กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--โฟร์อันเดรท พีอาร์
นายเปรมชัย นวาระสุจิตร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว เวเฟอร์ บิสกิต ลูกอมและช็อกโกแลต ภายใต้แบรนด์ แจ็ค แอนด์ จิล (Jack'n Jill) เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ได้ทำการเปลี่ยนโลโก้ แจ็ค แอนด์ จิลใหม่ เพื่อให้มีความทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ สำนักงานใหญ่ JG SUMMIT HOLDINGS, INC. ในประเทศฟิลิปปินส์ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวข้างต้น จะมีการดำเนินการพร้อมกันในทุกๆ ประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2547 เป็นต้นไป
"ผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตมากกว่า 20% ทุกปี สำหรับปีนี้คาดว่าผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ แจ็ค แอนด์ จิล (Jack'n Jill) นับตั้งแต่กลุ่มเวเฟอร์ "ทิวลี่" และ "โลซาน" กลุ่มคุกกี้ "ครีม-โอ" และ "ฟันโอ" และกลุ่มลูกอม "เอ็กซ์.โอ." "ไดนาไมท์" และ "ลัช" จะมีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย สำหรับผลประกอบการในปีนี้คาดว่ายอดขายน่าจะถึง 1,900 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 12% บริษัทฯ ยังคงมีนโยบายในการที่จะผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญ ด้วยมาตรฐานการผลิต GMP และ ISO9001:2000 ซึ่งบริษัทฯ ได้ผ่านการรับรองแล้วจาก BVQI"
นายสมนึก เปล่งสุริยการ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ได้เปิดเผยถึงการวางตลาดผลิตภัณฑ์ลูกอมใหม่ ภายใต้แบรนด์ เอ็กซ์.โอ. ซึ่งทางบริษัทฯ มองเห็นถึงโอกาสในการสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ ปัจจุบันตลาดลูกอมมีมูลค่ารวมประมาณ 2,800 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 เซกเมนท์ ประกอบด้วย ลูกอมเม็ดแข็ง 70% และลูกอมเม็ดองุ่น 30% ในส่วนของการเติบโตนั้นมีไม่มากนักค่อนข้างคงที่ แต่มีการแข่งขันกันสูงมาก เนื่องจากทุกยี่ห้อพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดของตัวเองไม่ให้ลดลงในสภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันสูง ลูกอมประเภทแฟชั่นจะมาเร็วและไปเร็วมาก ขณะที่ลูกอมประเภท Functional จะมียอดขายคงที่กว่า เช่น ฮอลล์, คลอเร็ท, เมนทอส
"บริษัทฯ เองก็ได้รับผลกระทบจากการแกว่งขึ้นลงของลูกอมประเภทแฟชั่น เนื่องจากลูกอมของบริษัทฯ ได้แก่ เอ็กซ์.โอ., ไดนาไมท์, ลัช ก็อยู่ในกลุ่มของลูกอมแฟชั่น ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้ทำการศึกษาและพัฒนาลูกอมประเภท Functional ขึ้นมาเพื่อให้ยอดขายคงที่มากขึ้น โดยวางแนวทางการพัฒนาลูกอมประเภทมินต์เป็นหลัก เนื่องจากกำลังได้รับความนิยมและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็มาลงตัวที่รสบลูมินต์ ภายใต้แบรนด์ เอ็กซ์.โอ. โดยมีคู่แข่งโดยตรงคือ คลอเร็ท" นายสมนึกกล่าว
ลูกอม เอ็กซ์.โอ. รสบลูมินต์ (X.O.Bule Mint) เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่บริษัทฯ ภูมิใจนำเสนอและวางตลาดในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเซีย โดยมีจุดขายที่เป็นลูกอมเม็ดสีฟ้าใส พร้อมเกล็ด Booster Beads (บูสเตอร์บีดส์) สีน้ำเงินในเม็ดล
กอม ช่วยทำให้รู้สึกถึงความหอม...เย็นถึงขีดสุด ตั้งแต่แรกอมจนหมดเม็ด นอกจากนี้ยังช่วยให้ลมหายใจหอม...สดชื่นยาวนานทุกที่ทุกเวลา เม็ดลูกอมขนาด 2.8 กรัม ราคา 2 เม็ด 1 บาท โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายหญิง-ชาย อายุ 15-25 ปีเป็นตลาดหลัก
ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดในช่วงแรก บริษัทฯ จะเน้นสร้างสินค้ารสชาติใหม่ให้เป็นที่รู้จักก่อนในขั้นต้น โดยเน้นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองซื้อ บริษัทฯ ตั้งงบโฆษณาประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายในช่วง 2 เดือนแรกไว้ถึง 20 ล้านบาท และวางแผนแนะนำและกระจายสินค้าไปยังร้านค้าทั่วประเทศภายใน 2 เดือนและแจกลูกอมตัวอย่างอีก 2 ล้านเม็ด
สำหรับหนังโฆษณาที่จะออกอากาศเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างความแรง ความน่าสนใจและให้เกิดการจดจำมากที่สุด บริษัทฯ ได้ตัดสินใจใช้ดารามาเป็นผู้แสดงนำในหนังโฆษณาชุดนี้ คือ นางสาวอารยา เอ ฮาร์เก็ต (ชมพู่) แสดงเป็นนางเอกสาวแสนสวยซึ่งถูกดึงดูดด้วย พลังลมหายใจ...หอมสดชื่น ของลูกอม เอ็กซ์.โอ.บลูมินต์ จากชายหนุ่มสุดหล่อซึ่งแสดงนำโดยนายแบบอิมพอร์ตเพื่อหนังโฆษณาชุดนี้โดยเฉพาะ บริษัทฯ มั่นใจว่าหนังโฆษณาชุดนี้จะเป็นที่ชื่นชอมและจดจำของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์ทางด้านการส่งเสริมการขายผนวกกับการผลักดันผ่านช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก
"คาดว่าตลาดลูกอมน่าจะมีการเติบโตขึ้นอีกแต่คงไม่มากนักประมาณ 5-10% เพราะผู้ประกอบการมีการทำตลาดและแข่งขันกันมากขึ้น มีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดตลอดเวลา ถ้าผู้ผลิตรายใดสามารถนำเสนอสินค้ารูปแบบใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคได้จะมีโอกาสเติบโตเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ บริษัทยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ และพร้อมาจะลงทุนเพิ่มเติมอีกเพื่อก้าวเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ในตลาดลูกอมภายใน 2-3 ปี"
รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง โทร. 01-913-1291--จบ--
--อินโฟเควสท์ (กภ)--