ไข้เลือดออกป้องกันได้หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน

พฤหัส ๐๘ มกราคม ๒๐๐๔ ๑๔:๐๖
กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (7 ม.ค.47) เวลา 13.30 น. ที่ห้องอเนกประสงค์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ดร.ธารินทร์ สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการอบรม “โครงการอบรมแนวทางเร่งรัดการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ในสถานศึกษา ปี 2547” รุ่นที่ 2 โดยมี นพ.ชาญชัย คุ้มพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย นพ.ชัชชัย วัชรพฤกษาดี ผู้อำนวยการ กองควบคุมโรค และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธี
ผู้อำนวยการกองควบคุมโรค กล่าวว่า สำนักอนามัยจัดโครงการอบรมแนวทางเร่งรัดการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในสถานศึกษา ปี 2547 ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมเป็นข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานคร ครูอนามัยโรงเรียนทั้งสังกัดกรุงเทพมหานครและสังกัดหน่วยงานอื่นๆ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,632 คน โดยแบ่งการอบรมเป็น 6 รุ่น ๆ ละ ครึ่งวัน ตั้งแต่วันที่ 6-13 มกราคม 2547 แบ่งตามพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ประสานงานที่ 1-6 ของสำนักอนามัย เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านการ ควบคุมโรคไข้เลือดออกในสถานศึกษา ได้แก่ ครูอนามัยโรงเรียนประจำสถานศึกษา พยาบาลอนามัยโรงเรียนของศูนย์บริการ สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาของสำนักงานเขต รวมทั้งเพื่อส่งเสริมให้สถานศึกษาได้จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันโรค ไข้เลือดออกแบบบูรณาการ โดยมุ่งเน้นการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายซึ่งเป็นพาหะแพร่เชื้อไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่องและจริงจังทุก 7 วัน เนื่องจากสถิติเมื่อปี 2546 ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2546 พบผู้ป่วยไข้เลือดออกในเขตกรุงเทพมหานครทั้งสิ้นจำนวน 8,158 ราย และมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวถึง 9 ราย เมื่อแยกตามกลุ่มอายุ พบว่าผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกถึงร้อยละ 65 เป็นกลุ่มเด็กวัยเรียนอายุระหว่าง 5-24 ปี เสียชีวิตจำนวน ทั้งสิ้น 5 ราย
สำหรับการอบรมรุ่นที่ 2 นี้ ผู้เข้ารับการอบรมเป็นบุคลากรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ศูนย์ประสานงานที่ 2 ครอบคลุม พื้นที่ 7 สำนักงานเขต ได้แก่ เขตลาดกระบัง เขตประเวศ เขตบางนา เขตพระโขนง เขตสวนหลวง เขตวัฒนา และเขตคลองเตย รวมทั้งสิ้น 238 คน แยกเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครจากสำนักอนามัยและสำนักงานเขต จำนวน 93 คน และผู้เข้ารับการอบรมจากหน่วยงานที่ไม่ได้สังกัดกรุงเทพมหานคร 145 คน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกแม้เป็นโรคติดต่ออันตรายที่สามารถทำให้สูญเสียชีวิตได้ แต่ก็สามารถควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดได้โดยการตัดวงจรการแพร่ระบาด สำหรับวิธีที่ให้ผลดีและง่ายที่สุดคือการกำจัดลูกน้ำยุงลายซึ่งต้องดำเนินการพร้อมกันทุกพื้นที่ในกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จากสถิติพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตอยู่ในกลุ่มวัยเรียนมากที่สุด ดังนั้นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในสถานศึกษาจึงนับเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากยุงลายมักชอบหากินในเวลากลางวันซึ่งเป็นเวลาที่เด็กกลุ่มดังกล่าวอยู่ในโรงเรียน ซึ่งครูต้องเอาใจใส่เฝ้าสังเกตอาการของเด็กนักเรียน หากเด็กนักเรียนมีอาการป่วยคล้ายอาการของโรคไข้เลือดออกต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิต
อนึ่ง การป้องกันและปราบปรามโรคไข้เลือดออกเป็นนโยบายสำคัญของกรุงเทพมหานครและของรัฐบาล จึงขอทุกสถานศึกษาได้ร่วมมือกันป้องกันโรคโดยการกำจัดลูกน้ำยุงลาย ตลอดจนให้ความรู้แก่นักเรียนเพื่อจะได้ตระหนักถึงอันตรายของโรคไข้ เลือดออก และร่วมมือกันป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่องต่อไป--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ