คณะผู้บริหารสำนักผังเมืองเผยความคืบหน้า 3 โครงการหลัก ร่วมเฉลิมฉลอง 220 ปีกรุงรัตนโกสินทร์

อังคาร ๐๕ มีนาคม ๒๐๐๒ ๑๑:๓๐
กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.45) เวลา 11.00 น. ที่ศาลาว่าการกทม. นายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง พร้อมด้วย นายชิตชนก เขมาวุฒานนท์ น.ส.เดือนเต็ม อมรพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง ร่วมแถลงข่าว “พบกัน จันทร์ละหน คนกับข่าว” ครั้งที่ 37 เรื่อง กทม.จัดประชุมประชาชนในพื้นที่ 50 เขต เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ผังเมืองรวม , โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูเมืองเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 4 บริเวณ และโครงการสัมมนาทางวิชาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านผังเมือง
สำนักผังเมืองเร่งระดมความคิดเห็นประชาชนแก้ผังเมืองรวม
ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวว่า สำนักผังเมืองได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการผังเมืองให้ดำเนินการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครใหม่ เพื่อใช้บังคับโดยต่อเนื่องจากกฎกระทรวงผังเมืองรวมฉบับที่ 414 (พ.ศ.2542) ซึ่งครบกำหนดการใช้บังคับในวันที่ 4 ก.ค.2547 ดังนั้น ก่อนดำเนินการจัดทำผังเมืองรวมฉบับใหม่ สำนักผังเมืองได้จัดให้มีการประชุม เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และเพื่อให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดกรอบการพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยได้จัดประชุมเขต 6 กลุ่มเขตไปแล้ว เมื่อวันที่ 16,23 กุมภาพันธ์ และ 2 มีนาคม 2545 ผลปรากฏว่า ประชาชนในพื้นที่ 15 เขต ได้แก่ กลุ่มเขตกรุงธนเหนือและกรุงธนใต้ มีความคิดเห็นว่าควรให้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สีเขียว (ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม) ให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม เพื่อประชาชนจะได้มีอาชีพ มีรายได้เพิ่มเติม ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ 35 เขต ของกลุ่มเขตเจ้าพระยา กลุ่มศรีนครินทร์ กลุ่มรัตนโกสินทร์และกลุ่มบูรพา ต้องการให้มีการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวไว้ โดยให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ นอกจากนี้กลุ่มเขตต่าง ๆ ยังเห็นควรให้มีการพัฒนาและฟื้นฟูที่รกร้างให้เป็นสร้างสวนสาธารณะและสถานที่ พักผ่อนหย่อนใจให้มากขึ้น รวมทั้งกำหนดให้อาคารขนาดใหญ่และไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีผลกระทบต่อการจราจร สร้างอยู่ในพื้นที่ รอบนอก
ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวต่อไปว่า สำนักผังเมืองกำหนดจัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ ผังเมืองรวม ในวันที่ 6 มี.ค.45 เวลา 08.00-12.00 น. ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง สส. สก. สข. ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ตลอดจนประธานชุมชนและประชาชนในพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานครมาร่วมประชุม ทั้งนี้ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธานการประชุมและบรรยายพิเศษ เรื่อง นโยบายการพัฒนากรุงเทพมหานคร ส่วนประชาชนที่ไม่สามารถมาร่วมการประชุม สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ของสำนักผังเมืองได้ที่ [email protected] หรือโทรศัพท์หมายเลข 1555 , 0-2354-1289-99 ในวันและเวลาราชการ
ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวด้วยว่า คาดว่าการแก้ผังเมืองรวมจะแล้วเสร็จภายในปีนี้และมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ลายเขียวขาว เช่น พื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียน พื้นที่เกษตรกรรมเขตทุ่งครุ บางบอน จะมีการเปลี่ยนแปลงให้เป็น ศูนย์ชุมชน แหล่งพาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น สำหรับในส่วนของการโซนนิ่งสถานบันเทิงและ ไฮเปอร์มาร์เก็ต 3 พื้นที่ ได้แก่ โซนที่ 1 บริเวณพัฒน์พงษ์ ตั้งแต่พระรามที่ 4 ไปตามแนวถนนสีลม โซนที่ 2 ได้แก่ บริเวณเพชรบุรี ตัดใหม่ ตั้งแต่คลองแสนแสบไปจนถึงอาร์ซีเอ และโซนที่ 3 ได้แก่ รัชดาภิเษก ตั้งแต่ลาดพร้าวจนถึงอ.ส.ม.ท. ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจร่างกฎหมายต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างคณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งคาดว่าจะประกาศได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ สำหรับการก่อสร้างไฮเปอร์มาร์เก็ตในพื้นที่กทม.นั้น กทม.ได้ร่วมกับกรมโยธาธิการ และกระทรวงพาณิชย์ โดยอาศัยพ.ร.บ.ควบคุมอาคารมาตรา 13 กำหนดพื้นที่ห้ามสร้างอาคารขนาดใหญ่ในพื้นที่ 39 เขตของกทม. ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับคณะรัฐมนตรี
สำนักผังเมืองเร่ง 2 โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูเมืองร่วมเฉลิมฉลอง 220 ปีกรุงรัตนโกสินทร์
นายชิตชนก กล่าวว่า สำนักผังเมืองได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในบริเวณต่อเนื่องของ กรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งสมควรได้รับการปรับปรุงฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม สวยงาม ตลอดจนเป็นการรักษามรดกทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่สืบต่อไป เป็นการส่งเสริมให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสภาพรูปลักษณ์ทางกายภาพของอาคารที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ อีกทั้งเป็นการเพิ่มสีสันให้กับเมือง เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 220 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ โดยปรับปรุงสภาพแวดล้อมและทาสีอาคาร จำนวน 4 บริเวณ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.44
อนุมัติเงินอุดหนุนรัฐบาลประจำปี 2545 งบกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว ดังนี้ 1.โครงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมและทาสีอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์บริเวณชุมชนซอยเลื่อนฤทธิ์ เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งเป็นอาคารปลายสมัยรัชกาลที่ 5 โดยลักษณะอาคารเป็นตึกแถว 2 ชั้น มีรูปแบบลักษณะของหลังคา 2 รูปแบบ คือ หลังคามุงกระเบื้องว่าว และหลังคาเป็นเฉลียงมีลูกกรงระเบียงปูน ส่วนชั้นล่างเดิมเป็นประตูบานเฟี้ยม 6 บาน มีลวดลายปูนปั้นตามซุ้มประตู มีเอกลักษณ์สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ และที่ตั้งของชุมชนเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างสำเพ็ง-สะพานหัน ถึงย่านตลาดเก่าเยาวราช ซึ่งนับเป็นจุดเชื่อมโยงในลักษณะถนนคนเดินเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ สำนักผังเมือง ได้รับอนุมัติงบประมาณ จำนวน 4,102,300 บาท เพื่อดำเนินการโครงการ ดังกล่าว โดยทำการปรับปรุงสภาพอาคารตึกแถวในชุมชนซอยเลื่อนฤทธิ์ จำนวน 229 ห้อง ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยทำการซ่อมแซมผิวหนังอาคารภายนอกด้านหน้าและทาสีอาคารใหม่ พร้อมทั้งปรับยกระดับผิวจราจรถนนซอยทั้งหมดเสมอระดับทางเท้า รวมถึงทำการปูพื้นทางเท้าและผิวจราจรใหม่ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์บนถนน เช่น เสาไฟฟ้าใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการจ้าง คาดว่า จะได้ผู้รับจ้างดำเนินการประมาณกลางเดือนมีนาคม 2545นี้
นายชิตชนก กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และทาสีอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จำนวน 3 บริเวณ ได้แก่ ชุมชนถนนอัษฎางค์ ชุมชนท่าเตียน และชุมชนตลาดนางเลิ้ง ซึ่งเป็นอาคารของสำนักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์ ลักษณะของอาคารมีรูปแบบสถาปัตยกรรมตามอิทธิพลของยุโรป สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีสภาพสวยงามเป็นเอกลักษณ์ แต่ปัจจุบันมีการใช้สอยอาคารเพื่อประโยชน์ทางการค้า มีการต่อเติมส่วนประกอบของอาคาร เกิดความรกรุงรัง ขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยอาคารมีสภาพเก่าชำรุดทรุดโทรม สำนักผังเมืองได้รับอนุมัติงบประมาณ จำนวน 880,700 บาท เพื่อดำเนินการ โครงการดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการจ้าง คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างดำเนินการประมาณกลางเดือนมีนาคม 2545 เช่นกัน
ผังเมืองระดมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
น.ส.เดือนเต็ม กล่าวว่า สำหรับโครงการสัมมนาทางวิชาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านผังเมือง เป็นโครงการที่สำนักผังเมืองดำเนินการร่วมกับสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานครเพื่อให้ข้าราชการผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์อันเป็นการสร้างเสริมวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารและพัฒนาเมืองได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การสัมมนาดังกล่าวนี้ มีทั้งหมด 3 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1 วันพฤหัสบดีที่ 7 มี.ค.45 เวลา 13.00-16.30 น. ณ ห้องรับรองกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม.สัมมนา เรื่อง จะจัดการอย่างไรกับปัญหาโรงงานอุตสาหกรรมในกรุงเทพมหานคร โดยสำนักผังเมืองได้เชิญผู้มีความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านั้นเข้าร่วมการสัมมนา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย ทั้งนี้ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะบรรยายพิเศษ เรื่อง นโยบายการกระจายโรงงานอุตสาหกรรมของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมอภิปรายในประเด็น สถานการณ์การจัดตั้งและการขยายตัวของโรงงาน ทิศทางและนโยบายเกี่ยวกับการควบคุมและแก้ไขปัญหามลพิษจากโรงงาน รวมถึงปัญหาและข้อเสนอแนะของภาคเอกชนต่อการประกอบอุตสาหกรรมในปัจจุบัน
ครั้งที่ 2 วันอังคารที่ 26 มี.ค.45 เวลา 13.00-16.30 น. ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 ศาลาว่าการกทม. สัมมนาเรื่อง อสังหาริมทรัพย์กับการพัฒนาเมือง สำนักผังเมืองได้เชิญผู้เชี่ยวชาญในวงการอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาที่ดิน ได้แก่ ดร.วิชา จิวาลัย ผู้เคยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รศ.มานพ พงศทัต เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคุณล่องลม บุนนาค กรรมการภาคพื้นเอเซียแปซิฟิค บริษัทโจนส์แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการประเมินและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ร่วมกันอภิปราย ให้ความรู้เกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเมือง และ
ครั้งที่ 3 วันพุธที่ 3 เม.ย.45 เวลา 13.00-16.30 น. ณ ห้องรับรองกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม. สัมมนาเรื่อง การอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งสำนักผังเมืองได้รับเกียรติจาก นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เรื่อง แนวคิดของกรุงเทพมหานครในการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ จากนั้นผู้เข้าร่วมอภิปรายทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ได้แก่ คุณมานิต ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และเป็นเลขานุการคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ รศ.ดร.บัณฑิต จุลาสัย อาจารย์แห่งสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มากด้วยประสบการณ์ในแวดวงสถาปัตย์ และมีบทบาทในการอนุรักษ์และพัฒนา และคุณยงยุทธ์ ประชาศิลป์ชัย ผู้แทนภาคประชาชน ซึ่งเกิดและใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดมา ต่างจะมาให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางและรูปแบบที่เหมาะสมในการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ ขณะเดียวกันได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และขัอมูลจากประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากการอนุรักษ์และพัฒนาดังกล่าวด้วย--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version