พรีมาเวสท์เปิดตัว 3 กองทุนใหม่ ตั้งเป้าสินทรัพย์โต 100%

กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
พรีมาเวสท์ ประกาศตั้งเป้าขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100% ในปี 2547 เริ่มกลยุทธ์แรกตั้งกองทุนใหม่เพิ่มสามกอง กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์อินคัม ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และพันธบัตรรัฐบาล กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์แวลู เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่น เน้นลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนสูง และสม่ำเสมอตามภาวะการลงทุน และกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์เอ็คควิตี้ ซึ่งเป็นกองทุนตราสารทุน ทั้งสามกองทุนจะสามารถสนองความต้องการของนักลงทุนหลากหลายประเภท
คุณเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวว่า "สำหรับปี 2547 นอกจากพรีมาเวสท์จะวางเป้าหมายที่จะมีขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 100% เรายังจะเพิ่มกองทุนให้หลากหลายขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน และขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้น"
"กองทุนแต่ละประเภทของพรีมาเวสท์มีวัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่างกัน ทั้งระยะเวลาการเปิดขาย การรับซื้อคืนของแต่ละกองทุนซึ่งแตกต่างกันด้วย ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมและเพื่อประสิทธิภาพในการบริหารแต่ละกองทุน โดยกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์เอ็คควิตี้จะเปิดขาย และรับซื้อคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์แวลู จะเปิดขายและรับซื้อคืนหลังจากครบกำหนด 3 ปีแล้ว และกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์อินคัม จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเมื่อครบอายุกองทุน 3 ปี 4 เดือน นอกจากนี้ การซื้อกองทุนในครั้งแรกผู้ลงทุนไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ในการซื้อ" คุณณัฐรา อิสรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ของพรีมาเวสท์กล่าว
เมื่อ 30 มกราคม 2547 ที่ผ่านมา กองทุนเปิดพรีมาเวสท์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (PFL-RMF) และกองทุนเปิดพรีมาเวสท์เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ (PFL) มี NAV ในรอบระยะเวลา 12 เดือนสูงขึ้นถึง 92.90% และ 98.30% ตามลำดับ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์สูงขึ้น 88.74% ในรอบระยะเวลาเดียวกัน
การตั้งกองทุนใหม่ครั้งนี้ทำให้พรีมาเวสท์มีกองทุนอยู่ภายใต้การบริหารทั้งสิ้นรวม 13 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ และตราสารทุนอย่างละ 2 กองทุน กองทุนผสมอีก 6 กองทุน และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพอีก 3 กองทุน
นอกจากนี้ ในขณะที่ตลาดหุ้นของไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น พรีมาเวสท์ได้แสดงถึงศักยภาพในการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ส่งผลให้กองทุนมีผลการบริหารกองทุนสูงกว่ามาตรฐานของสมาคมบริษัทจัดการกองทุน (AIMC) ในปี 2546 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังจะพบว่ากองทุนที่ได้นำเสนอขายให้แก่นักลงทุนนั้น ล้วนเป็นที่ต้องการของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในการลงทุน
"การบริหารจัดการกองทุนในประเทศไทยในปัจจุบันต้องอาศัยความรู้ความสามารถมาก การตั้งกองทุนใหม่ของพรีมาเวสท์ครั้งนี้ถือเป็นความภูมิใจของเราที่จะช่วยพัฒนาตลาดกองทุนโดยรวม เรามั่นใจว่าเราจะสามารถบริหารจัดการกองทุนให้มีผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงิน ซึ่งอยู่ในอัตราที่ไม่สูงนัก นอกจากนี้ เรายังบริหารความเสี่ยงด้วยการกระจายความเสี่ยงในพอร์ทการลงทุนของเรา" คุณเพิ่มพลกล่าวเสริม
ในฐานะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด อยู่ในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยา และมี Fortis สถาบันการเงินระหว่างประเทศ เป็นผู้ร่วมถือหุ้น ทำให้พรีมาเวสท์สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนด้วยการบริหารและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้รับความสะดวกในการซื้อและขายหน่วยลงทุนผ่านตู้เอทีเอ็ม สาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยาทั่วประเทศ และตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ทั่วประเทศ
ปัจจุบันนี้ คนไทยต่างตื่นตัวในเรื่องการมีรายได้หลังเกษียณมากขึ้น เพราะต่างทราบกันดีว่าเงินสะสม ส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเกือบทั้งหมด จึงต้องวางแผนการใช้จ่ายในวัยพักผ่อนหลังเกษียณมากขึ้น ผู้คนในยุคนี้จึงเริ่มพิจารณาเตรียมจัดสรรและวางแผนการใช้จ่ายอย่างเต็มความสามารถ
ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ประชาชนเข้าใจว่ากองทุนรวมเป็นตัวเลือกการลงทุนที่สำคัญ เช่นเดียวกับกองทุนรวมพรีมาเวสท์ ที่ได้รับการบริหารจัดการด้วยผู้เชี่ยวชาญ สามารถลงทุนซื้อหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้นที่เสนอขายในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และพันธบัตร ซึ่งบางครั้งหลักทรัพย์เหล่านี้ไม่ได้จัดให้สรรกับผู้ลงทุนทั่วไป นอกจากนี้การลงทุนผ่านกองทุนรวมยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในพอร์ทต่างๆ ของการลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจกองทุนรวมของไทย บริษัทฯอยู่ในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และถือหุ้นบางส่วนโดย MeesPierson ซึ่งดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ระดับโลก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
สาวฟาง เอกลักษณ์รุจี
พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
โทรศัพท์ 0-2651-8989 ต่อ 334
โทรสาร 0-2651-9649-50
อีเมล์ [email protected]จบ--
-นท-