ดร. ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เติมเต็มครูพละทั่วประเทศ

อังคาร ๑๓ พฤศจิกายน ๒๐๐๗ ๑๗:๕๐
กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--กก.
ดร. ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ป.กก.) รุดหารือกับเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เพื่อเร่งเติมเต็มครูพลศึกษาที่ขาดแคลนกว่า 9,000 โรงเรียน และผลักดันผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันพลศึกษาเป็นครูพละ โดยมี คุณหญิง กษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้บริหารจากสถาบันพลศึกษา(สพล.)สำนักงานพัฒนาการกีฬา(สพก.) เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 2 สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2550
ดร.ศศิธาราฯ เปิดเผยว่า การหารือกับคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ครั้งนี้ เกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือด้านการพลศึกษา กีฬา และนันทนาการ ระหว่างทั้ง 2 หน่วยงาน ในประเด็นสำคัญ 4 ประเด็น คือ 1) การอบรมครูสอนพลศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดกลาง จำนวน 9,000 โรงเรียน 2)การรับผู้จบการศึกษาจากสถาบันพลศึกษาเข้าสอนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. 3)การอบรมผู้ตัดสินและผู้ฝึกสอนกีฬา(โค้ช)ในโรงเรียนสังกัด สพฐ. และ 4)การพิจารณาโรงเรียนที่มีผลงานดีเด่นด้านการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และนันทนาการ เพื่อให้ได้รับรางวัลเป็นพิเศษ เช่น โรงเรียนรางวัลพระราชทานด้านการออกกำลังกายและกีฬา เป็นต้น
ในการร่วมมือดังกล่าว ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(ป.กก.) เชื่อมั่นว่าสถาบันการพลศึกษา และโรงเรียนกีฬาทั่วประเทศ ซึ่งได้ผลิตและพัฒนาบุคลากรทางพลศึกษา การกีฬา วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ และนันทนาการโดยตรง จะสามารถให้การสนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการ ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เกี่ยวกับการขาดแคลน ครูพลศึกษาได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าสถาบันพลศึกษา ในสังกัดกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นมืออาชีพและสะสมความเชี่ยวชาญด้านการสร้างครูพลศึกษามาโดยเฉพาะ
สำหรับในระยะยาว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะร่วมมือกับ สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ฟื้นฟูการเรียนการสอนพลศึกษาอย่างจริงจังที่ไม่ใช่จะสอนเฉพาะแต่ในสถาบันการพลศึกษาและโรงเรียนกีฬาเท่านั้น หากยังต้องมองไปสู่เด็กและเยาวชนที่อยู่ในสถาบันการศึกษา ในสังกัดอื่นๆ ด้วย โดยยึดหลักว่าการศึกษาของชาติ จะต้องมีทั้งพุทธิศึกษา จริยศึกษา และพลศึกษา และยังจะต้องพิจารณากำหนดเกณฑ์การมีครูพละศึกษา 1 คน ต่อนักเรียนกี่คน โรงเรียนขนาดใดจะมีครูพละศึกษากี่คน ซึ่งจะต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ประกาศใช้ต่อไป
จากนั้น ทั้ง 2 หน่วยงาน ยังจะร่วมกันส่งเสริมให้มีโรงเรียนดีเด่น ด้านการพลศึกษา หรือออกกำลังกายดีเด่น ได้รับรางวัลระดับชาติ หรือ โรงเรียนรางวัลพระราชทานว่า เพื่อกระตุ้นและปลูกฝังให้เด็กนักเรียนรักการกีฬาและออกกำลังกายอย่างจริงจัง ทั้งต้องการกระตุ้นให้โรงเรียนสร้างบรรยากาศให้เด็ก เยาวชนเห็นชั่วโมงพลศึกษาเป็นชั่วโมงที่แสนสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ และจะมี การร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย โดยข้อตกลงทั้งหมดจะมีการทำเป็นข้อลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นอกจากนี้ ป.กก. ยังได้กล่าวถึงความร่วมมือกับองค์การปกครอง ส่วนท้องถิ่น เพื่อให้มีการบรรจุ เปิดโอกาสให้ผู้สำเร็จการศึกษาด้านพลศึกษาได้สอนพลศึกษาในการศึกษาของท้องถิ่นอีกด้วย.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ