กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ซีเมนส์
ซีเมนส์ใช้เวลาเกือบ 5 ปีสร้างธุรกิจไอทีโซลูชั่นเพื่ออุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิช่วยเพิ่มยอดสั่งซื้อในขณะนี้สูงกว่าสองเท่าของยอดสั่งซื้อในปีที่ผ่านมา
ดร. ไค ชูลส์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มซีเมนส์โซลูชั่นและการบริการเพื่ออุตสาหกรรม (I&S) กล่าวในงานแถลงข่าววันนี้ (13 พฤษภาคม) ณ โรงแรมอมารีเอเทรียมว่า ภายในระยะเวลา 4 เดือนนับจากวันเริ่มปีงบประมาณปีนี้คือในเดือนตุลาคม 2546 แผนกไอที แพลนท์ โซลูชั่น (IT Plant Solution Division) ได้รับยอดสั่งซื้อไอทีโซลูชั่นสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมสองสัญญาจากกลุ่มกิจการร่วมทุน ไอดีเอส และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ สองสัญญาประกอบด้วยโครงการจัดหาและติดตั้งระบบควบคุมบริหารจัดการการจัดจ่ายไฟฟ้าแรงดันต่ำ (ระบบ SCADA) ของสถานีไฟฟ้าย่อย 14 แห่ง โดยมีการเชื่อมโยงมิเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 4,500 มิเตอร์เข้าด้วยกัน ทำให้โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเป็นโครงการที่มีการเชื่อมโยงจำนวนมิเตอร์ไฟฟ้าจำนวนมากที่สุดเข้าเป็นระบบเดียว และโครงการจัดหาและติดตั้งระบบตรวจจับและควบคุมการรั่วของน้ำมันสำหรับโครงการก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน
ก่อนหน้านี้ ซีเมนส์ได้ลงนามในสัญญาจัดหาและติดตั้งระบบบริหารและสารสนเทศของท่าอากาศยาน (AIMS) มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท
ดร.ชูลส์กล่าวว่า นอกจากสองโครงการที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซีเมนส์ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมในโครงการระบบรถไฟฟ้ามหานครด้วย ดังนั้น จนถึงขณะนี้ ทางแผนกไอที แพลนท์ โซลูชั่นมียอดสั่งซื้อรวม 230 ล้านบาท ในขณะที่ทั้งปีที่ผ่านมา มียอดรายได้สั่งซื้อไอทีโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมเพียง 112 ล้านบาท
อนึ่ง ซีเมนส์ได้ก่อตั้งแผนกไอที แพลนท์ โซลูชั่น ขึ้นในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มซีเมนส์โซลูชั่นและการบริการเพื่ออุตสาหกรรม (I&S) ในปี 2542 เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอทีโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ธุรกิจพลังงาน และสิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ โดยในปีแรกของการก่อตั้งมียอดขายรวม 18 ล้านบาท
ด้านดร. โธมัส โมเซอร์ หัวหน้าแผนกไอที แพลนท์ โซลูชั่น บริษัท ซีเมนส์ เอจี กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในขณะที่ ปัจจุบันการเพิ่มปริมาณผลผลิตในกระบวนการผลิตด้านอุตสาหกรรมโดยใช้ระบบอัตโนมัติ ซึ่งเราถือว่าเป็นสุดยอดสำหรับอุตสาหกรรมหลายๆประเภทกำลังมาถึงจุดที่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มศักยภาพ ทำให้เรามองเห็นโอกาสอย่างสูงที่จะเพิ่มผลผลิตโดยการนำไอทีโซลูชั่นมาใช้ในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ไอทีโซลูชั่นเหล่านี้ จะช่วยลูกค้าด้านการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นไปได้ ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด และดำเนินการได้ตลอดกระบวนการผลิต ดังนั้น จากจุดนี้เองทำให้ความต้องการไอทีโซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมในตลาดทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกเพิ่มขึ้นทุกปี"
ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจซีเมนส์โซลูชั่นและการบริการเพื่ออุตสาหกรรม (I&S) ได้ที่ www.siemens.co.th--จบ--
-นท-