กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--คิธ แอนด์ คิน
“เหมราช” เผยวิธีบำบัดน้ำเสียแบบประหยัดพลังงาน ช่วยประหยัดค่าไฟเดือนละหลายแสนบาท คุยเป็นระบบที่ริเริ่มนำมาใช้ในนิคมอีสเทิร์นซีบอร์ดเป็นแห่งแรก ขณะที่ผู้ประกอบการแห่ขอซื้อพื้นที่ขยายกิจการเพิ่มขึ้น รองรับการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง
นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงปัญหาราคาน้ำมันแพงที่ส่งผลต่อการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมต่างๆในขณะนี้ว่า ในเบื้องต้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในระยะสั้นมากนัก ส่วนในระยะยาวเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถหามาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งจะเห็นได้จากการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในขณะนี้ที่ยังคงมีผู้ประกอบการให้ความสนใจลงทุนอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าเก่าขยายพื้นที่ด้วยการซื้อที่ดินในนิคมฯ เพิ่มขึ้น โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการลงทุน คือ การที่ภาครัฐให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายต่างๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
ส่วนปัญหาการใช้พลังงานในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราช ทั้ง 3 แห่ง ซึ่งนิคมฯ เป็นผู้ให้บริการทางด้านสาธารณูปโภคด้วยนั้น ทางนิคมฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือเป็นอย่างดี โดยพยายามรณรงค์ให้โรงงานต่างๆ ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด และล่าสุดยังได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียแบบใหม่ที่เรียกว่า “ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์” ซึ่งบำบัดน้ำเสียได้กว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มาใช้แทนระบบบำบัดแบบสระเติมอากาศซึ่งต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องปั่นเพื่อเติมออกซิเจนให้กับบ่อบำบัด เป็นแห่งแรกอีกด้วย
“ระบบบำบัดน้ำเสียแบบใหม่นี้มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเพียงแค่ค่าจ้างคนงานเพื่อดูแลความเรียบร้อยและกำจัดวัชพืช และค่าไฟฟ้าจากเครื่องสูบน้ำเสียมายังบ่อเท่านั้น ในขณะที่ระบบบำบัดน้ำเสียแบบเก่านั้นต้องเสียค่าไฟฟ้าหลายแสนบาทต่อเดือนสำหรับเครื่องปั่นเพื่อเติมออกซิเจนให้กับน้ำเสียในบ่อบำบัด” นายวิวัฒน์ กล่าว
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ จะเพิ่มคุณภาพของน้ำโดยฝังท่อน้ำเสียให้อยู่ใต้ดิน โดยภายในใต้ดินจะมีชั้นหิน กรวด ทราย เป็นตัวบำบัด และต่อท่อระบายอากาศขึ้นมาอยู่เหนือพื้นดิน โดยบนพื้นดินจะมีการปลูกพืชที่มีคุณสมบัติในการช่วยบำบัดน้ำเสีย คือ มีรากยาว และลำต้นกลวง เพื่อทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แสงแล้วเปลี่ยนเป็นก๊าซออกซิเจนลงไปในน้ำ เช่น ต้นพุทธรักษา, ธูปฤาษี และเบิร์ดออฟพาราไดซ์ ซึ่งเป็นพืชที่สามารถดูดซับไนโตรเจนและฟอสฟอรัสได้ดี ทำให้ในน้ำไม่มีสารดังกล่าว นอกจากนี้ยังเป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สามารถนำไปให้ชุมชน ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์พื้นเมือง เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนข้างเคียงหรือสามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานชีวมวลได้อีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คิธ แอนด์ คิน คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ โทร. 0-2663-3226 โทรสาร 0-2259-8943
อาภาภรณ์ กุหลาบศรี Mobile 0-9788-4868 e-mail : [email protected]จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ต้อนรับนิสิตจากจุฬาฯ และคณะผู้แทนจากสมาคมวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทยเยี่ยมชมโครงการ Water Reclamation และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ ร่วมเสวนาทิศทางการลงทุนในกลุ่ม CLMV
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ ต้อนรับคณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยมหิดลเข้าเยี่ยมชม