กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ (ทส.) ประกาศลั่น 1 เม.ย.นี้ เตรียมลงพื้นที่พร้อมผู้บริหารดำเนินการผู้มีอิทธิพลบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศ ชี้ชัดพบภาคเหนือ ที่จ.เชียงใหม่ ถูกบุกรุกมากสุด 10,000 ไร่ พร้อมเตือนผู้กระทำความผิดหยุดกระทำ
นายปลอดประสพ สุรัสวดี ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่าสืบเนื่องมาจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมกับตำรวจป่าไม้ ไปตรวจสอบพื้นที่ป่าที่ถูกเผาเป็นการด่วน เนื่องจากเห็นป่าถูกเผามากผิดปรกติ เพราะไม่เชื่อว่าเป็นการไหม้จากธรรมชาติ หากพบว่ามีนายทุนที่บุกรุกโดยการเผาป่า จึงสั่งให้ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด และหากจะต้องยึดทรัพย์ตามกฎหมาย ป.ป.ง.ก็ต้องทำ เพราะไม่เช่นนั้นป่าอาจหมด
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวต่อว่ากรณีดังกล่าวกระทรวงฯได้ดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และจะเร่งดำเนินการทำแผนป้องกันและปราบปราม โดยเริ่มลงพื้นที่ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป และจะเริ่มในพื้นที่ป่าภาคเหนือเป็นแห่งแรก
สำหรับการสำรวจพื้นที่ป่าไม้ด้วยภาพถ่ายทางอากาศของกองสารสนเทศ กรมป่าไม้ ทำให้ทราบว่า จังหวัดที่มีการบุกรุกเผาป่าจำนวนมาก จังหวัดอุดรธานี มีการบุกรุก 6,615 ไร่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี บุกรุก 9,764 ไร่ จังหวัดกาญจนบุรี มีการบุกรุก 2,966 ไร่ และ จังหวัดเชียงใหม่ 10,046 ไร่ และการสำรวจทั่วประเทศในระยะเวลา 1 ปี คาดว่ามีพื้นที่ป่าไม้ถูกบุกรุกประมาณ 100,000 ไร่
ทั้งนี้ ปัญหาที่พบกรณีการเผาป่ามี 2 ประการคือ 1. การเผาเพื่อต้องการที่ดิน ไม่ว่าจะมาจากผู้มีอิทธิพล หรือการเผาของกลุ่มคนจน หรือแม้แต่การเผาเพื่อต้องการล่าหมู่ป่า และ 2.การเผาที่เกิดจากแนวสวนที่อยู่ริมป่า เป็นการเผาเพื่อทำแนวกันไฟระหว่างแนวสวนและแนวป่า โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดจากไฟป่าจะทำลายพื้นที่ป่าไม้สาธารณะ ซึ่งกรณีดังกล่าวจะพบมากในขณะนี้ โดยเฉพาะเขตพื้นที่ภาคเหนือ
"มาตรการต่อไปสำหรับการจับกุมผู้ที่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้คือ การลงพื้นที่เพื่อสำรวจอย่างจริงจัง และในสัปดาห์หน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงฯ และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จะลงพื้นที่ตรวจในแต่ละจังหวัดที่พบสถิติการบุกรุกมาก ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศแล้วกว่า 500 คน และเชื่อว่าจะสามารถหยุดยั้งผู้ที่ทำการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ได้ จึงขอเตือนผู้กระทำความผิดในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพล หรือผู้ที่ยากจนที่บุกรุกเพื่อได้มาซึ่งที่ดินของสาธารณะ เมื่อจับได้จะดำเนินการอย่างไม่ละเว้น และจะขยายผลการสอบสวนไปจนถึงต้นตอของผู้สั่งการ" นายปลอดประสพ กล่าว
สำหรับมาตรการที่จะดำเนินการต่อไป เมื่อเข้าไปตรวจพบพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายมากแล้ว จะเร่งเข้าไปฟื้นฟูเพื่อรองรับกับช่วงฤดูฝน โดยการปลูกป่าเสริม เพราะหากรอให้ต้นไม้ เช่น ต้นไผ่ ขึ้นเองตามฤดูกาล คงต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน--จบ--
-นท-