กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กระทรวงพลังงาน
แนวโน้มปัญหาน้ำมันเถื่อนในไทยลดลงต่อเนื่อง เหตุหน่วยงานรัฐป้องกันและปรามปรามอย่างเข้มงวด สรรพสามิตเผยปี 2547 เน้นการป้องกันและรณรงค์สร้างแนวร่วมเพิ่ม คาดปีนี้จะเก็บภาษีได้กว่า 7.2 หมื่นล้านบาท
ดร.สถิต ลิ่มพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐได้ดำเนินโครงการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียม (น้ำมันเถื่อน) มาอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้แนวโน้มของผู้กระทำความผิดปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สอดคล้องกับการเจริญเติบโตของเศรษฐกกิจและปริมาณการใช้น้ำมันของประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น
กล่าวคือ ในปีงบประมาณ 2546 ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันได้กว่า 70,000 ล้านบาท โดยกรมฯ สามารถปราบปรามผู้กระทำความผิดกฎหมายสรรพสามิตในส่วนของน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันได้จำนวน 856,731 ลิต คิดเป็นจำนวน 1,250 คดี เป็นเงินค่าปรับประมาณ 11.22 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์การกระทำความผิดจะลดน้อยลงมาก แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้แก่ กรมสรรพสามิต สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กรมศุลกากร กรมธุรกิจพลังงานและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังจะร่วมมือกันเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด เพื่อให้ประเทศไทยปลอดน้ำมันเถื่อนอย่างถาวร
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าวในปีงบประมาณ 2547 จะเน้นการเฝ้าระวังและป้องกันการกระทำความผิด รวมทั้งการสร้างแนวร่วมด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนเห็นถึงผลดีของการใช้น้ำมันที่ถูกต้องตามกฎหมายเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของกรมสรรรพสามิตจะมีการดำเนินโครงการป้องกันและปราบปรามฯ จำนวน 7 โครงการหลัก ซึ่งคาดว่าจะทำให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีจากน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันได้เป็นจำนวน 72,788 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1,428 ล้านบาท--จบ--
-รก-