ป ประเทศไทยกล่าว “ด้วยความที่ไทยยังขาดแคลนผู้บริหารที่มีความสามารถ ประกอบกับมีการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษและสวัสดิการในรูปแบบต่างๆ ให้กับพนักงานระดับผู้บริหารในประเทศไทย ทำให้ดัชนีค่าตอบแทนสำหรับผู้บริหารไทยอยู่ในระดับสูง”
อย่างไรก็ตาม นายอโณทัย ให้ข้อสังเกตว่า ผู้บริหารไทยยังไม่ควรดีใจจนเกินไป “เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบยุโรปตอนเหนือ ผู้บริหารไทยยังต้องใช้จ่ายเงินรายได้ส่วนบุคคลในสัดส่วนที่มากกว่าไปกับการดูแลรักษาสุขภาพ การเตรียมการเพื่อการเกษียณอายุ และการศึกษาของบุตร ซึ่งรัฐบาลของประเทศในยุโรปจะมีเงินสวัสดิการช่วยเหลือในค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากกว่าที่ประเทศไทย
สำหรับในภูมิภาคเอเชีย มีเพียงฮ่องกงเท่านั้นที่รายได้ส่วนบุคคลของผู้บริหารสูงกว่าประเทศไทย โดยฮ่องกงอยู่ในลำดับที่สามโดยมีอำนาจซื้อของผู้บริหารอยู่ที่ 203,947 ดอลลาร์สหรัฐ เปรียบเทียบกับประเทศไทยที่ 147,547 ดอลลาร์สหรัฐ
ผลสำรวจของเฮย์ กรุ๊ป แสดงให้เห็นว่า โดยปกติอัตราเงินเดือนสำหรับพนักงานระดับผู้บริหารของฮ่องกงนั้นจะสูงอยู่แล้ว ซึ่งบางครั้งอาจจะสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย อาทิ สิงคโปร์ ด้วย นอกจากนี้ อัตราการเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคลของฮ่องกงนั้นอยู่ในอัตราที่ต่ำจึงทำให้มีอำนาจซื้อสูงขึ้น
นายเหิน หยิน โกห์ ผู้จัดการฝ่าย Reward Information Services ของเฮย์ กรุ๊ปในเซี่ยงไฮ้ ได้ให้ความคิดเห็นว่า การพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของจีนทำให้ผู้บริหารของจีนมีรายได้ส่วนบุคคลหลังหักภาษีแล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 126,281 ดอลลาร์สหรัฐ จัดอยู่ในอันดับที่ 14
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอินเดียจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง แต่บรรดาผู้จัดการในอินเดียกลับมีอำนาจซื้อเพียง 92,750 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ทำให้อินเดียตกไปอยู่อันดับที่ 36 ในการสำรวจในครั้งนี้
“ประเทศอินเดียโชคดีตรงที่มีคนมีการศึกษาอยู่เยอะ และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ทำให้บริษัทข้ามชาติในอินเดียมีตัวเลือกในการว่าจ้างพนักงานที่มีความสามารถอยู่เยอะ” นายเหินกล่าว “อย่างไรก็ตาม เงินเดือนที่จ่ายให้กับพนักงานระดับผู้บริหารในอินเดียมีตัวเลขเพิ่มขึ้น 15-20% และอินเดียคงจะไม่รั้งอันดับท้ายๆ เช่นนี้อยู่นานนัก”
ฐานข้อมูลใน PayNet ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิธีการของเฮย์กรุ๊ปที่สอดคล้องตรงกันทั่วโลกในการวัดความสำคัญของงานและการประเมินค่าตอบแทนและผลประโยชน์ ข้อมูลจากระบบ PayNet ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถหาวิธีการที่จะดึงดูดตัวและใจของผู้บริหารระดับสูงให้ทำงานกับองค์กรของตนต่อไป นายอโณทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “วัตถุประสงค์ของเฮย์กรุ๊ป คือ เราหวังที่จะช่วยให้ผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทข้ามชาติ (MNCs) ซึ่งรวมถึง บริษัทของคนไทยที่กำลังขยายธุรกิจไปในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว สามารถทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบการจ่ายค่าตอบแทนขององค์กรตนในประเทศต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ”
เกี่ยวกับเฮย์ กรุ๊ป
บริษัท เฮย์ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกที่ทำงานร่วมกับผู้นำองค์กรในการผลักดันกลยุทธ์มาสู่การปฏิบัติ เราพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจูงใจพวกเขาเหล่านั้นให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ ด้วยสาขา 88 สาขาใน 47 ประเทศ เราทำงานร่วมกับลูกค้ากว่า 7,000 คนทั่วโลก ลูกค้าของเราประกอบด้วยองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนในหลากหลายอุตสาหกรรม และแน่นอนว่ามีความท้าทายทางธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป เรามุ่งเน้นการสร้างความเปลี่ยนแปลงและผลักดันให้องค์กรเหล่านั้นตระหนักถึงศักยภาพที่มีอยู่ของตนเอง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทเฮย์ กรุ๊ป โปรดเยี่ยมชมเว็ปไซต์ของเราที่ www.haygroup.com
วิธีการที่ใช้ในการสำรวจ / เกี่ยวกับ Hay Group PayNet
รายงาน World Pay Report ของเฮย์ กรุ๊ปซึ่งถูกรวบรวมและวิเคราะห์โดยใช้ระบบ PayNet ของเฮย์กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลที่มีเนื้อหาครอบคลุมมากที่สุดในด้านการกำหนดค่าตอบแทนและผลประโยชน์ของพนักงาน ในรายงานนี้จะเป็นการเปรียบเทียบรายละเอียดการจ่ายเงินเดือน โบนัส ภาษี และอัตราค่าครองชีพของพนักงานในทุกระดับ ตั้งแต่แรงงานที่ไม่ต้องอาศัยทักษะไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง และเปิดเผยข้อมูลรายได้ส่วนบุคคลหลังหักภาษี (Disposable Income) ของผู้จัดการแผนกของบริษัทต่างๆ จาก 47 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และออสเตรเลีย สำหรับค่าครองชีพจะคำนวณจากรูปแบบการใช้จ่าย “โดยเฉลี่ย” ภายในแต่ละประเทศ
ดูข้อมูลเกี่ยวกับระบบ PayNet เพิ่มเติมได้ที่ www.haypaynet.com
ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ:
ณัฐมณฑ์ ณัฐณพงศ์ / ScottAsia Communications
โทร: + 66 2644 7453, 089 668 1711
[email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO