กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--โอเอซิส มีเดีย
"ประชัย" ออกโรงทักท้วง "ดร.สมคิด" ในฐานะขุนคลัง กับนายกฯ "ทักษิณ" กรณีคณะผู้บริหารแผนเสนอให้ลดทุนทีพีไอ ย้ำชัดหากรัฐบาลไฟเขียว ถือว่าเป็นการปล้นประชาชน พร้อมเตรียมยื่นขอความเป็นธรรมจนถึงศาลฎีกา
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ในฐานะผู้บริหารลูกหนี้ของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด(มหาชน) หรือทีพีไอ เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากคณะผู้บริหารแผนพื้นฟูกิจการทีพีไอชุดที่มีพล.อ.มงคล อัมพรพิสิฎร์ เป็นประธาน จะเสนอแผนปรับโครงสร้างทางการเงินของทีพีไอ โดยการลดทุนทีพีไอนั้น ตนเห็นว่า เป็นการปล้นประชาชนที่เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยครั้งที่สอง เพราะในครั้งแรกคณะกรรมการเจ้าหนี้ทีพีไอ ได้ส่งบริษัท เอ็ฟเฟคทีฟ แพลนเนอร์ส จำกัด(อีพีแอล)เข้ามาแปลงดอกเบี้ยค้างชำระไปแล้วในราคาที่ไม่เป็นธรรม 5.50 บาทต่อหุ้น ทั้ง ๆ ที่มูลค่าของทีพีไอราคา 20 บาทต่อหุ้น"การเสนอลดทุนทีพีไอครั้งนี้ของคณะผู้บริหารแผนฯ ถือว่าเป็นการปล้นทีพีไอรอบที่ 2 ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นนโยบายของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และไม่คิดว่าจะเป็นดำริของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องดังกล่าวหากเป็นการกระทำของรัฐบาลชุดนี้จริง ถือว่าเป็นการปล้นประชาชนผู้ถือหุ้นรายย่อย"
นายประชัย กล่าวต่อว่า ผลประกอบการทีพีไอ ในระหว่างเดือนมกราคม-กุมพาพันธ์ และมีนาคม 2547 ปรากฏว่า มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) จำนวน 1,674 ล้านบาท,จำนวน 1,531 ล้านบาทและกว่า 1,500 ล้านบาทตามลำดับหรือในปี 2547 ทั้งปี ทีพีไอจะมี EBITDA จำนวนทั้งสิ้นกว่า 17,000 ล้านบาท ซึ่งเห็นได้ว่า ธุรกิจของทีพีไอมีผลประกอบการที่ดี จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องลดทุน และมีมูลค่าหุ้นราคาหุ้นละ 22 บาท โดยใช้วิธีคำนวณจากกระแสเงินสดส่วนลด (DCF)
อย่างไรก็ตาม การเสนอแผนลดทุนทีพีไอ ไม่ใช่เรื่องทำได้โดยพลการ ตนในฐานะผู้บริหารของลูกหนี้ จะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด โดยจะยื่นคำร้องคัดค้านแผนการลดทุนไปที่ประชุมเจ้าหนี้ และศาลล้มละลายกลาง กับทั้งจะต้องต่อสู้กันยืดเยื้อถึงขั้นศาลฎีกาอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับความเสียหาย--จบ--
-นห-