ชายเสื่อมสมรรถภาพทั่วโลกอยากกลับมามีเซ็กซ์เช่นเดิม แพทย์ชี้คนไทยกล้าพบหมอมากขึ้นเพื่อรักษาโรคนี้

อังคาร ๐๖ มกราคม ๒๐๐๔ ๑๓:๓๗
กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--แอ๊ดวานซ์ อะโกร
ชายไทยและเทศที่ป่วยเป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศทั่วโลกต่างโหยหาวิธีที่จะกลับมามีเซ็กซ์ได้อย่างปกติดังเดิม ทั้งพบหมอเพื่อช่วยรักษา และใช้ยาเพื่อช่วยให้มีสมรรถภาพที่ดีชั่วคราว แพทย์ไทยชี้คนไทยกล้าเข้ามาปรึกษามากขึ้น เพื่อทำให้เกิดความสุขในชีวิตรัก และต้องการยาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
สถาบันอินเตอร์เนชั่นแนล โซไซตี้ ฟอร์ เมนส์ เฮลท์ (International Society for Men's Health) เครือข่ายทางด้านวิทยาศาสตร์ระหว่างชาติและเป็นศูนย์การแพทย์หลายสาขาของยุโรปได้ทำการทดลองสำรวจผู้ชายวัย 40 - 70 ปีที่มีปัญหาเรื่องโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ อีดี (Erectile Dysfunction) จำนวน 973 ราย จาก 12 ประเทศ ใน 3 ทวีป รวมทั้งผู้ชายวัย 45 ปีขึ้นไปอีก 2,164 ราย พบว่าร้อยละ 81 ให้ความเห็นว่า อีดีมีผลกระทบด้านลบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีผู้ชายอีกร้อยละ 69 ที่ป่วยเป็นโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเคยได้รับการบำบัดโดยยาที่มีอยู่ในปัจจุบันยอมรับว่า สามารถกลับมามีเพศสัมพันธ์ได้จริง แต่คุณภาพของเพศสัมพันธ์นั้นไม่เหมือนกับที่เคยเป็นเนื่องจาก มีข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาและขั้นตอนการใช้ยา
นายแพทย์นพพร เชยพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ กล่าวว่า จากประสบการณ์การรักษามากว่า 15 ปี พบว่าปัจจุบันผู้ชายไทยที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศกล้าปรึกษาแพทย์มากขึ้น กล้าที่จะพูดคุยถึงสาเหตุ การแก้ไข และยอมรับการรักษา ต่างจากเมื่อก่อนที่ผู้ป่วยด้วยโรคนี้ไม่กล้าที่จะมาพบหมอเนื่องจากมีความเขินอาย ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตัวเองมีปัญหาทางด้านนี้ ก็จะพากันไปสรรหาวิธีแก้ไขกันเอาเอง ซึ่งก็มีบางรายที่ทำผิดวิธีไปจนก่อให้เกิดอันตรายตามมาก็มี
ผู้ป่วยที่เข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น มีหลายรายที่ถามหาการรักษาที่ได้ผลดี ทำให้กลับมามีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนสมัยหนุ่มๆ ที่มีเพศสัมพันธ์ได้ดังใจ ไม่ต้องมาเสียอารมณ์ในการนั่งคอยกว่ายาจะออกฤทธิ์ และไม่ต้องระวังว่าประสิทธิภาพของยาจะลดลงหากกินพร้อมอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สำคัญคือในการที่ผู้ป่วยจะต้องกินยาทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นั้นยังทำให้รู้สึกว่าถูกตอกย้ำว่าเป็นผู้ที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวที่ต้องการนี้คงต้องรอไปก่อน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มียาชนิดไหนที่จะสามารถครอบคลุมได้ทุกความต้องการ
นายแพทย์นพพร กล่าวเสริมอีกว่า สำหรับหนทางที่จะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอาจเป็นเรื่องของการปรับพฤติกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย อาทิ การออกกำลังกาย การพักผ่อน การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การรักษาโรคบางชนิดจะช่วยให้ร่างกายอยู่ในภาวะที่ดีขึ้นโดยอาจไม่จำเป็นต้องใช้ยาบ่อยๆ
ทั้งนี้ จากความต้องการของผู้ป่วยดังที่กล่าวมาแล้ว ก็น่าจะเป็นข้อมูลให้กับผู้ผลิตเวชภัณฑ์ที่จะทำหน้าที่ในการคิดค้นตัวยาที่มีประสิทธิภาพเต็มที่ ไม่ต้องใช้เวลานานในการออกฤทธิ์ และทำให้ผู้ใช้ยามีเพศสัมพันธ์ได้อย่างราบรื่น เสมือนไม่ใช่ผู้ป่วยด้วยโรคอีดี
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
จรรยา นุกูลกิจ โทร. 0 - 2 663-3226 ต่อ 36--จบ--
-รก-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO