กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส สามารถปิดการขายโครงการบางกอก การ์เด้น คอนโดหรูย่านสาทรของกองทุนรวมบัวหลวงจำนวน 56 ยูนิต ได้ก่อนเวลาที่ตั้งเป้าไว้ โกยยอดขายกว่า 260 ล้าน พร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจตัวแทนซื้อขายสินทรัพย์ วางหมากหวังเจรจาดึงโครงการคุณภาพใจกลางย่านธุรกิจและคอนโดหรูในสถานที่พักตากอากาศชั้นนำออกสู่ตลาดประมาณ 5 แห่งภายในปีนี้
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส จำกัด หรือ SPPL หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจตัวแทนซื้อขายสินทรัพย์ของไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวงได้มอบหมายให้ แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส บริหารงานด้านการตลาดและการขายโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรูย่านสาทร "บางกอก การ์เด้น" จำนวน 56 ยูนิต ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้บริษัทฯ สามารถปิดการขายโครงการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากการขายในครั้งนี้ สามารถสร้างยอดขายรวมทั้งสิ้น 260 ล้านบาท
"ทีมงานแสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส พยายามสร้างกลยุทธ์ด้านการตลาดและการขายให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ที่ผ่านมาจะเห็นว่า เราไม่ได้เน้นกลยุทธ์การขายแบบลดราคาเข้ามาใช้ เพราะมองว่าจะส่งผลต่อมูลค่าสินทรัพย์ในอนาคต แต่เพราะเรามีทีมงานบริหารสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ ที่เป็นมากกว่าพนักงานขายคอยบริหารงานอยู่ และระบบฐานข้อมูลรายชื่อลูกค้าที่เหนือกว่า จึงส่งผลให้ แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส สามารถปิดการขายได้ก่อนเวลาที่ตั้งไว้ประมาณ 2 เดือน และที่น่ายินดีที่สุดคือ เราสามารถสร้างยอดขายได้ดีกว่าเป้าที่คาดไว้ด้วย" นายยงยุทธกล่าว
โครงการบางกอก การ์เด้น เป็นคอนโดมิเนียมสูง 10 ชั้นระดับคุณภาพย่านสาทรของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง ขนาดพื้นที่ระหว่าง 97-106 ตารางเมตร โดยแสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านการตลาดและการขายจำนวน 56 ยูนิต
"ในฐานะผู้ขายผมเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันเริ่มที่จะดีขึ้น ดูได้จากยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปี 45 โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียนในเขตใจกลางเมืองยิ่งมีความต้องการจากตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันโครงการที่มีคุณภาพที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ทั้งแง่ราคา ที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังมีไม่เพียงพอ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโครงการเหล่านั้นเหลืออยู่แล้ว เพียงแต่สินทรัพย์เหล่านั้นยังรอเวลาที่เหมาะสมที่จะออกสู่ตลาดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส จึงได้เริ่มที่จะเข้าไปเสนอตัวในการนำเอาสินทรัพย์เหล่านั้นมาสร้างให้ตลาดรู้จัก และเสริมสร้างจุดขายต่างๆ ให้แก่สินทรัพย์ ซึ่งคาดว่าเราน่าจะดึงมาบริหารได้ไม่ต่ำกว่า 5 โครงการภายในปี 2545 แน่นอน" กรรมการผู้จัดการ SPPL กล่าวเสริม
"กลุ่มสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่เราพยายามเจรจาเสนอตัวเข้าไปนำสินทรัพย์ที่มีอยู่เหล่านั้นมาพัฒนา และวางกลยุทธ์ในการขายและการตลาดที่เหมาะสม เพราะจากตัวเลขล่าสุดจากศูนย์วิจัยกสิกร พบว่า เมื่อสิ้นเดือนมกราคม 2545 สินทรัพย์ที่ 2 กลุ่มข้างต้นถือครองอยู่มีมูลค่ารวมกว่า 1.4 แสนล้านบาท ดังนั้นตลาดในส่วนนี้ น่าจะยังมีสินทรัพย์ที่มีศักยภาพที่ปะปนอยู่จำนวนหนึ่ง หากมีการวางกลยุทธ์ด้านการตลาดและการขายให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เชื่อว่าตลาดยังสามารถรับได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เราก็ยังจะเจาะกลุ่มโครงการของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายย่อยอีกด้วย เนื่องจากมีหลายโครงการที่สร้างโครงการที่มีศักยภาพ แต่ไม่ชำนาญด้านการวางแผนการตลาดและการขาย ซึ่งเราสามารถที่จะเข้าเป็นที่ปรึกษาตรงนี้ได้ เนื่องจากเรามีทีมที่มีคุณภาพ และที่สำคัญไปกว่านั้น เรามีฐานลูกค้าที่ทีคุณภาพอยู่จำนวนมาก" นายยงยุทธกล่าวถึงแผนการตลาดในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โทร. 01-890-3568--จบ--
-อน-