กรุงเทพฯ--24 ก.พ.--ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย)
"สลัมเบอร์แลนด์" เผยนโยบายปี'47 เน้นพัฒนาระบบงานและทรัพยากรบุคคล โดยนำระบบ Supply Chain มาใช้ในกระบวนการทำธุรกิจ เพื่อลดต้นทุนการผลิต มั่นใจตลาดที่นอนโตตามธุรกิจอสังหาฯ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านคุณภาพและบริการจนได้รับการคัดเลือกจากซูเปอร์แบรนด์ ไทยแลนด์ ให้เป็นแบรนด์ดีเด่นประเภทธุรกิจที่นอน ปี'47 ส่งสินค้าใหม่รุ่น "รอยัล เอ็มเพอเรอร์" ออกมาทำตลาดคาดมีอัตราโต 10-20% เมื่อเทียบกับปี'46
เจดับบลิว แมริออท - นายมานิตย์ เลิศสาครศิริ ประธานกรรมการ บริษัท สลัมเบอร์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องนอนภายใต้ชื่อ "สลัมเบอร์แลนด์" เปิดเผยว่า แบรนด์สลัมเบอร์แลนด์ ได้รับการยอมรับและผ่านการคัดเลือกจาก ซูเปอร์แบรนด์ ประเทศไทย ให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ดีเด่นประเภทผลิตภัณฑ์เครื่องนอน โดยสลัมเบอร์แลนด์ เป็นแบรนด์ที่ได้รับคัดเลือกสำหรับธุรกิจที่นอน ทั้งนี้ สลัมเบอร์แลนด์มาเลเซีย ก็ได้รับการคัดเลือกจากซูเปอร์แบรนด์ มาเลเซีย เช่นกัน
"สลัมเบอร์แลนด์ ประเทศไทย เปิดดำเนินการในประเทศเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปี โดยธุรกิจหลักคือ ผลิตและจำหน่ายที่นอนภายใต้ยี่ห้อ "สลัมเบอร์แลนด์" ซึ่งเป็นสินค้าพรีเมียมมุ่งกลุ่มเป้าหมายระดับบนและไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 บริษัทฯ ได้แนะนำสินค้ารุ่นใหม่ภายใต้ยี่ห้อ "สตาร์รี่ไนท์" ซึ่งเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ทำตลาดในกลุ่มคนรุ่นใหม่ออกมาทำตลาด สำหรับนโยบายภาพรวมของบริษัทฯ ในปีนี้ บริษัทฯได้นำระบบการบริหารงานแบบ Supply Chain มาใช้ตั้งแต่กระบวนการผลิต การขนส่ง จัดจำหน่ายและการทำตลาด เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต ซึ่งบริษัทแม่ของสลัมเบอร์แลนด์คือ ไอดีเอส กรุ๊ป มีความเชี่ยวชาญระบบ Supply Chain เป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร โดยเน้นเรื่องระบบ Customer Relations Management (CRM) เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และในปีนี้ บริษัทฯ ได้แนะนำสินค้ารุ่นใหม่ออกมาทำตลาด คือ รุ่น "รอยัล เอ็มเพอเรอร์" ตลอดจนการที่บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกจากซูเปอร์แบรนด์ให้เป็นแบรนด์ดีเด่น นับว่าส่งผลดีด้านความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้าสลัมเบอร์แลนด์ ทำให้บริษัทฯ คาดว่า ปี 2547 จะมียอดขายประมาณ 500 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 10-20% โดยในปี 2546 มีอัตราการเติบโต 25% เมื่อเทียบกับปี 2545" นายมานิตย์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้านนโยบายการผลิตนั้น นายมานิตย์ เปิดเผยว่า "สลัมเบอร์แลนด์ได้พัฒนาระบบ Posture Spring System หรือระบบรองรับแบบสปริงที่เป็นเทคโนโลยขั้นสูงซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของสลัมเบอร์แลนด์เท่านั้นปัจจุบัน บริษัทฯได้ลงทุนเพิ่มจำนวนเครื่องจักรจากเดิม 4 เครื่อง เป็น 6 เครื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 50%"
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น นางนภาพร เสวกวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า "ปัจจุบันสลัมเบอร์แลนด์จัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย 3 ช่องทางจัดจำหน่ายหลัก คือ 1 ห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล เดอะ มอลล์ โรบินสัน 2 โมเดิร์นเทรด เช่นโฮมโปร และเทสโก้ โลตัส 3 ร้านเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งสิ้น 250 แห่ง ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สำหรับในปีนี้ กลยุทธ์ด้านการตลาดและส่งเสริมการขายนั้นบริษัทฯ จะเน้นเรื่องการพัฒนาบุคลากร และการให้บริการลูกค้าหลังการขาย พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การออกบูธเพื่อแนะนำสินค้าใหม่ โดยใช้งบโฆษณาส่งเสริมการขายอยู่ที่ 80 ล้านบาท"
มร.สตีฟ ลีซ Chief Executive Officer ซูเปอร์แบรนด์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า "แบรนด์ที่ได้รับการคัดเลือกจากซูเปอร์แบรนด์นั้น จะต้องเป็นแบรนด์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในทุกๆ ด้าน ประการแรก คือ มีความโดดเด่นของสินค้าในสายตาผู้บริโภค ประการที่สอง ผู้บริหารและทีมงานต้องมีความแข็งแกร่งและมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนต่อแบรนด์ โดยสลัมเบอร์แลนด์ได้ผ่านการตัดสินจากคณะกรรมการการคัดเลือกซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ โดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ความพึงพอใจของผู้บริโภค ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ และการเป็นที่ยอมรับโดยรวมของตลาด เป็นต้น
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณนันทนา หาญทวิชัย, คุณพัทธ์ธีรา คงยิ่ง ประชาสัมพันธ์
บมจ.ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) โทร.0-2664-9700 ต่อ 1603,1605--จบ--
-สก/รก-