ILCT: กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นทะเบียนธุรกิจอินเตอร์เน็ท (3)

ศุกร์ ๑๑ กรกฎาคม ๒๐๐๓ ๑๖:๕๑
กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--ที่ปรึกษากฎหมายสากล
โดย ประดิษฐ์ สหชัยยันต์
[email protected]
ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ
[email protected]
ไอที กรุ๊ป
บริษัท ที่ปรึกษากฎหมายสากล จำกัด
ครั้งที่แล้วเราได้คุยกันถึงปัญหาที่ท่านผู้อ่านหลายท่านสอบถามเข้ามาเกี่ยวกับจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในวันนี้เราจะคุยกันต่อเกี่ยวกับกฎหมายอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งได้เกริ่นไปบ้างแล้วในบทความครั้งที่ 1 ของผม คือ "พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545" ซึ่งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคได้ตีความว่า การประกอบธุรกรรมผ่านทางอินเตอร์เน็ทที่เป็นการทำตลาดสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซท์ในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางนั้น หากมีความมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากเว็บไซท์นั้นถือได้ว่าเป็น "การทำตลาดแบบตรง" ซึ่งต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงตามมาตรา 27 หากผู้ใดฝ่าฝืนอาจมีโทษปรับตามที่ระบุไว้ในมาตรา 47 และ 54 ประกอบกันครับ ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคยังพิจารณายกเว้น ผ่อนผัน ยกเว้นโทษปรับให้กับผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตลาดแบบตรงอยู่ครับ ผมจึงอยากให้ผู้ประกอบการแต่ละรายที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตลาดแบบตรงควรรีบขึ้นทะเบียนตลาดแบบตรงดังกล่าวโดยเร็วครับ.
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าเว็บไซท์ของท่านเป็นตลาดแบบตรงหรือไม่ ให้ท่านดูว่าเว็บไซท์ของท่านดำเนินธุรกิจ ดังต่อไปนี้หรือไม่ครับ
(1) เว็บไซท์ของท่านมีการให้บริการหรือซื้อขายสินค้ากับผู้บริโภคโดยตรงผ่านทางเว็บไซท์หรือไม่
(2) การให้บริการหรือซื้อขายสินค้าดังกล่าวเป็นการให้บริการโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคดำเนินการตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ หรือไม่
หากเข้ารายละเอียดทั้งสองประการ ถือได้ว่าเว็บไซท์ของสถานประกอบการของท่านเป็นการทำตลาดแบบตรง ซึ่งต้องขึ้นทะเบียนตลาดแบบตรงครับ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เว็บไซท์ thaiticketmaster.com ซึ่งเป็นเว็บไซท์ที่จำหน่ายตั๋วคอนเสริต์ หรือ รับจองตั๋วคอนเสริต์ผ่านทางอินเตอร์เน็ท การกระทำดังกล่าวของเว็บไซท์ thaiticketmaster.com จึงถือเป็นการทำตลาดแบบตรง เนื่องจาก เป็นการสื่อสารผ่านทางเว็บไซท์เพื่อขายให้กับผู้บริโภคโดยตรง หรือตัวอย่างเว็บไซท์อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งน่าจะเข้าข่ายเป็นตลาดแบบตรงคือ ธุรกิจเว็บไซท์ประเภทที่ให้มีการดาวน์โหลด ริงโทนหรือโลโก้ ผ่านทางอินเตอร์เน็ท ก็ถือว่าเป็นการทำธุรกิจตลาดแบบตรงเช่นเดียวกันครับ
เมื่อสรุปได้ว่าเว็บไซท์ของท่านเป็นการทำธุรกิจตลาดแบบตรงแล้ว การขึ้นทะเบียนตลาดแบบตรงสามารถทำได้ 3 วิธีครับ คือ
(1) ยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
(2) ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือ
(3) จดทะเบียนผ่านทางเว็บไซท์ของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (www.thaiconsumer.net)
โดยต้องส่งเอกสารดังต่อไปนี้ให้ครบถ้วนถูกต้อง
(1) แบบคำขอธุรกิจตลาดแบบตรง - แบบ ขต.2 (ซึ่งสามารถขอรับแบบฟอร์มได้ที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) ซึ่งลงนามโดยกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท
(2) สำเนาหนังสือรับรองและวัตถุประสงค์ของบริษัทที่ให้บริการเว็บไซท์ที่ทำธุรกิจตลาดแบบตรง โดยสำเนาหนังสือรับรองดังกล่าวต้องรับรองสำเนาถูกต้องและประทับตราสำคัญของกรรมการบริษัท
(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท
(4) สำเนาเว็บไซท์ของบริษัทที่มีลักษณะเป็นธุรกิจตลาดแบบตรงที่จะขึ้นทะเบียน
(5) ใบเสร็จรับเงินที่บริษัทออกให้แก่ผู้บริโภคจากการซื้อขายสินค้าหรือให้บริการผ่านทางอินเตอร์เน็ทหรือสัญญาซื้อขายบริการระหว่างบริษัทกับผู้บริโภคผ่านทางอินเตอร์เน็ท
ปัญหาคือ การทำธุรกิจออนไลน์บางประเภท หากบริษัทเจ้าของเว็บไซท์ไม่ได้ออกใบเสร็จรับเงินให้กับผู้บริโภคโดยตรงแต่เป็นการให้ตัวแทนเรียกเก็บจากผู้บริโภคเช่นนี้จะทำอย่างไร เช่น การให้บริการดาวน์โหลดริงโทน โดยผ่านบริษัทมือถือซึ่งบริษัทมือถือทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น เอไอเอส (AIS) หรือ ดีแทค (DTAC) จะเป็นผู้เก็บเงินโดยคิดเป็นค่าบริการเสริมและนำรายได้ดังกล่าวมาส่งมอบให้บริษัทเจ้าของเว็บไซท์อีกครั้งหนึ่ง กรณีดังกล่าวนี้บริษัทเจ้าของเว็บไซท์ต้องทำหนังสือชี้แจงเหตุที่ไม่สามารถออกใบเสร็จรับเงินดังกล่าวได้ เพื่อให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคสามารถเข้าใจถึงรายละเอียดการทำธุรกรรมดังกล่าวของท่าน
คำถามต่อมาที่ผู้ประกอบการหลายรายที่มักสอบถามเข้ามาคือ ธุรกิจทุกประเภทต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบแบบตรงหรือไม่ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับทราบว่า ธุรกิจดังต่อไปนี้ถือว่ายกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนตลาดแบบตรง เนื่องจาก มีกฎหมายควบคุมเฉพาะอยู่แล้ว อันได้แก่
(1) ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต
(2) ธุรกิจธนาคาร
(3) ธุรกิจการเช่าซื้อ (Leasing)
(4) ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์
(5) ธุรกิจที่อยู่ในความควบคุมของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.)
สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าข้อมูลดังกล่าวข้างต้นคงเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านที่ประกอบธุรกิจอินเตอร์เน็ทอยู่ในขณะนี้ และหวังว่าผู้ประกอบการทั้งหลายที่ยังไม่ได้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และตลาดแบบตรงจะรีบดำเนินการจดทะเบียนให้ถูกกฎหมายครับ "Better Late than Never" ดำเนินการล่าช้าดีกว่าไม่ดำเนินการเลยครับ--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO