กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--ธนชาติ
บริษัทเงินทุน ธนชาติ เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2546 มีกำไร 2,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 946 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 54.9% เป็นผลมาจากการขยายตัวของธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยบริษัทร่วมที่มีผลประกอบการที่ดีโดยทั่วกัน
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม เท่ากับ 167,748 ล้านบาท มีกำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อย เท่ากับ 2,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 946 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 54.9% โดยสาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ มาจากการที่ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทขยายตัวอยากมากถึง 87.0% อันทำให้รายได้จากการให้เช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นถึง 90.0%
นอกจากนี้แล้วผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยบริษัทร่วมยังมีผลประกอบการที่ดีโดยทั่วกัน โดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 7.1% เป็น 420.4 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงถึง 168.7% เป็น 381 ล้านบาท อันเป็นผลจากภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายอย่างหนาแน่นมาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาติ จำกัด มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13.6% เป็น 56.7 ล้านบาท บริษัท ธนชาติซูริคประกันชีวิต จำกัด และบริษัท ธนชาติประกันภัย จำกัด ก็เริ่มมีผลกำไรจากการดำเนินงาน โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 87.9 ล้านบาท และ 11.9 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้ง เอ็นเอฟเอส และแม็กซ์ นั้น แม้ว่าจะมีการตั้งสำรองฯ อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ก็ยังมีผลกำไร โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 75.6 ล้านบาท และ 224 ล้านบาท ตามลำดับ
นายศุภเดช ยังเปิดเผยถึงผลการดำเนินงานด้านธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทว่า ณ สิ้นปี 2546 ยอดลูกหนี้เช่าซื้อมีจำนวน 61,923 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58.4% ของยอดเงินให้กู้ยืมทั้งหมด และเมื่อเปรียบเทียบกับยอด ณ สิ้นปี 2545 ที่เท่ากับ 33,192 ล้านบาท ยอดลูกหนี้เช่าซื้อเพิ่มสูงขึ้นถึง 86.6% สำหรับยอดสินเชื่อเช่าซื้อที่ปล่อยใหม่ในปี 2546 มีจำนวนสูงถึง 45,808 ล้านบาท เปรียบเทียบกับจำนวน 26,343 ล้านบาท ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 73.9% และยอดรวมจำนวนรถยนต์ที่บริษัทให้สินเชื่อเช่าซื้อ ณ สิ้นปี 2546 มีจำนวนถึง 189,406 คัน เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว 97,320 คัน ซึ่งเป็นผลให้รายได้ดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อของบริษัทในปี 2546 เพิ่มขึ้นอย่างมาก--จบ--
-รก-