กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
บมจ.เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอวันนี้ หลังประสบความสำเร็จขายหุ้นหมด 23 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 7 บาท มั่นใจศักยภาพบริษัทมีโอกาสเติบโตสูง เพราะธุรกิจบริษัทสอดรับเศรษฐกิจทั้งขาขึ้นและขาลง
ดร.วิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน) (ACAP) บริษัทผู้ให้บริการงานที่ปรึกษาทางการเงินและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอได้รับบริษัทเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนและอนุมัติให้ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในวันพุธที่ 14 ธันวาคม ศกนี้ โดยใช้ชื่อหลักทรัพย์ “ACAP” ซึ่งภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มเป็น 100 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 77 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 161 ล้านบาท จะจัดสรรเพื่อใช้คืนเงินกู้ยืม 20 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนสำหรับวางค้ำประกันศาลสำหรับธุรกิจในการให้บริการเป็นผู้ทำแผนและผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ 5 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนอื่นๆ ทั่วไป รวมทั้งเพื่อใช้ในการประมูลงานหาลูกค้า 76 ล้านบาท และเป็นเงินลงทุนในสินทรัพย์เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต 60 ล้านบาท
“เชื่อว่านักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยจะให้ความไว้วางใจ และลงทุนในหุ้น ACAP ระยะยาว เห็นได้จากผลการตอบรับในช่วงการเสนอขายหุ้น ACAP ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม 2548 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป(ไอพีโอ) จำนวน 23 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 7 บาท ราคาพาร์ 1 บาท ได้หมดทั้งจำนวน โดยการกำหนดราคาหุ้นไอพีโอที่ 7 บาท มีความเหมาะสมกับพื้นฐานบริษัทและภาวะตลาดในปัจจุบัน”ดร.วิวัฒน์กล่าว
สำหรับผลประกอบการล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/2548 บริษัทมีกำไรสุทธิ 9 เดือน จำนวน 32 ล้านบาท รายได้รวม 198 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงสร้างรายได้จากธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินและวาณิชธนกิจร้อยละ 35 และธุรกิจให้บริการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพร้อยละ 65 มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(ดีอี) เพียง 0.5 เท่า ขณะที่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2547 มีกำไรสุทธิ 11 ล้านบาท รายได้รวม 117 ล้านบาท และในปี 2546 มีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท มีรายได้รวม 75 ล้านบาท ตามลำดับ
ดร.วิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ณ สิ้นไตรมาส 3/2548 บริษัทมีงานที่ปรึกษาทางการเงินที่อยู่ระหว่างการให้บริการมูลค่ารวม 63,276 ล้านบาท โดยงานที่อยู่ระหว่างการให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ในหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจเครื่องประดับอัญมณี ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ธุรกิจพลาสติก ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ธุรกิจสถาบันการเงิน เป็นต้น ขณะที่ผลงานด้านการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพตั้งแต่เริ่มจัดเก็บหนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 ถึงสิ้นเดือนกันยายน 2548 มีลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วจำนวน 3,400 ราย มีภาระหนี้รวมทั้งสิ้น 6,400 ล้านบาท มียอดชำระหนี้ 4,900 ล้านบาท
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ โดยภายหลังการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป ตระกูลวิฑูรย์เธียร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เหลือสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 60.84 จากเดิมที่มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 79.01 และกลุ่มเจแปน เอเชีย อินเวสต์เม้นท์ เหลือสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 7 จากเดิมที่มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 9.09
“จุดเด่นของหุ้น ACAP คือการลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทที่สอดรับกับเศรษฐกิจได้ทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลง โดยเฉพาะธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินที่สามารถรองรับงานได้อย่างหลากหลาย เช่น งานที่ปรึกษาด้านการควบรวมกิจการ การหาแหล่งเงินทุน การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น ขณะที่งานด้านการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ยังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”ดร.วิวัฒน์กล่าว
อนึ่ง บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2541 โดย ดร.วิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจการเงิน ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้บริหารของบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจด้านที่ปรึกษาทางการเงินและวาณิชธนกิจ และธุรกิจให้บริการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยมีบริษัทย่อยทั้งสิ้น 2 บริษัท ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ได้แก่
1).บริษัท เอเชี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล แพลนเนอร์ส จำกัด (AIP) ทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท เพื่อเป็นผู้จัดทำแผนและผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ภายใต้กระบวนการของกฎหมายล้มละลาย เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการให้เกิดความชัดเจนในการแยกความเสี่ยงของธุรกรรมส่วนนี้ออกจากบริษัทฯ AIP ได้รับการอนุมัติจากสำนักฟื้นฟูกิจการลูกหนี้ กรมบังคับคดี ให้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการและผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ ภายใต้กฎหมายกระทรวงยุติธรรม
2).บริษัท เอแคป เซอร์วิสเซส จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ลงทุนในทรัพย์สินและระบบเพื่อให้บริษัทฯ เป็นผู้เช่าทรัพย์สินเพื่อใช้รองรับการบริหารงานสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของบริษัท
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
อินทิรา ใจอ่อนน้อม
ดรรชนี นวลเขียว
คชภพ สงวนวงศ์
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร. 02 662 2266--จบ--
- พ.ย. ๒๕๖๗ "SGF" ติดปีก!!สินเชื่อรายย่อยโดนใจลูกค้า เดินหน้าขยายฐานธุรกิจเต็มสูบ ลุ้นยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปีนี้ทะลุเป้า 1,000 ลบ.
- พ.ย. ๒๕๖๗ SGF ผงาด!! เตรียมล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง หลังรวมหุ้นลดพาร์ และกำไรไตรมาส 2/61 ทะยาน มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปั๊มยอดสินเชื่อสิ้นปีนี้ทะลุ 1000 ล้านบาท ตามแผน
- พ.ย. ๒๕๖๗ Gossip News: SGF ซุ่มเงียบ รายได้โต 32% QoQ กำไร Q3 ทะลัก 124 ล้านบาท