กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
"มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง" ประกาศความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก โชว์รายได้พีเจ้น ปี 2546 รับยอดขายกว่า 170 ล้านบาท
มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง เผยยอดขายพีเจ้น เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 10% ครองแชมป์ตลาดด้วยส่วนแบ่ง 52% ของตลาดบนและกลาง เตรียมกลยุทธ์แนวรุก รักษาความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบการตลาดกว่า 30 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มยอดอีก 20%
นายสุเมธ เลิศสุมิตรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวถึง ภาพรวมของผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กในปัจจุบันว่า มีการแข่งขันสูงและยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยมีมูลค่าตลาดรวมถึง 520 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาด Premium 37%, Standard 25%, และ Economy 38% ทั้งนี้ในส่วนของ Pigeon จะทำตลาดอยู่ในกลุ่ม Premium และStandard เป็นหลัก และเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 52% โดยยอดขายของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก Pigeon ในปี 2546 คิดเป็น 170 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 10%
ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก Pigeon นั้นแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. ผลิตภัณฑ์จุกนมและขวดนม
2. ผลิตภัณฑ์ Mother Care และ
3. ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้นำเข้า
จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนโยบายของบริษัทฯ เน้นการทำตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mother Care เป็นหลัก เนื่องจากมีการเติบโตแบบ Double Digit มาโดยตลอด อีกทั้งผู้บริโภคมีความต้องการใช้สินค้าประเภทนี้อย่างต่อเนื่องและบริโภคสินค้ากลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นหลัก ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบของบริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและคุณภาพของสินค้าจนได้รับการยอมรับและผ่านมาตรฐานระดับโลกจนสามารถผลิตสินค้าภายใต้ชื่อแบรนด์ Pigeon ส่งไปจำหน่ายยังหลายประเทศทั่วโลก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็กที่อยู่ภายใต้การจัดจำหน่ายของบริษัทได้แก่ จุกนมและ ขวดนมPigeon แผ่นซับน้ำนม Pigeon ผ้าเช็ดทำความสะอาดผิว Baby Wipes โดยที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ Pigeon ได้รับความไว้วางใจเรื่องคุณภาพจากผู้บริโภคจนสามารถครอง ความเป็นผู้นำตลาดมาเป็นเวลากว่า 30 ปี และในปีนี้บริษัทฯ จะเพิ่มกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ เข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายของยอดขายรวมในปีนี้อีก 20%
นายนิรามัย ลักษณานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย บริษัท มุ่งพัฒนามาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า ถึงแม้ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก Pigeon จะเป็นผู้นำตลาด แต่บริษัทฯ ก็มิได้นิ่งนอนใจ ยังคงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยทางบริษัทฯ ได้มีการเตรียม Re-Positioning Brand ให้มีความทันสมัยกว่าในอดีต เพื่อตอบโจทย์กลุ่มแม่ที่มี Lifestyle ที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคาจากคู่แข่งในตลาด พร้อมกับการทำกิจกรรมการตลาดเพื่อรักษาการรับรู้ของตราสินค้าในกลุ่มผู้บริโภคเดิม และมุ่งมั่นขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยในปีนี้ได้จัดสรรงบประมาณการตลาด ซึ่งรวมการโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ จำนวน 30 ล้านบาท และได้รุกช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าไปที่กลุ่ม โมเดิร์นเทรด และคอนวีเนี่ยนสโตร์ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงสินค้าได้สะดวกขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าอีกทางหนึ่งขณะเดียวกันก็มีกิจกรรมการตลาดอื่นๆ เข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่องทั้งปี อาทิ การจัดโปรโมชั่นร่วมกับคู่ค้า การทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดขาย การแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ตามสถานที่ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าทั้งหมดนี้จะทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก ของบริษัทเติบโตขึ้นอีก 20% ในปีนี้
"Core Business ของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับแม่และเด็กนั้น การแข่งขัน ต้องอยู่ที่คุณภาพของสินค้า เนื่องจากผู้ใช้สินค้าจะเป็นกลุ่มเด็กทารกแรกเกิดจนถึง 3 ปี ดังนั้นหากแนวโน้มของตลาดมีการใช้สงครามราคาเพียงอย่างเดียว ย่อมมีผลกระทบต่อคุณภาพของสินค้า อย่างแน่นอน ทั้งนี้ในส่วนของพีเจ้นจะเน้นการแข่งขันด้านคุณภาพของสินค้าเป็นหลักในการทำตลาด" นายนิรามัยกล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ศุภาดา ใจดี และชยภัค ลายสุวรรณ
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
0-693-7835-8 ต่อ 33,36--จบ--
-นท-
- พ.ย. ๒๒๘๔ อนันดาฯ จับมือ แอร์เอเชีย ร่วมผ่านวิกฤตโควิด-19 ผ่านหลักสูตร “2nd Job 2nd Chance” เปิดโอกาสเรียนรู้อสังหาฯ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อไป
- พ.ย. ๑๒๖๙ อนันดาฯ เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC”
- พ.ย. ๒๕๖๗ อนันดาฯ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC” พร้อมส่งมอบ 5 โครงการพร้อมอยู่ ครบทุกเซ็กเมนต์