กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งหาความปลอดภัยให้พะยูน

อังคาร ๑๕ มิถุนายน ๒๐๐๔ ๐๙:๐๕
กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เร่งหาความปลอดภัยให้พะยูนนายอุดม ปาติยะเสวี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลแและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ดำเนินโครงการวิจัยร่วมกันในการศึกษาเสียงพะยูน (Acoustic survey of Dugong dugon) ทั้งนี้เพื่อต้องการศึกษาพฤติกรรมของพะยูนจากเสียง และใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดการอนุรักษ์พะยูนในประเทศไทยโครงการวิจัยครั้งนี้มีกำหนดการวิจัยประมาณ 5 ปี โดยใช้พื้นที่บริเวณนอกชายฝั่งของ เกาะตะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง และบริเวณอ่าวมะขามป้อม อ.แกลง จ.ระยอง เป็นพื้นที่ทำการวิจัย ซึ่งวิธีการศึกษาวิจัยนั้นแบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการหย่อนไฮโดรโฟนจากเรือวิจัยลงไปใต้น้ำที่ระยะห่างจากฝั่งประมาณ 2-5 ก.ม.โดยไม่ต้องเข้าใกล้ฝูงพะยูน เพื่อดักฟังเสียงแล้วนำมาวิเคราะห์ รวมทั้งอาจมีการใช้เครื่องบินเล็กตรวจสอบจำนวนพะยูนในบริเวณพื้นที่ศึกษาด้วยสำหรับการศึกษาครั้งที่สองจะทำโดยการใช้อุปกรณ์ไฮโดรโฟน และหน่วยความจำที่เรียกรวมๆ ว่า data logger วางไว้ใต้น้ำเป็นจำนวน 10 เครื่อง ในระยะห่างกันเครื่องละประมาณ 100 เมตร โดยวางเป็นแนวตั้งฉากจากชายฝั่งของเกาะตะลิบงบริเวณอ่าวทุ่งจีน เป็นเวลา 10 วัน โดยได้ทำการทดลองไปแล้วเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสามารถบันทึกเสียงพะยูน และนำเสียงไปวิเคราะห์ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 6-8 เดือนจึงจะสรุปผลวิเคราะห์เบื้องต้นได้ “โครงการวิจัยการศึกษาเสียงพะยูนครั้งนี้ จะทำให้เราได้รู้ถึงพฤติกรรมของพะยูนมากขึ้นว่ามีการสื่อสารระหว่างกันหรือไม่ แต่ละเพศ วัย มีการเปล่งเสียงต่างกันหรือเปล่า ซึ่งหากแต่ละตัวมีเสียงต่างกันก็อาจนำมาประเมินจำนวนของพะยูนได้
นอกจากนั้นยังสามารถนำมาคำนวณความเร็วของพะยูน และยังสามารถนำมาประยุกต์เพื่อใช้ตรวจสอบติดตามพะยูน ตลอดจนตรวจหาพะยูนในเวลากลางคืนได้และที่สำคัญยังสามารถลดอัตราการตาย หรือการติดเครื่องมือประมงได้ โดยอาจมีการประยุกต์เอาไฮโดรโฟนไปติดเครื่องมือประมงชนิดที่มีความเสี่ยงต่อการที่พะยูนจะมาติด ซึ่งหากพะยูนเข้ามาใกล้ชาวประมงก็จะทราบและระมัดระวังในการใช้เครื่องมือ หรืออาจทำระบบอัตโนมัติให้ปิดเครื่องมือเมื่อพะยูนเข้าใกล้ เช่น ปิดปากโป๊ะก่อนที่พะยูนจะเข้าไป รวมทั้งอาจมีการปล่อยเสียงใต้น้ำให้พะยูนตกใจและว่ายเปลี่ยนทิศทางหนีไป
หากการศึกษาวิจัยครั้งนี้ประสบผลสำเร็จก็จะทำให้สัตว์ทะเลหายากของประเทศไทยที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 200 ตัว ได้รับความปลอดภัยและมีชีวิตรอดขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นอีกมากมาย” นายอุดม กล่าวในที่สุด
ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักส่งเสริมและเผยแพร่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
49 พระราม 6 ซอย 30 ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ 10400 http://www.deqp.go.th.
โทรศัพท์/โทรสาร: 0-2298-5852-3--จบ--
-นท-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ