ธ.ไทยพาณิชย์ ประกาศผลประกอบการและฐานะการเงินไตรมาสสองของปี 2547 ก่อนการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอิสระ

อังคาร ๒๐ กรกฎาคม ๒๐๐๔ ๑๑:๑๔
กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ธ.ไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการและฐานะการเงินไตรมาสสองของปี 2547
ก่อนการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอิสระ
ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งผลประกอบการเบื้องต้นสำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2547 ก่อนการตรวจสอบโดย
ผู้สอบบัญชีอิสระ ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 11,727 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 5,971 ล้านบาท
ในงวดครึ่งปีแรกของปีก่อนเนื่องจากในครึ่งแรกของปีนี้ ธนาคารมีกำไรจากเงินลงทุนรวม 5,674 ล้านบาท โดยเป็นการขายหุ้น
บางส่วนในกิจการที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจการเงิน
สำหรับไตรมาสสองของปี 2547 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 4,869 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 6,858 ล้านบาท
ในไตรมาส 1/2547 เนื่องจากกำไรจากเงินลงทุนลดลงจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ
เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 2,895 ล้านบาทในไตรมาส 2/2546
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า "ผลประกอบการจากธุรกิจหลักในไตรมาสสอง
อยู่ในเกณฑ์ที่ดีและสอดคล้องกับนโยบายการเน้นการเจริญเติบโตภายหลังจากที่ธนาคารได้วางรากฐานผ่านโครงการปรับปรุง
ธนาคารที่ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 2 ปี โดยในครึ่งปีแรกธนาคารสามารถขยายสินเชื่อได้สูงถึง 55,052 ล้านบาทหรือ
ร้อยละ 10.9 ธนาคารยังคงรักษาระดับรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในระดับที่คงที่สม่ำเสมอ
ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการอื่นๆ เพิ่มขึ้นได้ดีเป็นไปตามเป้าหมาย"
ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ได้กล่าวถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่า
"ธนาคารจะดำเนินนโยบายมุ่งเน้นการเจริญเติบโตที่มีคุณภาพ ทั้งในธุรกิจหลักของธนาคาร และกลุ่มธุรกิจการเงิน
ไทยพาณิชย์ตามกลยุทธ์การเป็นสถาบันการเงินที่ครบวงจร"
รายละเอียดผลประกอบการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
1. รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ
ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจากดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสนี้ จำนวน 4,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น
169 ล้านบาท และ 290 ล้านบาทเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาส 2/2546 ตามลำดับ
ดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อปรับตัวดีขึ้น 618 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนเนื่องมาจากการขยายตัวของสินเชื่อมากขึ้น
ประกอบกับดอกเบี้ยรับจากการปรับโครงสร้างหนี้พิเศษประมาณ 140 ล้านบาท
ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับจากเงินลงทุนลดลงจากไตรมาสก่อนเป็นผลส่วนใหญ่จากการบันทึกเงินปันผลรับจากกองทุน
วายุภักษ์ในไตรมาสก่อน
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ปรับตัวดีขึ้นขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงเล็กน้อยทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ
(Net Interest Margin) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.53 ในไตรมาสก่อน เป็นร้อยละ 2.60 ในไตรมาสนี้
(ล้านบาท)
ไตรมาส ไตรมาส % qoq ไตรมาส % yoy
2/47 1/47 2/46
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล 6,423 6,262 2.6 7,053 -8.9
- เงินให้สินเชื่อ 5,226 4,609 13.4 5,521 -5.3
- รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน 208 259 -19.6 296 -29.7
- เงินลงทุน 988 1,395 -29.2 1,235 -20.0
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 1,509 1,518 -0.6 2,428 -37.9
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ 4,914 4,745 3.6 4,624 6.3
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ* 2.60% 2.53% 2.60%
*คำนวณโดยเฉลี่ยยอดคงค้าง ณ สิ้นไตรมาส
2. รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่มาจากธุรกิจหลักของธนาคารในไตรมาส 2/2547 มีจำนวน 2,251 ล้านบาท
ลดลง 107 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน เนื่องจากกำไรจากการปริวรรตลดลง 211 ล้านบาทจากการปรับปรุงรายการ
ทางบัญชีและในไตรมาสก่อนมีรายได้พิเศษจำนวนหนึ่ง ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 57 ล้านบาท
จากการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อทำให้รายได้จากการรับรอง รับอาวัลและค้ำประกันเพิ่มขึ้น ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียม
และบริการใหม่อื่นๆจากธุรกิจบัตร bancassurance และ cash management ยังอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง
(ล้านบาท)
ไตรมาส ไตรมาส % qoq ไตรมาส % yoy
2/47 1/47 2/46
ค่าธรรมเนียมและบริการ 1,863 1,806 3.2 1,382 34.8
- การรับรอง รับอาวัล และค้ำประกัน 223 162 37.1 146 53.0
- อื่นๆ 1,640 1,644 -0.2 1,236 32.7
กำไรจากการปริวรรต 323 534 -39.6 466 -30.8
รายได้อื่น 65 18 267.3 13 383.7
รวมรายได้จากธุรกิจหลัก 2,251 2,358 -4.5 1,861 21.0
กำไรจากเงินลงทุน 2,039 3,635 -43.9 76 2,579.7
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย/ร่วม 110 525 -79.0 235 -52.9
รวมรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 4,400 6,518 -32.5 2,172 102.6
ในไตรมาสนี้ กำไรจากเงินลงทุนลดลงจาก 3,635 ล้านบาทในไตรมาสก่อนเป็น 2,039 ล้านบาท
เนื่องจากมีการขายหุ้นน้อยลง โดยในไตรมาสนี้ ธนาคารยังคงดำเนินการขายหุ้นในบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
การเงินออกไป นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย/ร่วมลดลง 415 ล้านบาทจากไตรมาสก่อนเป็น 110 ล้านบาท
เนื่องจากการตั้งค่าใช้จ่ายค้างจ่ายของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งและเป็นไปตามภาวะตลาดหลักทรัพย์
โดยรวมแล้ว ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสนี้จำนวน 4,400 ล้านบาท ลดลง 2,118 ล้านบาท
จากไตรมาสก่อนซึ่งมีจำนวน 6,518 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2546 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
2,228 ล้านบาท จากกำไรจากเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น 1,963 ล้านบาท และรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 481
ล้านบาท ในขณะที่กำไรจากการปริวรรตลดลง 143 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย/ร่วมลดลง 125 ล้านบาท
3. ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย
ธนาคารมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสนี้ จำนวน 3,844 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39 ล้านบาทจาก 3,805
ล้านบาทในไตรมาสก่อน โดยมีรายละเอียดดังนี้
(ล้านบาท)
ไตรมาส ไตรมาส % qoq ไตรมาส % yoy
2/47 1/47 2/46
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน 1,225 1,427 -14.2 1,069 14.5
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ 917 741 23.8 707 29.7
ค่าภาษีอากร 283 270 4.7 284 -0.5
ค่าธรรมเนียมและบริการ 354 433 -18.3 402 -12.0
ค่าตอบแทนกรรมการ 39 10 291.1 10 291.9
เงินสบทบกองทุนเพื่อการฟื้นฟู 614 614 0 581 5.6
ค่าใช้จ่ายอื่น 412 310 32.8 248 66.6
รวมค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย 3,844 3,805 1.0 3,301 16.4
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงาน 53.6% 53.6% 50.0%
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานลดลง 202 ล้านบาทเป็น 1,225 ล้านบาทเนื่องจากในงวดก่อนมีการบันทึก
โบนัสพิเศษให้พนักงาน ขณะเดียวกันในงวดนี้มีการโอนพนักงานจากการยุบบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตและธุรกิจ
ด้านเทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งของธนาคาร ทำให้ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 176 ล้านบาทหรือร้อยละ 23.8 เป็นผลส่วนใหญ่
จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปรับปรุงตกแต่งสาขาทั่วประเทศของธนาคาร รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านระบบงาน
- ค่าภาษีอากรเพิ่มขึ้น 13 ล้านบาทเป็น 283 ล้านบาท
- ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 79 ล้านบาทเนื่องจากการยุบบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตมาเป็น
ส่วนหนึ่งของธนาคาร ทำให้ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
- ค่าตอบแทนกรรมการเพิ่มขึ้นจาก 10 ล้านบาทเป็น 39 ล้านบาทเนื่องจากมีการจ่ายโบนัสให้กรรมการ
ตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
- ค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้น 102 ล้านบาทเป็น 412 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการตลาด
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2546 ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 543 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลัก
จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 210 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น 156 ล้านบาท
และค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้น 164 ล้านบาท
แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นดังกล่าวข้างต้น แต่รายได้ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้
จากการดำเนินงาน (Operating cost to income ratio) คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 53.6 แต่เพิ่มขึ้น
จากร้อยละ 50.0 ในไตรมาส 2 ของปี 2546
4. ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
ในไตรมาส 2/2547 ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งสำรองเป็นการทั่วไป
(General reserve) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2547 ธนาคารมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 71,312 ล้านบาท และมีอัตราส่วน
สำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพร้อยละ 83.6
(ยังมีต่อ)
--อินโฟเควสท์ (นห)--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version