กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
นางเพ็ญนภา ธนสารศิลป์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด หรือ เออาร์ที เปิดเผยถึงแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ระหว่างปี 2547-2549 ว่า เออาร์ที จะเป็นผู้อนุมัติสินเชื่อให้กับร้านค้าสมาชิกเองแทนธนาคารพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถอนุมัติสินเชื่อได้จำนวน 10,000 ราย ภายในระยะเวลา 3 เดือน และเออาร์ที ยังทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์โดยตรงและเปิดบิลขายให้แก่ลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการส่งสินค้าให้กับร้านค้า นอกจากนี้ เออาร์ที ยังจัดหาแหล่งเงินกู้ให้ร้านค้า โดยประสานงานกับธนาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกและรวดเร็ว ในกรณีที่ร้านค้าขาดแหล่งสนับสนุนทางด้านเงินทุนเปิดร้าน
นอกจากนี้ เออาร์ที ยังได้ปรับรูปแบบธุรกิจหลักออกเป็น 4 ธุรกิจ คือ ร้านค้าสมาชิก, ผู้ประกอบการร้านค้าจิ๋ว, ร้านค้าต้นแบบ และสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งในแต่ละธุรกิจ เออาร์ทีจะมีกลยุทธ์การดำเนินงานที่จะนำไปสู่ความสำเร็จแตกต่างกัน
โดยธุรกิจร้านค้าสมาชิก จะมุ่งดำเนินการให้ร้านค้าได้รับสินเชื่อโดยตรงจากเออาร์ที และให้ร้านค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าหลักที่มียอดขายดีในราคาเดียวกันทั่วทั้งประเทศ โดยเออาร์ทีจะมีบริการจัดส่งสินค้าถึงร้าน รวมทั้งจะให้คำปรึกษาและพัฒนาร้านค้าเพื่อเพิ่มยอดขาย และมีการฝึกอบรมตลอดทั้งปีเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
ธุรกิจผู้ประกอบการร้านค้าจิ๋ว ทางเออาร์ทีจะร่วมมือกับหอการค้าจังหวัดในการคัดเลือกรายการสินค้าหลัก 10 รายการ ได้แก่ ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ข้าวสาร น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง เบียร์ และบุหรี่ โดยจะทำหน้าที่ประสานกับซัพพลายเออร์เพื่อให้ได้ราคาที่ต่ำที่สุด และดำเนินการจัดส่งสินค้าให้กับร้านค้าจิ๋วโดยร่วมกับพันธมิตร เช่น สหกรณ์ ร้านค้า/การเกษตร และ Logistic Hub
ธุรกิจร้านค้าต้นแบบ เออาร์ทีจะให้คำปรึกษาการเริ่มทำธุรกิจโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่เก็บค่าสิทธิ์แรกเข้าจัดหาแหล่งเงินทุนในการดำเนินการเปิดร้าน ให้งบสนับสนุนเตรียมการและกำกับดูแลทุกขั้นตอนจนกระทั่งเปิดร้าน สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดขาย รวมทั้งหารายได้พิเศษให้กับร้านค้าต้นแบบ ในส่วนนี้สำหรับผู้ที่มีตึกแถว อาคารที่ทำเลดีแต่ขาดเงินทุนในการเปิดร้าน เออาร์ทียังหาแหล่งเงินทุนให้โดยประสานงานกับธนาคาร SME เพื่ออำนวยความสะดวกและรวดเร็วในการรับสินเชื่อ ในกรณีที่ต้องการกู้เพื่อเปิดร้านต้นแบบ
สำหรับธุรกิจสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เออาร์ทีจะร่วมมือกับทั้ง 4 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ในการคัดสรรสินค้าที่เหมาะสมกับช่องทางและมีศักยภาพในการเติบโต รวมทั้งพัฒนาสินค้า ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ให้โดดเด่นและดึงดูดใจผู้บริโภค โดยกำหนดจำนวนสินค้าในปีแรกไว้ที่ 15 รายการ ปีที่สอง 50 รายการ และปีที่สาม 100 รายการ
นางเพ็ญนภา กล่าวเพิ่มเติมว่า เออาร์ทีได้ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2549 จะมียอดขายรวม 7,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นธุรกิจร้านค้าสมาชิก มียอดขาย 2,278 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ธุรกิจผู้ประกอบการร้านค้าจิ๋ว มียอดขาย 1,156 ล้านบาท คิดเป็น 15% ธุรกิจร้านค้าต้นแบบ มียอดขาย 3,068 ล้านบาท คิดเป็น 41% และธุรกิจสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มียอดขาย 998 ล้านบาท คิดเป็น 13% ซึ่งทั้ง 4 ธุรกิจหากเป็นไปตามเป้าหมาย คาดว่าจะให้บริการค้าทุกประเภทรวมกันไม่ต่ำกว่า 100,000 ร้านค้า เป็นที่สังเกตว่า การเปลี่ยนแปลงธุรกิจครั้งนี้ถือเป็นการพลิกโฉมหน้าใหม่ของเออาร์ทีอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งโลโก้ของบริษัทฯ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
"ยุทธศาสตร์ 3 ปีของเออาร์ที ดังกล่าวมีส่วนในการสนับสนุนเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ภายในประเทศ เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มีส่วนในการสนับสนุนการจัดหารายได้ให้แก่ภาครัฐและผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 10,000 ราย มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างงานให้แก่ประชาชนไม่ต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่ง สร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนโดยการสร้างผู้ประกอบการใหม่ 30,000 ราย และเป็นฐานกระจายข้อมูลข่าวสารภาครัฐสู่ท้องถิ่น" นางเพ็ญนภา กล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
อุษณีย์ ถาวรกาญจน์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น จำกัด
โทร. 0 2247 4228 โทรสาร 0 2246 1481
Email: [email protected]จบ--
-กภ-
- พ.ย. ๒๕๖๗ อินทิเกรเต็ดฯ ปรับโครงสร้างองค์กร ก้าวสู่ยุค Metaverse PR เสริมทัพด้วยแผนก Business Development & Digital เดินหน้าบุกงานพีอาร์ออฟไลน์-ออนไลน์เต็มรูปแบบ
- พ.ย. ๒๕๖๗ วปอ.2555 มอบถุงรอดตาย ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด Home Isolation
- พ.ย. ๒๕๖๗ สหพัฒน์และผู้บริหาร บริจาคเงิน 1.7 ล้าน ในโครงการ "เตียงต่อชีวิต ผู้ป่วยโควิด-19"