ฟิทช์ คงเครดิตพินิจเป็นลบ สำหรับ ธนาคารเอเชีย ระหว่างรอผลสรุปการขายหุ้นในธนาคารเอเชียให้แก่ธนาคาร UOB ของสิงค์โปร์

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ คงอันดับเครดิตสากลของธนาคารเอเชียระยะยาวที่ 'BBB' ระยะสั้นที่ 'F3' ความแข็งแกร่งทางการเงินที่ 'D' และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ระดับ '2'โดยมีเครดิตพินิจเป็นลบ ในขณะเดียวกัน บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ก็คงอันดับเครดิตในประเทศ (National Rating) ของธนาคารระยะยาวไว้ที่ 'AA+(tha)', ระยะสั้นที่ 'F1+(tha)' และอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ 'AA(tha)'โดยมีเครดิตพินิจเป็นลบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลสรุปการขายหุ้น 81% ในธนาคารเอเชียโดย ธนาคาร ABN AMRO
เมื่อวานนี้ ธนาคาร ABN AMRO ได้ทำสัญญากับธนาคาร United Overseas Bank ของสิงค์โปร์ เพื่อที่จะเจรจาและสรุปการซื้อขาย หุ้นของธนาคารเอเชียที่ถือโดย ธนาคาร ABN AMRO ถ้าการเจรจาซื้อขายสำเร็จลุล่วง ผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ ธนาคารเอเชีย มีแนวโน้มที่จะเป็นกลาง เพราะ อันดับเครดิตของธนาคาร UOB อยู่ในระดับเดียวกับ ธนาคาร ABN AMRO ที่ 'AA-' ตามการจัดอันดับเครดิตสากล อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเครดิตพินิจ ฟิทช์จะทำการพิจารณาถึงการสนับสนุนทางด้านเงินทุน, สภาพคล่องและการดำเนินงานของ ธนาคารเอเชีย โดยธนาคาร UOB
ธนาคารเอเชีย เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 9 ในประเทศไทย โดยมี ส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 3% ของสินเชื่อ และเงินฝาก และมีสาขาทั้งหมด 120 สาขา ธนาคาร ABN AMRO เข้าถือหุ้นใหญ่ใน ธนาคารเอเชีย ในปี 2541 ธุรกิจหลัก ของ ธนาคารเอเชีย เน้นทางธุรกรรมธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยและบริษัทขนาดเล็ก, การให้กู้เพื่อการค้าและการจัดการเงินสด ธนาคาร ABN AMRO ประกาศเจตนารมณ์ในการขายหุ้นใน ธนาคารเอเชีย หลังจากที่ทางการประกาศแผนแม่บทพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งกำหนดให้ธนาคารต่างประเทศเลือกดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่านสถาบันเดียวซึ่งอาจทำโดยผ่านสาขาหรือผ่านบริษัทย่อยซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ในปัจจุบัน ธนาคาร UOB ถือหุ้นจำนวน 79% ใน ธนาคาร ยูโอบีรัตนสิน ซึ่งธนาคารยูโอบีรัตนสิน มีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของ ธนาคารเอเชีย และมีสัดส่วนทางการตลาดประมาณ 1% อันดับเครดิตสนับสนุนของธนาคารยูโอบีรัตนสินอยู่ที่ระดับ '2'
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 'AAA' ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2263 9963--จบ--
-นท-