กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) รายงานผล ประกอบการรวมของบริษัทฯ บริษัทย่อย และบริษัทร่วม (บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด บริษัท ราชบุรี พลังงาน จำกัด บริษัท ราชบุรี แก๊ส จำกัด บริษัท ราชอุดม เพาเวอร์ จำกัด บริษัท ราชบุรี อัลลายแอนซ์ จำกัด และบริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด) งวดประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2547 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2547 ฉบับสอบทานแล้ว มีกำไรสุทธิ 1,534.977 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.06 บาท ลดลงร้อยละ 3.56 คิดเป็นเงิน 56.638 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2546
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2547 บริษัทฯมีรายได้รวม 9,710.553 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เป็นเงิน จำนวน 1,241.183 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งประกอบด้วย รายได้จากค่าขายไฟฟ้ารวม จำนวน 9,578.933 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับ 31.415 ล้านบาท ส่วนได้ เสียในกำไรสุทธิจากการเข้าลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม เป็นจำนวน 93.194 ล้านบาท และราย ได้อื่นๆ อีกจำนวน 5.083 ล้านบาท
ส่วนต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมเป็นจำนวน 7,853.679 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.92 คิดเป็นเงิน 1,516.073 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 1 ปี 2546 ประกอบด้วย ต้นทุนขายจำนวน 7,725.065 ล้าน บาท ค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารจำนวน 125.940 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 2.674 ล้านบาท ส่วนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้รวมจำนวน 321.897 ล้านบาท
นายบุญชู ดิเรกสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปีนี้ได้ปรับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากรายได้ค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment:AP) ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนต่ำกว่าไตรมาสที่1 ปีที่แล้ว เป็นเงิน 387.840 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.13 ซึ่งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับ กฟผ. ประกอบกับในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการขยายกิจการมากขึ้นจึงทำให้ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการ บริหารเพิ่มสูงขึ้นด้วย”
สำหรับ ดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ มีจำนวน 313.212 ล้านบาท ลดลงเป็นจำนวน 216.156 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 1 ปี 2546 ซึ่งมีดอกเบี้ยจ่าย 529.368 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40.83 เนื่องจาก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการแก้ไขสัญญาเงินกู้ ครั้งที่ 2 จาก MLR —1.5%เป็น MLR
—2.5 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาส 1 ปี 2547 อยู่ที่ระดับ 3.25%
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทลงทุนธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าราย ใหญ่ที่สุดของประเทศ ปัจจุบันมีการลงทุนในบริษัทย่อย 5 แห่ง และบริษัทร่วม 2 แห่ง ได้แก่
บริษัทย่อย
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 99.99 เป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าราชบุรีกำลัง ผลิตรวม 3,645 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี บริษัท ราชบุรีแก๊ส จำกัด ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 37.5 ในบริษัท ไตรเอนเนอจี้ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ขนาดกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ดำเนินธุรกิจลงทุนในโครงการ โรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นเชื้อเพลิง
บริษัท ราชอุดม เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 99.99 ดำเนินธุรกิจลงทุนในบริษัท ราชบุรี อัลลายแอนซ์ จำกัด เพื่อหาโอกาสลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าในอนาคต บริษัท ราชบุรี อัลลายแอนซ์ จำกัด ปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ในการลงทุนใน บริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด
บริษัทร่วม
บริษัท ไตร เอนเนอจี้ จำกัด เป็นผู้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ขนาด 700 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก และน้ำมันดีเซล เป็นเชื้อเพลิงสำรอง โดยบริษัทลง ทุนผ่านบริษัท ราชบุรี แก๊ส จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 37.5 บริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด เป็นผู้ลงทุนในโครงโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 1,400 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงหลัก และน้ำมันดีเซล เป็นเชื้อเพลิงสำรอง โดยบริษัทลง ทุนผ่านบริษัท ราชอุดม เพาเวอร์ จำกัด และบริษัท ราชบุรี อัลลายแอนซ์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 25--จบ--
-นท-
- พ.ย. ๒๕๖๗ ราช กรุ๊ป ประกาศกำไรไตรมาสแรก 1,741 ล้านบาท เตรียมรับรู้รายได้โครงการเบิกไพรโคเจนเนอเรชั่นในไตรมาส 2
- พ.ย. ๒๓๐๙ ราชบุรีโฮลดิ้ง เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)” มุ่งสู่บริษัทชั้นนำด้านพลังงานและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก
- พ.ย. ๒๕๖๗ ราชบุรีโฮลดิ้ง ประสบความสำเร็จจัดหาเงินกู้ 222 ล้านเหรียญสหรัฐ เดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเรียว ในอินโดนีเซีย มั่นใจเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เดือนพฤษภาคม 2564