กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--บมจ.ธนาคารกรุงไทย
บมจ.ธนาคารกรุงไทย ประกาศผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก ปี 2547 ก่อนการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี โดยมีกำไรสุทธิ 6.8 พันล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรจำนวน 1.58 พันล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในปี 2546 ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 8.7 พันล้านบาท
บมจ.ธนาคารกรุงไทย ประกาศตัวเลขสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) เพิ่มขึ้นในงวดมิถุนายน 2547 นี้ เนื่องจากธนาคารได้ดำเนินการจัดชั้นลูกหนี้ในเชิงคุณภาพที่เข้มงวดขึ้น เพื่อเตรียมรับกับกฎเกณฑ์การกำกับธนาคารพาณิชย์ในวันข้างหน้า ธนาคารเชื่อว่าแนวโน้มการบริหารความเสี่ยงของธนาคารทั้งระบบในอนาคตจะต้องดำเนินการตามแนวทางนี้
แม้ว่าลูกหนี้ที่ถูกจัดชั้นเป็น NPL ครั้งนี้ ส่วนใหญ่ยังชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ แต่เหตุผลที่ถูกจัดชั้นอาจจะเกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่ธนาคารได้ทบทวนดูแล้วเห็นว่า อาจมีผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ได้ในอนาคต เช่น ลูกหนี้อาจมีการดำเนินการบางอย่างไม่เป็นไปตามแผนธุรกิจที่เคยแจ้งไว้กับธนาคาร หรือมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือสมมติฐานทางธุรกิจบางประการที่อาจก่อให้ เกิดข้อสงสัยว่าความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคตของลูกหนี้จะลดลง
ก่อนหน้านี้ ธนาคารได้กันเงินสำรองหนี้สูญทั่วไปตามเกณฑ์คุณภาพสำหรับลูกหนี้กลุ่มหนึ่งที่ยังไม่ถูกจัดชั้นเป็น NPL แต่เพื่อให้สอดคล้องกับความเห็นของทางการที่เกี่ยวข้องในอันที่จะให้มีการจัดสรรสำรองทั่วไปนี้ให้กับลูกหนี้รายตัว ครั้งนี้ ธนาคารจึงจัดชั้นลูกหนี้รายตัวตามเกณฑ์คุณภาพ ดังนั้น การที่ธนาคารจัดชั้นลูกหนี้เข้มงวดขึ้น จึงส่งผลให้ยอด NPL เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ปรับปรุงวิธีการรับรู้รายได้จากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และสินทรัพย์ตามหลักความระมัดระวังมากขึ้นด้วย
ที่ผ่านมา ธนาคารได้ขยายฐานสินเชื่อมาจนถึงระดับที่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แนวนโยบายนับจากนี้ต่อไป ธนาคารจะมุ่งเน้นการดูแลในเชิงคุณภาพ และการบริหารจัดการความเสี่ยงในองค์รวมทุกด้านตามแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อรองรับกับกฎเกณฑ์ Basel II ที่คาดว่าจะประกาศใช้ใน 2-3 ปีข้างหน้านี้
ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่สอง โดยการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิในงวดหลังของปี 2547 ทั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ธนาคารจะใช้ในการบริหารเงินกองทุน โดยการเพิ่มฐานสินทรัพย์อย่างคัดสรรคุณภาพ และเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในรูปเงินปันผล รวมทั้งธนาคารยังไม่มีนโยบายเพิ่มทุน ในกองทุนขั้นที่หนึ่งแต่อย่างใด โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2547 ธนาคารมีเงินกองทุนขั้นที่หนึ่งประมาณ 8% เมื่อเทียบกับเงินกองทุนขั้นต่ำที่ต้องดำรงตามกฎหมาย 4.25%
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ 0-2208-4174-7
ฝ่ายการบัญชี
โทร.0-2260-8333 ต่อ 120-4--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--