LPN ขยายการลงทุนในแกรนด์ ยูนิตี้ฯ สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 25%

กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์
LPN ควักกระเป๋า ลงทุนเพิ่มในแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ อีกกว่า 3 แสนหุ้น หรือเพิ่มขึ้น 7.52% ส่งผลให้มีสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากันระหว่างผู้ร่วมก่อตั้ง 3 ฝ่าย ๆ ละ 33.33% เดินหน้าพัฒนาโครงการอาคารร้างอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างเจรจาซื้ออีกหลายโครงการ เพื่อพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ คาดสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 25%
นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า "จากข้อตกลงเดิมในการจัดตั้งบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (GUD) ที่ระบุให้ผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 3 ฝ่าย คือ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ยูนิ เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เยาววงศ์ จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่ากันภายใน 2 ปี หลังเริ่มดำเนินงาน เพื่อสานต่อความตั้งใจในการพัฒนาโครงการที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ช่วงวิกฤติให้เป็นโครงการที่เสร็จสมบูรณ์และช่วยลดปัญหาอาคารร้างในกรุงเทพมหานครนั้น เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2547 ที่ผ่านมา LPN ได้ชำระเงินเพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนโดยการซื้อหุ้นสามัญของ GUD จาก บริษัท ยูนิ เวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูนิ เวนเจอร์ แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด จำนวนรวม 376,344 หุ้น ในราคาหุ้นละ 31.50 บาท รวมเป็นเงิน 11,854,836 บาท (สิบเอ็ดล้านแปดแสนห้าหมื่นสี่พันแปดร้อยสามสิบหกบาทถ้วน) จากราคาพาร์ (Par) หุ้นละ 10 บาท โดยใช้เกณฑ์ Discount Future Cash Flow ซึ่งเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และเป็นที่ยอมรับของผู้ถือหุ้นทุกฝ่าย ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของ LPN ใน GUD เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 25.81 เป็นร้อยละ 33.33 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เท่ากันในกลุ่มผู้ถือหุ้นทั้ง 3 บริษัท ได้แก่ แอล.พี.เอ็น.-ยูนิ เวนเจอร์- เยาววงศ์ ทั้งนี้ GUD มีทุนจดทะเบียน 50.0 ล้านบาท ผลจากการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในครั้งนี้ คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ LPN มากกว่า 25%
จากการได้รับความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นให้ LPN เป็นแกนนำในการพัฒนาและบริหารโครงการทั้งหมดของ GUD ปัจจุบัน LPN ได้พัฒนาโครงการต่างๆ มาตั้งแต่ปลายปี 2544 จำนวน 3 โครงการ คือ (1) ลุมพินี เพลส วอเตอร์คลิฟ (2) ลุมพินี ทาวน์โฮม รัชดา-พระราม 3 และ (3) ลุมพินี สวีท รัชดา-พระราม 3 อาคารชุดพักอาศัยแห่งใหม่สำหรับลูกค้าระดับบน ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้ง 3 โครงการ โดยในปี 2547 นี้ บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อโครงการอาคารร้างอีกหลายโครงการ เพื่อนำมาพัฒนาต่อ ซึ่งการเจรจานั้นจะต้องอาศัยความสัมพันธ์ ศักยภาพ และประสบการณ์ในการพิจารณาอย่างสูง เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งนอกจากประสบการณ์ของ LPN แล้ว พันธมิตรทั้งสองคือ ยูนิ เวนเจอร์ และเยาววงศ์ ก็มีส่วนสนับสนุนอย่างมากด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
วิจิตร อวิรุทธิ์ แผนกประชาสัมพันธ์
โทร. 02-285-5011-6 ต่อ 500--จบ--
-รก-