ผู้ว่าฯอภิรักษ์ เตรียมจับมือเป็นพี่น้องต่างเมือง มุ่งด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว

อังคาร ๑๔ มิถุนายน ๒๐๐๕ ๑๔:๒๑
กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--กทม.
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว “พบกัน จันทร์ละหน คนกับข่าว” ครั้งที่ 174 เรื่อง นโยบายด้านการต่างประเทศของกรุงเทพมหานคร โดยมีคุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเกียรติแถลงข่าว ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ได้แต่งตั้ง ร้อยตำรวจเอก นิติภูมิ นวรัตน์ เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมีหน้าที่รับผิดชอบให้ คำปรึกษาแก่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญในภารกิจด้านการต่างประเทศ ทั้งในเรื่องของประสบการณ์ ตรง และแนวความคิดในนโยบายด้านการต่างประเทศ
ทั้งนี้ กทม. ได้แบ่งกรอบนโยบายด้านการต่างประเทศไว้ 3 ด้าน ดังนี้ 1. ส่งเสริมให้ กทม. มีความโดดเด่นในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน เนื่องจาก กทม. เป็นศูนย์กลางของการค้าขาย การลงทุนของประเทศ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการเน้นนโยบายในด้านเชิงรุกเท่าที่ควร จึงควรแต่งตั้งให้มีผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเข้ามารับผิดชอบดูแล เพื่อช่วยผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจการค้า การลงทุน ให้มากขึ้น ทั้งนี้ปัจจุบัน กทม. ได้ลงนามข้อตกลงในลักษณะบ้านพี่เมืองน้อง (Sister City) แต่อีกหลายเมือง ก็ยังไม่เคยมีกิจกรรมร่วมกัน ในอนาคตคาดว่าน่าจะมีการพิจารณาถึงความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ร่วมกับ กทม. ให้มากยิ่งขึ้น เช่น เมืองวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา เมืองมอสโคว์ สาธารณรัฐรัสเซีย เมืองปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น 2. ส่งเสริมให้ กทม. เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน ในภูมิภาคเอเชีย (Reginal Center) ทั้งนี้ต้องสร้างความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น ส่งเสริมและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง และส่งเสริมสภาพความเป็นเมืองน่าอยู่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติให้หันมาสนใจ กทม. มากยิ่งขึ้น 3. ด้านการท่องเที่ยว
โดยจะเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ในช่วงระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. — 1ก.ค. 48 ตนจะเดินทางไปร่วมกิจกรรม “สถาปนาความสัมพันธ์ไทย — จีน 30 ปี” ซึ่งไทย และจีน ถือว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ขณะนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่าง ๆ หลายด้าน เช่น ด้านภาษา มีการส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนภาษาจีนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร สำหรับการเดินทางในครั้งนี้จะมีการลงนามในสัญญาเป็นบ้านพี่เมืองน้องร่วมกับเมืองแต้จิ๋ว เพื่อให้มีการร่วมลงทุนทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และศิลปวัฒนธรรม สำหรับเมืองที่ยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญา คือ เมืองสิงคโปร์นับเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ กทม. จะมีการผลักดันให้มีความร่วมมือกันต่อไป
ร้อยตำรวจเอก นิติภูมิ กล่าวว่า จะผลักดันให้กทม. เป็นเมืองที่มีความมั่งคั่ง คือเน้นให้มีการลงทุนเข้ามาสู่ภายใน มิใช่ให้มีการกระจายทุนออกสู่ภายนอก อีกทั้งจะส่งเสริมให้ กทม. เป็นหนึ่งในเมืองน่าอยู่ เมืองน่าท่องเที่ยว และเมืองน่าลงทุน อีกทั้งจะมีการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าของไทย โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ กทม. เพื่อเป็นการกระจายสินค้าที่ตกค้าง และเป็นการกระจายรายได้ได้เป็นอย่างดี ภายใต้ชื่อ Bangkok One คาดว่าอีก 3 — 4 ปี กทม. จะเป็นศูนย์กลางการพัฒนาด้านเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
สามารถคลิกดูภาพข่าวได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ