กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--บีโอไอ
บอร์ดบีโอไอเห็นชอบปรับเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์กิจการฟอกย้อม
สนับสนุนการเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมสิ่งทอทั้งระบบ
พร้อมให้สิทธิประโยชน์สูงสุด 8 ปี
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุมได้เห็นให้มีการปรับขอบเขตของนิคมอุตสาหกรรมฟอกย้อมให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมสิ่งทอครบวงจร รวมทั้งปรับหลักเกณฑ์และการให้สิทธิประโยชน์ในกิจการฟอกย้อมและแต่งเสร็จ เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าอุตสาหกรรมฟอกย้อมมีความสำคัญต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอทั้งระบบ และยังเป็นการทดแทนการนำเข้าผ้าผืนสำเร็จรูปด้วย
ส่วนสิทธิประโยชน์สำหรับกิจการสิ่งทอ ทั้งที่ตั้งใหม่และโยกย้ายเข้าไปอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสิ่งทอครบวงจรนั้น ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้ กิจการฟอกย้อมและแต่งเสร็จ ซึ่งถือเป็นกิจการที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ จะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ทั้งยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี กิจการผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอหรือกิจการที่เกี่ยวโยงอื่นๆ (ยกเว้นกิจการฟอกย้อมและแต่งเสร็จ) จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ส่วนการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจะแตกต่างกัน กล่าวคือ ถ้าตั้งในนิคมอุตสาหกรรมสิ่งทอครบวงจรที่ตั้งในเขต 1,2,3 จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 5,7และ 8 ปี ตามลำดับ
นายสมพงษ์กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ผ่อนผันให้ผู้ประกอบการกิจการฟอกย้อมรายเดิม ที่ต้องการขยายการลงทุนเพิ่มในที่ตั้งเดิม สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องได้ใบรับรองระบบคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 14000 ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เปิดดำเนินการ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการควบคุมและดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ยังผ่อนผันให้ผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีคุณภาพสูง ที่จำเป็นต้องทำการฟอกย้อมเองในโรงงานเพื่อประโยชน์ในการควบคุมทั้งคุณภาพและเวลา ให้สามารถขอรับการส่งเสริมได้โดยจะต้องโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการควบคุมมลภาวะเช่นเดียวกัน--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--