กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--ตลท.
พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ประทาน “ รางวัล พลตรีสำเริง ไชยยงค์ ประจำปี 2550” ให้แก่พลตรีสำเริง ไชยยงค์ ในฐานะผู้ทำความดีเพื่อสังคมด้านการส่งเสริมกีฬา ซึ่งได้รับคัดเลือกจากสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย เนื่องจากมีผลงานโดดเด่นในวงการกีฬาฟุตบอลของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ ฯ เปิดเผยว่า รางวัล พลตรีสำเริง ไชยยงค์เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ทำความดีด้านส่งเสริมกีฬา นับเป็นรางวัลเชิดชูเกียรติ 1 ใน 6 สาขา ในโครงการเชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคมของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมกำลังใจให้ผู้ทำความดีใน 6 สาขา อันจะเป็นการส่งเสริมให้มีผู้ทำความดีมากขึ้นในสังคมไทย
พลตรีสำเริง ไชยยงค์ นับเป็นปูชนียบุคคลของวงการกีฬาฟุตบอลไทย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น “ปรมาจารย์ฟุตบอลไทย” เนื่องจากเป็นผู้ที่อุทิศเวลา และความมุ่งมั่นในการอบรม และฝึกสอนนักฟุตบอลเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และได้ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาระบบการเล่นที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้ง ได้สนับสนุนให้เยาวชนหลายคนพัฒนาฝีมือจนก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย
นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย” และ “พิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยาม” (พ.ศ.2549 —2550 ) ณ พระตำหนักทับแก้วพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม
พลตรี สำเริง ไชยยงค์ เคยเป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติ ผู้ฝึกสอนเยาวชนทีมชาติเยอรมัน ผู้ฝึกสอนเยาวชนทีมชาติไทย คณะกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอล ฯ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอล โรงเรียนนายร้อยดันทรูน (ออสเตรเลีย) ฯลฯ จนได้รับการ ยกย่องจากวงการพลศึกษาให้เป็นหนึ่งใน "บุคคลพลศึกษาแห่งชาติ" ก็ยังคงถ่ายทอดศาสตร์และศิลป์ของเกมลูกหนังอย่างต่อเนื่อง
โครงการเชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคมของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องผู้ทำความดีเพื่อสังคมใน 6 สาขา ได้แก่ การพัฒนาการศึกษา การพัฒนาสังคมเมือง การพัฒนาสังคมชนบท การส่งเสริมดนตรี การส่งเสริมกีฬา และการพัฒนาห้องสมุด โดยที่ผ่านมามูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มอบรางวัลเชิดชูผู้ทำความดีแล้ว 4 สาขา คือ 1) รางวัลคุณหญิงแม้นมาส ชวลิต มอบให้แก่ศาสตราจารย์ คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต ในฐานะผู้ทำความดีสาขาพัฒนาห้องสมุด 2) รางวัลประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ มอบให้แก่นางอุทิศ พุทธสุด สมใจ ในฐานะผู้ทำความดีสาขาการพัฒนาสังคมเมือง และ 3) รางวัลมีชัย วีระไวทยะ มอบให้แก่กลุ่มเครือข่ายอินแปง ผู้ทำความดีสาขาการพัฒนาสังคมชนบท และ 4) รางวัลศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย มอบให้แก่ นายวิศิษฏ์ วิทยวรการ ผู้ทำความดีสาขาการพัฒนาการศึกษา