ส.อ.ท. นำทัพนักธุรกิจเปิดตลาดการค้าการลงทุนยูเครนรัสเซีย หวังเพิ่มมูลค่าการค้าแตะ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามนโยบายรัฐ

พุธ ๒๖ พฤษภาคม ๒๐๐๔ ๑๔:๒๔
กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--ส.อ.ท.
ส.อ.ท.เดินหน้าสานสัมพันธ์การค้านักธุรกิจยูเครน รัสเซีย เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าอุตสาหกรรมเหล็ก น้ำตาล อาหาร ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนหวังให้เป็นประตูกระจายสินค้าไทยเจาะตลาดกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช CIS ในอนาคต
นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยมีนโยบายสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยขยายการส่งออกสินค้าและเพิ่มสัดส่วนการลงทุนไปยังประเทศคู่ค้าใหม่ๆ เพื่อทดแทนตลาดเดิมที่ขณะนี้มีภาวะการแข่งขันสูง อีกทั้งบางแห่งผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญอุปสรรคการค้าจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (NTB) ในรูปแบบต่างๆ นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นว่าเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงและได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการค้าระหว่างไทยกับประเทศในกลุ่มดังกล่าวให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2547 ดังนั้น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงได้จัดโครงการนำนักธุรกิจระดับสูงซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำตาล กลุ่มอุตสาห-กรรมอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เดินทางเยือนสาธารณรัฐยูเครน และสหพันธรัฐรัสเซียเพื่อเยี่ยมคารวะผู้แทนภาครัฐบาลและภาคเอกชนระดับสูง ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - วันที่ 1 กรกฎาคม 2547 นี้ ซึ่งโครงการนำนักธุรกิจเยือน สาธารณรัฐยูเครนและสหพันธรัฐรัสเซียในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นการดำเนินกิจกรรมครั้งแรกภายหลังจากที่สภาอุต-สาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมรัสเซีย (Russian Union of Industrialists and Entrepreneurs - RUIE) และกับ Ukrainian League of Industrialist and Entrepreneurs เพื่อประสานความร่วมมือในการเพิ่มปริมาณการค้าการลงทุน การแลกเปลี่ยนสินค้า ข้อมูลทางวิชาการ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2546 และ วันที่ 10 มีนาคม 2547 ที่ผ่านมา ตามลำดับ
สำหรับวัตถุประสงค์หลักในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐยูเครน และสหพันธรัฐรัสเซียนั้น สภาอุต-สาหกรรมแห่งประเทศไทยมุ่งหวังที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองประเทศอันจะนำมาซึ่งการเอื้อประโยชน์ต่อการส่งเสริมการค้าและเพิ่มมูลค่าการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเดินทางครั้งนี้ยังจะเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศทั้งสองต่อประเทศไทยเพื่อให้เกิดคู่ค้าใหม่ๆ ขึ้น จนเกิดการสร้างเครือข่ายด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันของผู้ส่งออกไทยไปยังภูมิภาคยุโรปตะวันออกและประเทศในกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช หรือ CIS (Commonwealth of Independent States) อันประกอบไปด้วย รัสเซีย ยูเครน เบลารุส มอลโดวา คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เตริก์เมนิสถาน คีร์กิซสถาน ทาจิกิสถาน อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน และจอร์เจีย
ทั้งนี้ นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันแม้ว่าประเทศสหพันธรัฐรัสเซียจะเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของไทยในภูมิภาคยุโรปตะวันออกและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง แต่มูลค่าการค้าระหว่างกันของทั้งสองประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ คือ ในปี 2546 ไทยและสหพันธรัฐรัสเซีย มีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 845.2 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าส่งออกของไทยไปสหพันธรัฐรัสเซียส่วนใหญ่เป็น สินค้าในหมวดอุปโภคบริโภค ได้แก่ น้ำตาลทราย เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ข้าว อัญมณีและเครื่องประดับ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ขณะที่สินค้านำเข้าจากสหพันธรัฐรัสเซียที่สำคัญเป็นสินค้าอุตสาหกรรมและวัตถุดิบ ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ ปุ๋ย เคมีภัณฑ์ แร่ดิบ สำหรับสาธารณรัฐ ยูเครนซึ่งเป็นประเทศ คู่ค้าอันดับที่ 2 ของไทยในภูมิภาคยุโรปตะวันออกและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) (รองจากสหพันธรัฐรัสเซีย) พบว่า ในปี 2546 การค้าระหว่างไทยกับสาธารณรัฐยูเครนมีมูลค่า 256.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกไปยังสาธารณรัฐยูเครนที่สำคัญคือ น้ำตาลทราย รองเท้า เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผ้าผืน เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ ขณะที่สินค้านำเข้าที่สำคัญจากสาธารณรัฐยูเครน ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า น้ำมันดิบ สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ เคมีภัณฑ์ แร่ดิบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม
ดังนั้น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเห็นว่า ผู้ประกอบการไทยจะต้องเร่งพัฒนาการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้ขยายตัวเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสาธารณรัฐยูเครน มีความน่าสนใจเนื่องจากเป็นประเทศที่เป็นเมืองท่ามีทำเลในการคมนาคมขนส่ง เหมาะที่จะเป็นทั้งตลาดรองรับสินค้าและศูนย์กลางการขนส่งเชื่อมต่อกับประเทศในกลุ่ม CIS ต่างๆ สำหรับทางด้านประเทศสหพันธรัฐรัสเซียหลังจากที่เปลี่ยนเป็นประเทศเสรี-นิยมแล้ว ได้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจโดยลดการควบคุมของรัฐ ส่งผลให้เอกชนสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเสรีมากขึ้น และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยทั้งที่เป็นสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและบุคคลทั่วไป ได้เห็นภาพลู่ทางการค้าและการลงทุนในประเทศสหพันธรัฐรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น สภาอุตสาห-กรรมแห่งประเทศไทยจึงได้จัดการสัมมนา เรื่อง "ลู่ทางการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในรัสเซียและ CIS" ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม 2547 ระหว่างเวลา 9.00 - 12.00 น. ณ ห้องบอร์ดรูม1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาดังกล่าวจะได้รับฟังข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจกับสองประเทศดังกล่าวจาก นายสรยุตม์ พรหมพจน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมอสโก ในหัวข้อเรื่อง "ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศรัสเซีย และ CIS" และในหัวข้อเรื่อง "โอกาสทางการค้าและการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมไทยในรัสเซียและ CIS" จากนายวีระชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก และนายวัฒนะ คุ้นวงศ์ ที่ปรึกษาเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมอสโก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
แผนกประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โทร. 229-4255 ต่อ 122 และ 123 โทรสาร 229-4054--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version