ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน

ศุกร์ ๒๖ สิงหาคม ๒๐๐๕ ๑๐:๐๓
กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดนครธน (“SCNB”) โดยอันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศระยะยาวเพิ่มเป็น ‘A-’ (A ลบ) จากเดิม ‘BBB+’ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเพิ่มเป็น ‘C’ จาก ‘C/D’ และ อันดับเครดิตสนับสนุนเพิ่มเป็น ‘1’ จาก ‘2’ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ได้คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศระยะสั้นของธนาคารที่ ‘F2’ นอกจากนี้ ฟิทช์ได้ประกาศอันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราในประเทศระยะยาวของธนาคารที่ ‘A-’ (A ลบ) อันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราในประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA+(tha)’และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’ แนวโน้มของอันดับเครดิตทั้งหมดมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตของ SCNB มีพื้นฐานมาจากการที่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดแห่งอังกฤษ (“SC” ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศที่ ‘A+’/‘F1’) ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นซึ่งมีอำนาจในการบริหารธนาคาร การเปลี่ยนแปลงใดๆในสัดส่วนการถือหุ้นของ SC ใน SCNB รวมทั้งข้อผูกพันและการสนับสนุนที่มีต่อ SCNB ย่อมส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ SCNB เนื่องจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ SCNB ในขณะนี้ ถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศ การเปลี่ยนแปลงใดๆของเพดานอันดับเครดิตของประเทศ (ซึ่งอยู่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศของประเทศไทยอยู่ 1 อันดับ) จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ SCNB
SC แห่งอังกฤษ ได้ชี้แจงว่า SCNB จะร่วมเป็นส่วนสำคัญของเครือข่ายของธนาคารในภูมิภาคเอเชียซึ่งประกอบด้วยธนาคารต่างๆซึ่งก่อตั้งและดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลานานทั้งในฮ่องกง, สิงคโปร์, อินเดีย และมาเลเซีย SC มีความตั้งใจที่จะถือหุ้นในเชิงกลยุทธ์ใน SC ในระยะยาว รวมถึงการมีอำนาจควบคุมการบริหารธนาคารในคณะกรรมการและคณะผู้บริหารของ SCNB ธนาคารจะทำการเปลี่ยนชื่อเป็น ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ในเร็วๆนี้ เพื่อให้ธนาคารมีชื่อที่สอดคล้องมากขึ้นกับบริษัทแม่ ในเดือนมีนาคม 2548 SC ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน SCNB เป็น 99.97% (ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวได้ลดลงเล็กน้อยเป็น 99.73% ในปัจจุบัน) SC ยังอยู่ในระหว่างการควบรวมการปฏิบัติงานของสาขากรุงเทพของธนาคารเข้ากับ SCNB ซึ่งคาดว่าการควบรวมดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคม 2548 โดยจะมีสินทรัพย์รวมกันแล้วทั้งสิ้นจำนวน 139 พันล้านบาท ในขณะที่ข้อจำกัดในการถือหุ้นของต่างชาติอาจจะจำกัด SC ในการเพิ่มเงินลงทุนใน SCNB หลังจากปี 2552 แต่ SC ยังคงมีความยืดหยุ่นที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฐานเงินทุนของ SCNB ก่อนปี 2552 ให้อยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการขยายธุรกิจในระยะยาว โดยมุ่งหวังที่จะจำกัดผลกระทบจากการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน SCNB ของ SC ให้น้อยที่สุด เมื่อพิจารณาถึงชื่อเสียงและทรัพยากรของ SC ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง SC ในกรณีที่มีความจำเป็น
ในปี 2547 SCNB รายงานผลกำไรสุทธิที่ 763.8 ล้านบาท หลังจากการตั้งสำรองหนี้สูญจำนวน 1.15 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 720 ล้านบาท ในปีก่อนหน้า ในครึ่งปีแรกของปี 2548 ผลกำไรสุทธิยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 760.3 ล้านบาท จาก 444.6 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกของปี 2547 ผลการดำเนินงานหลักที่ปรับตัวดีขึ้นสะท้อนถึงการเติบโตของการให้สินเชื่อลูกค้ารายย่อยที่แข็งแกร่งขึ้นและรายได้จากค่าธรรมเนียมและการปริวรรตเงินตราต่างประเทศที่สูงขึ้น
สัญญาจัดการเงินให้กู้ยืม (LMA) ระหว่าง SCNB และกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (“FIDF”) ได้สิ้นสุดในเดือนกันยายน 2547 ซึ่งการจัดการสินทรัพย์ภายใต้ LMA ได้สิ้นสุดลงโดยได้คาดการณ์ว่าจะไม่มีผลขาดทุนอันเป็นภาระของธนาคารในอนาคต ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ซึ่งไม่รวมสินเชื่อภายใต้สัญญาจัดการเงินให้กู้ยืมของ SCNB ที่ 1.7 พันล้านบาท (4.2% ของสินเชื่อซึ่งไม่รวมสินเชื่อภายใต้สัญญาจัดการเงินให้กู้ยืม) ในขณะที่ระดับการกันสำรองหนี้สูญอยู่ที่ระดับ 1.2 พันล้านบาท โดยระดับการกันสำรองหนี้สูญดังกล่าวเท่ากับ 70.9% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ซึ่งไม่รวมสินเชื่อภายใต้สัญญาจัดการเงินให้กู้ยืมทั้งหมด ในขณะที่อัตราการเติบโตของสินเชื่อในระดับสูงและการควบรวมกิจการของ SC สาขากรุงเทพ เข้ากับธนาคารอาจส่งผลให้ระดับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ SCNB เพิ่มขึ้นสูงกว่า 5% ในครึ่งปีหลังของปี 2548 ระดับการกันสำรองหนี้สูญของ SCNB ก็คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นไปที่ระดับสูงกว่า 100% เนื่องมาจากระดับการกันสำรองหนี้สูญที่แข็งแกร่งกว่าของ SC สาขากรุงเทพ และหลังจากเงินสำรองหนี้สูญบางส่วนที่ใช้สำรองหนี้สูญภายใต้สัญญาจัดการเงินให้กู้ยืมได้ถูกโอนย้ายไปเป็นเงินสำรองหนี้สูญสำหรับสินเชื่อที่ไม่อยู่ภายใต้สัญญาจัดการเงินให้กู้ยืม
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 เงินกองทุนทั้งหมดของ SCNB อยู่ที่ระดับ 10.8% ของสินทรัพย์เสี่ยง (RWA) โดยเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ 9.8% หลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง SC สาขากรุงเทพ และ SCNB ได้เสร็จสิ้น และหลังจากการอัดฉีดเงินทุนเพิ่มเติมจำนวน 6.1 พันล้านบาท จาก SC อัตราเงินกองทุนขั้นที่ 1 ของ SCNB น่าจะลดลงเล็กน้อยเป็น 9.2% และอัตราเงินกองทุนทั้งหมดลดลงเป็น 9.6% แม้ว่าความสามารถในการทำกำไรที่มีเสถียรภาพน่าจะช่วยให้อัตราเงินกองทุนยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall,ฮ่องกง +852 2263 9963
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ