สตาร์ซานิทารีแวร์ เตรียมเข้าระดมทุนในตลาด mai เพื่อเสริมความแกร่ง และศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว

กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
สตาร์ซานิทารีแวร์ เตรียมเข้าระดมทุนในตลาด mai เพื่อเสริมความแกร่ง และศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว แต่งตั้ง บล.ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและผู้จำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์ ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรรมเครื่องสุขภัณฑ์มานานกว่า 15 ปี ภายใต้ชื่อ “Star” เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและศักยภาพในการแข่งขันระยะยาว โดยแต่งตั้งบล.ไซรัสเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปขยายกำลังการผลิต ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
นายสมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์ “สตาร์” (Star) เปิดเผยว่า สตาร์ ซานิทารีแวร์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่าย เครื่องสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบห้องน้ำ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “STAR” ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งรับจ้างผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ให้กับลูกค้าต่างประเทศตามแบบที่ลูกค้าต้องการภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า (Original Equipment Manufacturer: OEM) โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัท มีแบบให้เลือกมากกว่า 150 รุ่น และมีสีให้เลือก 26 สี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการสั่งซื้อสินค้าที่เป็นส่วนประกอบของเครื่องสุขภัณฑ์มาเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าของบริษัทฯ ได้แก่ ฝารองนั่งพร้อมฝาปิด อ่างอาบน้ำ อุปกรณ์ชุดหม้อน้ำ ก๊อกน้ำ เป็นต้น ลูกค้าของบริษัทฯ แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ลูกค้าในและต่างประเทศ โดยลูกค้าในประเทศประกอบด้วย ลูกค้าประเภทตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ได้แก่ ร้านจำหน่ายวัสดุตกแต่งและอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) และร้านค้าสินค้าเฉพาะอย่าง (Specialty Store) โดยมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศรวมทั้งสิ้น 322 ราย นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าประเภทโครงการก่อสร้าง ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการทั้งที่เป็นของภาครัฐและเอกชน ลูกค้าประเภทนี้จะซื้อสินค้าโดยตรงผ่านตัวแทนจำหน่ายของบริษัทฯ สำหรับลูกค้าต่างประเทศ บริษัทฯ มีการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสุขภัณฑ์ออกไปจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก ตลอดส่งออกที่สำคัญได้แก่ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ทั้งนี้ ลูกค้าต่างประเทศของบริษัทฯ ประกอบด้วยลูกค้าประเภทผู้จัดจำหน่าย (Distributor) โดยมีผู้จัดจำหน่าย 22 รายกระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 20 ประเทศ ซึ่งโดยส่วนใหญ่บริษัทฯ จะกำหนดให้มีผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในแต่ละประเทศ
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2547 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 271.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 233.33 ล้านบาท ในปี 2546 แบ่งเป็นยอดขายจากการส่งออกต่างประเทศประมาณ 80% และที่เหลือประมาณ 20% จำหน่ายภายในประเทศผ่านตัวแทนจำหน่าย ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น และหากพิจารณาในส่วนของกำไรสุทธิ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 36.54 ล้านบาท และ 346.72 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2547 เนื่องจากบริษัทฯ มีกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 308.98 ล้านบาท ซึ่งหากไม่นับรวมกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว บริษัทฯ จะมีกำไรหลังหักดอกเบี้ยจ่ายจำนวน 37.74 ล้านบาท
แผนและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2548 บริษัทฯ มีการวางแผนการขายในประเทศและต่างประเทศโดยกำหนดสัดส่วนของทั้งสองตลาดอย่างชัดเจน โดยรายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงมาจากการส่งออกเครื่องสุขภัณฑ์ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความต้องการเครื่องสุขภัณฑ์ในประเทศเพิ่มมากขึ้นบริษัทฯ จึงมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายในประเทศเป็น 25% ในปี 2548 และ 30% ในปี 2549
บริษัทฯ มีเป้าหมายในการรักษาการเป็นผู้ผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ที่มีมาตรฐานระดับสากล จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพเครื่องสุขภัณฑ์ของบริษัทฯ การเพิ่มรูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ความรวดเร็วและแน่นอนในการจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “STAR” ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าของบริษัทฯ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยอาศัยการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่าย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ และกลยุทธ์การส่งเสริมการขายที่มีประสิทธิภาพ ด้วยบุคลากรที่มีความชำนาญ และผู้ให้คำปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเครื่องสุขภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่องการบริการหลังการขายอีกด้วย
ในปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 136 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 136 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไหว้หุ้นละ 1 บาท และมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น 100 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีความประสงค์จะเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 36 ล้านหุ้น แบ่งเป็นการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนจำนวน 32.5 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท จำนวน 3.5 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26.47 ของทุนเรียกชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน โดยขณะนี้ บริษัทได้มอบหมายให้บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินในการเตรียมความพร้อมนำหุ้นของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) รวมทั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายปและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ โดยนำวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ไปใช้เพื่อขยายกำลังการผลิต ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการเพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายในอนาคต
ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า จากผลการดำเนินงานของสตาร์ซานิทารีแวร์ที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 182.90 ล้านบาท ในปี 2545 เป็น 244.62 ล้านบาท ในปี 2546 และ 285.33 ล้านบาท ในปี 2547 คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 33.75 และ 16.64 ตามลำดับ การเติบโตของยอดขายดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานจนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะเห็นได้จากการที่เครื่องสุขภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ อาทิ มอก. ANSI และ IAPMO จากสหรัฐอเมริกา BSI ของอังกฤษ CSA ของแคนาดา และ JIS ของญี่ปุ่น ประกอบกับการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ความต้องการใช้เครื่องสุขภัณฑ์ในประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 20% ต่อปี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถจำหน่ายสุขภัณฑ์เพื่อนำไปใช้ในโครงการก่อสร้างต่างๆ เพิ่มมากขึ้น การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบายการตลาดของ STAR ที่จะเพิ่มสัดส่วนการขายในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น และหากพิจารณาตลาดส่งออกซึ่งเป็นรายได้หลักประมาณร้อยละ 80 ของ STAR ก็จะเห็นว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าสุขภัณฑ์ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปี 2545 ที่มูลค่า 3,276 ล้านบาท เป็น 4,198 ล้านบาทในปี 2546 คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 28.12 และ 3,818 ล้านบาท ในปี 2547 โดยมีการส่งออกสุขภัณฑ์ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นสัดส่วนมากที่สุด คิดเป็นประมาณ 20-25% ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศ รองลงมาได้แก่ ประเทศอังกฤษ และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตลาดทั้งสามประเทศ เป็นตลาดเป้าหมายหลักของบริษัทฯ ในการส่งออกสินค้าด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น บริษัทฯ จึงยังมีโอกาสที่จะสามารถขยายตลาดส่งออกเครื่องสุขภัณฑ์ไปจำหน่ายยังประเทศดังกล่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง จากเหตุผลสนับสนุนดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
จิดาภา ประมวลทรัพย์ นันทพร บุญหลง
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 32, 33
หรือ 0-1817-7153, 0-1851-2088
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--