ฟิทช์ประกาศอันดับเครดิตตั๋วแลกเงินของธนาคารธนชาติที่ 'A-(tha)'

พฤหัส ๐๓ มิถุนายน ๒๐๐๔ ๑๑:๕๒
กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์-กรุงเทพฯฯ/สิงค์โปร์-3 มิถุนายน 2547: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศที่ 'A-(tha)'(A ลบ (tha)) แก่ตั๋วแลกเงินไม่มีหลักประกันไม่ด้อยสิทธิอัตราดอกเบี้ยคงที่ จำนวน 1.2 พันล้านบาทของธนาคารธนชาติ ในขณะเดียวกันฟิทช์ ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคาร ระยะยาวที่ระดับ 'A-(tha)'(A ลบ (tha))แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ระยะสั้นที่ระดับ 'F2(tha)' อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ระดับ 'D'และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ระดับ '5' อันดับเครดิตเหล่านี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเงินกองทุน และศักยภาพในการทำกำไรในอนาคตของธนาคาร รวมถึงการสนับสนุนด้านการดำเนินงาน สภาพคล่อง และเงินกองทุนจากบริษัทเงินทุนธนชาติ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงหลักซึ่งได้แก่ การที่ธนาคารเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ธนาคารยังไม่มีเครือข่ายทางธุรกิจธนาคารและเครือข่ายทางด้านเงินฝากที่แข็งแกร่ง รวมถึงการถดถอยของคุณภาพสินทรัพย์
เมื่อพิจารณาปัจจัยบางตัว ธนาคารธนชาตินับว่าเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งแห่งหนึ่งในประเทศไทยเนื่องจากมีหนี้เสียที่ต่ำ ระดับสำรองหนี้สูญที่สูง และเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าความสามารถในการทำกำไรของธนาคารยังคงถูกจำกัดจากการที่ธนาคารเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจ ธนาคารธนชาติมีกำไรสุทธิที่ 420 ล้านบาทในปี 2546 เพิ่มขึ้นจาก 392 ล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย และเงินปันผลจากการลงทุน การเพิ่มขึ้นของกำไรจากการลงทุน การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและกำไรที่ได้จากการขายสินทรัพย์รอการขาย ผลการดำเนินงานของธนาคารในไตรมาสแรกของปี 2547 ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 26.3% เป็น 144 ล้านบาท จาก 114.6 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2546 เนื่องจาก การลดลงของ ต้นทุนการปล่อยสินเชื่อ และค่าเผื่อหนี้สูญแม้ว่าการเพิ่มขึ้นของการปล่อยสินเชื่อจะยังไม่มาก เครือข่ายทางธุรกิจและผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาติ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่ ธุรกิจเงินทุน (ซึ่งเปิดดำเนินงานมาเป็นเวลานานกว่า) ถูกโอนจากบริษัทเงินทุนธนชาติมายังธนาคาร
ถึงแม้ว่าในขณะนี้ธนาคารธนชาติจะมีระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ค่อนข้างต่ำและมีระดับการกันสำรองหนี้สูญที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับธนาคารอื่น กลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อเชิงรุกของกลุ่มบริษัทเงินทุนธนชาติ และระดับหนี้ที่ผ่านการปรับโครงสร้างของธนาคารธนชาติที่ยังคงมีอยู่มาก ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่คุณภาพของสินทรัพย์ของธนาคารอาจถดถอยลง และทำให้ธนาคารต้องกันสำรองเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2547 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท หรือ 5.7%ของสินเชื่อทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 655.6 ล้านบาท หรือ 2% ณ สิ้นปี 2545 ส่วนระดับสำรองหนี้สูญของธนาคารอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือน มีนาคม 2547 หรือ คิดเป็น 73.4 %ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
กลุ่มบริษัทเงินทุนธนชาติ คาดว่าจะทำการรวมกิจการธนาคารและเงินทุนไว้ที่ธนาคารธนชาติ ให้เสร็จสิ้นภายในปี 2547 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของทางการ แผนการควบรวมกิจการเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลอนุมัติแผนแม่บทพัฒนาสถาบันการเงินซึ่งส่งเสริมการควบรวมกิจการภายในภาคธุรกิจสถาบันการเงิน บริษัทเงินทุนธนชาติมีแผนในช่วงแรกที่จะโอนสินทรัพย์และหนี้สินส่วนใหญ่ ยกเว้นเงินลงทุนและลูกหนี้เช่าซื้อที่มีอยู่ในปัจจุบันไปยังธนาคารธนชาติ การโอนจะทำให้เงินกองทุนขั้นที่ 1 ของธนาคารธนชาติลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่งที่ 22.6% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2547 อย่างไรก็ตาม แผนเพิ่มทุนของธนาคารธนชาติ หลังจากการรวมกิจการ ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเงินทุนธนชาติ จะช่วยทำให้เงินกองทุนของธนาคารธนชาติแข็งแกร่งขึ้นมา การรวมกิจการและการดำเนินงานของกลุ่ม ยังจะทำให้ธนาคารธนชาติ เป็นองค์กรใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้นในระยะปานกลาง
หมายเหตุ : อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนของฟิทช์
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของฟิทช์วิเคราะห์ถึงสถานะทางการเงินของธนาคารเมื่อไม่มีปัจจัยช่วยเหลือภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง อันดับเครดิตสนับสนุนวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในการที่ทางธนาคารจะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น หรือ จากรัฐบาลถ้าทางธนาคารประสบปัญหา อันดับเครดิตนี้ไม่ใช่อันดับเครดิตของหนี้ แต่เป็นอันดับความแข่งแกร่งของสถานะการเงินของธนาคาร และระดับการสนับสนุนจากภายนอกซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีให้ทางธนาคารก็ได้
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์, Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง +852 2263 9963--จบ--
-นท-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version