กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--เอไอเอส
คณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย ร่วมกับเอไอเอส จัดทำโครงการ "บัตรเติมเงิน วัน-ทู-คอล! เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย" มูลค่า 300 บาท รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายบัตรมอบให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
นายวัลลภ เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย กล่าวถึง แผนงานสนับสนุนโครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาฯ ว่า จากการที่คณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย มีบทบาทและหน้าที่สำคัญ ในการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนกิจการของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ให้บรรลุเป้าหมายในการจัดหาโลหิตบริจาคให้มีปริมาณเพียงพอและปลอดภัยสำหรับการใช้รักษาผู้ป่วย มีการกำหนดนโยบาย และแผนงาน ในดำเนินงานจัดหาโลหิตบริจาคอย่างต่อเนื่อง จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์งานด้านการจัดหาโลหิตบริจาคอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ประชาชนได้ทราบและเห็นความสำคัญถึงประโยชน์ของการบริจาคโลหิตและบริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้นนั้น
ดังนั้น ในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมายุครบ 6 รอบ ในปี 2547 คณะกรรมการจัดหาฯ จึงได้ร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จัดโครงการ "เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ร่วมใจมาบริจาคโลหิต" ซึ่งต้องมีการดำเนินงานจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล ตั้งเป้าจัดหาโลหิตบริจาคทั่วประเทศให้ได้ปีละ 1,600,000 ยูนิต และเพิ่มจำนวนผู้บริจาคโลหิตที่บริจาคปีละ 4 ครั้ง ,3 ครั้ง และ 2 ครั้ง ให้ได้ร้อยละ 10 , ร้อยละ 15 และร้อยละ 30 ของจำนวนผู้บริจาคโลหิตทั้งหมด ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงต้องมีการดำเนินงานจัดหารายได้สนับสนุนโครงการฯ ด้วยการร่วมกับ เอไอเอส จัดทำโครงการ "บัตรเติมเงิน วัน-ทู-คอล! เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย" เพื่อเป็นกิจกรรมเฉลิมฉลองในวโรกาสดังกล่าว ระยะเวลาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2547 และได้ขอพระราชทานอัญเชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 ประดับบนบัตรเติมเงินดังกล่าว อีกทั้ง ได้ขอความร่วมมือในการจำหน่ายบัตรเติมเงินดังกล่าวไปยังธนาคาร สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่เป็นหน่วยรับบริจาคโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
แพทย์หญิงรัชนี โอเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่ คณะกรรมการจัดหาฯ ได้จัดโครงการหารายได้เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานบริการโลหิต ในโครงการ "เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาฯ ด้วยการจัดโครงการ บัตรเติมเงิน วัน-ทู-คอล! ฯนั้น เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการดำเนินงานบริการโลหิต โดยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ นั้นมีภารกิจหลัก คือ การจัดหาโลหิตจากการบริจาคให้มีปริมาณเพียงพอและปลอดภัยสูงสุด เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ โดยการมีนโยบายหลักว่า "โลหิตทุกยูนิตต้องได้จากการบริจาค โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน" ซึ่งในแต่ละปีจะมีสถิติการขอใช้โลหิตเพิ่มขึ้นปีละ 8 -10 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนการจัดหาผู้บริจาคโลหิตให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อสำรองโลหิตสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บจากกรณีต่างๆ หรือมีความต้องการโลหิตอย่างเร่งด่วน หรือต้องใช้โลหิตเป็นจำนวนมากเพื่อเป็นการช่วยชีวิตของผู้ป่วย โดยตั้งเป้าหมายในการจัดหาโลหิตจากผู้บริจาคทั่วประเทศให้ได้ปีละ 1,600,000 ยูนิต ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปีละ 480,000 ยูนิต ซึ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา และในส่วนภูมิภาค ปีละ1,200,000 ยูนิต ดังนั้น การดำเนินงานดังกล่าวจำเป็นต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับกับการขยายงานที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้อำนวยการสำนักบริหารการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสได้ตระหนักถึงความเป็นบริษัทคนไทย และมุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีสู่สังคมด้วยการดำเนินโครงการเพื่อสังคม รวมทั้งให้การสนับสนุนองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ เพื่อตอบแทนสังคม โดยทางบริษัทฯ ได้มีโครงการร่วมกับสภากาชาดไทยอย่างต่อเนื่อง อันได้แก่ 1. โครงการเฉลิมพระเกียรติพัฒนาชีวิตแม่และครอบครัวเพื่อสุขภาพทั่วหน้า เพื่อช่วยเหลือการพัฒนาและดูแลสุขภาพชีวิตแม่และเด็กอย่างครบวงจร 2. โครงการเอไอเอส สานรักวันแม่...แด่สภากาชาดไทย สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์มะเร็งเต้านมและจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อนำไปบำบัดรักษาผู้ป่วยสตรีโรคมะเร็งเต้านม 3.โครงการรณรงค์ให้พนักงานบริจาคโลหิต ให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีๆละ 3 ครั้ง 4. การส่ง SMS เชิญชวนผู้บริจาคโลหิตที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในเครือข่ายเอไอเอส ร่วมบริจาคโลหิตในกรณีจัดหาโลหิตเร่งด่วน
ในปี 2547 เอไอเอส จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย จัดโครงการ "บัตรเติมเงิน วัน-ทู-คอล! เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา สมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย" โดยจัดพิมพ์บัตรฯ มูลค่า 300 บาท มีทั้งหมด 4 สีได้แก่ สีทอง, นาค, เงิน และขาว ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 31 สิงหาคม 2547 ที่ สำนักงานบริการเอไอเอสทุกสาขา และธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยธนาคาร และสถาบันการศึกษาต่างๆ รายได้จากการจำหน่ายบัตรส่วนหนึ่งจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานบริการโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ต่อไป เอไอเอส ในฐานะบริษัทคนไทยมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม บนความเชื่อมั่นว่า การที่ทุกคนในสังคมได้รับความสุข จะมีส่วนพัฒนาสังคมและพัฒนาประเทศไทยให้แข็งแรงต่อไป
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โทร. 0-2256-4300--จบ--
-นห-
- ธ.ค. ๒๕๖๗ เครือซีพี ขอบคุณคนไทยไม่ทิ้งกัน ร่วมบริจาคโลหิตช่วยสังคมฝ่าวิกฤติโควิด-19
- ธ.ค. ๒๕๖๗ เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯ สนับสนุนการจัดงานเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ ครั้งที่ 21ประจำปี 2562
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ จัดทอดผ้าป่า “มหากุศล สภาผู้สูงอายุ” ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุทั่วประเทศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16